เป็นชาวเขาเผ่าเดียวที่มีอยู่ในบ้านดู่ โดยขึ้นดอยไปประมาณ 2 กิโลเมตร ตามเรื่องเล่าของผู้เฒ่าผู้แก่กล่าวว่า ได้อพยพมาจากเทือกเขาจากประเทศพม่า เข้ามาตั้งรกรากที่ดอยบ่อและชื่อหมู่บ้านนี้ตั้งตามชื่อผู้นำหมู่บ้านที่ชื่อนายไข่ คือนายม่อนปูไข่และใกล้ๆจะเป็นหมู่บ้านของนายแสง ซึ่งเรียกว่าม่อนปูแสง ซึ่งปัจจุบัน ปูไข่ยังมีชีวิตอยู่ และต่อมาในสมัยกำนันติ๊บ พินิจ พ.ศ. 2525
ได้รวมหมู่บ้านทั้งสองเข้าด้วยกัน และเรียกหมู่บ้านนี้ว่า มูเซอดอยปูไข่ ปัจจุบันได้มีการส่งเสริมให้หมู่บ้านนี้เป็นแหล่งท่องเที่ยว มีการพักแบบ Home Stay แรกเริ่มเป็นนักท่องเที่ยวที่ขอเข้าไปพักแรมเองและผู้ที่เข้ามาช่วยเหลือชาวหมู่บ้านนี้ และมีการพาเพื่อนฝูงเข้ามาพักแรม วิถีชีวิตของชาวเขาหมู่บ้านนี้ยังคงความเป็นชาวเขาเผ่ามูเซออย่างแท้เดิม ไม่มีการเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตเท่าที่ควร หากเปลี่ยนแปลงในเรื่องของความเป็นอยู่ในบางเรื่องเช่นมีการนำไฟฟ้าเข้าไปยังหมู่บ้าน มีการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงอาคารที่อยู่อาศัยบางอย่างแต่ไม่ทั้งหมด และมีการของบประมาณจาก อบจ. เพื่อทำถนนเข้าสู่ดอยปู่ไข่ เพื่อการเดินทางที่สะดวกสบายมากขึ้น
ข่าวเกี่ยวกับบ้านปูไข่
นายสามารถ แก้วมีชัย อดีต ส.ส.เชียงราย เขต 1 ปฏิบัติราชการในหน้าที่ เลขานุการ รมช.คมนาคม ได้เป็นประธานเปิด ถนนทางเข้าหมู่บ้านปู่ไข่ ม.13 ต.บ้านดู่ อ.เมือง จ.เชียงราย ระยะทาง 700 เมตร โดยมีทางหลวงชนบท จ.เชียงราย,นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลบ้านดู่,หัวหน้า สภ.ย่อย ต.บ้านดู่,ตำรวจประจำ สภ.ย่อย ต.บ้านดู่ และหัวหน้าชุดมวลชนสัมพันธ์, ผู้นำชุมชนปู่ไข่,ผู้นำอาวุโสชาวลาหู่ และชาวไทยภูเขาเผ่าลาหู่ ร่วมพิธีเปิดถนนครั้งนี้ สำหรับหมู่บ้านปู่ไข่ เป็นหมู่บ้านบริวารของ บ้านหัวฝาย หมู่ 13 ต.บ้านดู่ อ.เมือง เชียงราย มีชาวไทยภูเขาเผ่าลาหู่อาศัยราว 430 คน 40 หลังคาเรือน และอยู่บนภูเขาติดกับดอยโป่งพระบาทซึ่งเป็นเขตป่า ในอดีตที่ผ่านมาการเข้าถึงหมู่บ้านยากลำบาก เพราะทางสูงชันการคมนาคมไม่สะดวก ส่งผลต่อความเป็นอยู่ของชาวไทยภูเขาเพราะยากจน มีปัญหาการแพร่ระบาดของยาเสพติดมาก แต่ปัจจุบันปัญหายาเสพติดได้ลดลง ทางราชการได้ให้การสนับสนุนการสร้างถนนมาตลอดแต่ไม่สมบูรณ์ กระทั่งได้ผลักดันให้ ทางหลวงชนบท จ.เชียงราย เข้ามาสร้างถนนด้วยงบ 1,700,000 บาท เป็น ถนนคอนกรีต และมีทางระบายน้ำด้านข้างรวมระยะทาง ยาว 700 เมตร ถึงหมู่บ้าน ซึ่งใช้ได้ดีในการป้องกันน้ำเซาะในช่วงฤดูฝน ทำให้ชาวบ้านดีใจมาก
นายไอใจ ปูหมื่อ ผู้นำชุมชนปู่ไข่ กล่าวว่าชาวไทยภูเขาได้ช่วยกันสร้างบ้านพักแบบชาวไทยภูเขา มีห้องน้ำสะอาด มีประปาภูเขา เพื่อเปิดให้มีการเข้าพักแบบโฮมสเตย์ คืนละ 300 บาท โดยที่พักเป็นบ้านทำจากหญ้าคาและไม้ไผ่ ส่วนห้องน้ำ มีชักโครกมาตรฐานพร้อมมีน้ำประปาภูเขา จึงน่าชักชวนนักท่องเที่ยวมาสัมผัสอากาศบริสุทธิ์และวัฒนธรรมชนเผ่า พร้อม มีสินค้าโอทอปทำจากฝีมือชาวไทยภูเขาเช่น สร้อยคอ,สร้อยแขนและผ้าทอ ทางตำรวจจะได้ฝึกให้ชาวไทยภูเขาร่วมกับตำรวจในการป้องกันยาเสพติดให้หมด และช่วยกันรักษาความปลอดภัยให้นักท่องเที่ยวด้วย ที่สำคัญใกล้ๆยัง มีน้ำตกโป่งพระบาทที่สวยงาม และยังมีการค้นพบร่องรอยบนก้อนหินกว่า 10 รอย คาดว่าอาจเป็นรอยเท้าของสัตว์ดึกดำบรรพ์ เช่น ไดโนเสาร์ ย่ำลงบนดินหรือบนหินร้อน จนแข็งตัวกลายเป็นหินอายุนับล้านปี เป็นรอยเท้าหินบางรอยมีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางราว 70 ซ.ม.อยู่บนสันเขาน้ำตกโป่งพระบาท ห่างหมู่บ้านไปราว 3-4 ก.ม. จึงอยากเชิญชวนนักท่องเที่ยวมาสัมผัสบรรยากาศดูบ้าง..
http://www.chiangraifocus.com/forums/index.php?topic=321456
|