|
สถานการณ์หมอกควันเชียงราย |
| |
 ประกาศเมื่อ
27 กุมภาพันธ์ 2012 เวลา 15:00:52 เปิดอ่าน
1235 ครั้ง |
 |
|
สถานการณ์ควันไฟที่ปกคลุม จ.เชียงราย หนาตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง หรือ สังเกตได้จากการมองเห็นระยะไกล ทั้งพื้นราบและบนพื้นที่สูง ซึ่งมีหมอกควันหนาทึบมากขึ้น ทัศนวิสัยต่ำลงอย่างมาก โดยการมอง..ผลกระทบเห็นว่ามีควันไฟสีขาวปกคลุมทั่วเมือง ทั้งนี้หมอกควันหนาทึบ ทำให้มีค่าฝุ่นละอองในอากาศ จ.เชียงราย ซึ่งมีเครื่องตรวจวัดอยู่ 2 จุด คือ ด้านหนาสำนักงาน ปภ.เขต 15 เกินค่ามาตรฐาน ด้านหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งรณรงค์พร้อมประชาสัมพันธ์ขอความร่วมมือประชาชน การงดเผาวัชพืชในที่โล่งแจ้ง เนื่องจากจะก่อให้เกิดหมอกควันปริมาณหนาขึ้นอย่างต่อเนื่อง และจะส่งผลกระทบต่อประชาชนโดยเฉพาะเรื่องของการสูดดม หรือ การแสบตา ถ้าหากออกในที่โล่งแจ้งในช่วงระยะนี้
รายงานข่าวจาก จ.เชียงราย แจ้งว่าเมื่อวันที่ 26 ก.พ.นี้ สภาพอากาศโดยทั่วไปของหลายอำเภอใน จ.เชียงราย พบว่ามีปัญหาฝุ่นละอองปกคลุมไปทั่วบริเวณทำให้สามารถมองเห็นความขมุกเขมัวได้โดยทั่วไป โดยทางกรมควบคุมมลพิษตรวจวัดปริมาณฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 10 ไมครอน ในอากาศ ว่าใน อ.เมือง สามารถวัดได้มากถึง 175.96 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตรแล้ว ซึ่งถือว่ามากกว่าค่ามาตรฐานความปลอดภัยที่กำหนดไว้ที่ 120 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ซึ่งถือว่าตัวเลขเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่องหลังจากเมื่อวันก่อนอยู่ที่ 143.78 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตรเท่านั้น ขณะที่ปัญหาการเรื่องไฟป่าและการเผาเพื่อทำการเกษตรยังคงมีอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะประเทศเพื่อนบ้านที่ติดกันหรือบางพื้นที่ของจังหวัดที่เป็นป่าเขาแห้งแล้ง เช่น เทือกเขาแถบ อ.ดอยหลวง-เวียงเชียงรุ้ง เป็นต้น
ซึ่งทางกรมควบคุมมลพิษแจ้งว่าผลการตรวจวัดคุณภาพอากาศในพื้นที่ภาคเหนือ ในวันที่ 25 ก.พ.พบปริมาณฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 10 ไมครอน เฉลี่ย 24 ชั่วโมง มีค่าเฉลี่ยอยู่ระหว่าง 76.2-237.5 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ซึ่งถือว่าคุณภาพอากาศโดยรวมอยู่ในระดับปานกลางถึงมีผลกระทบต่อสุขภาพ ดังนั้นกรมควบคุมมลพิษจึงขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินมาตรการลดและควบคุมการเผาในที่โล่งอย่างเร่งด่วน โดยเฉพาะการงดการเผาริมทาง งดการเผาในพื้นที่ป่าและไฟป่า รวมถึงขอความร่วมมือจากประชาชนงดเผาขยะ เศษวัสดุการเกษตร และกิ่งไม้ใบหญ้า เป็นต้น เพื่อลดระดับความรุนแรงของสถานการณ์หมอกควันที่เกิดขึ้น
ด้านนายแพทย์ชำนาญ หาญสุทธิเวชกุล นายแพทย์สาธารณสุข จ.เชียงราย กล่าวว่าตั้งแต่เดือน ก.พ.-มี.ค.ของทุกปีมักมีฝุ่นละอองขนาดเล็กในอากาศเพิ่มสูง สาเหตุเพราะการเผาในพื้นที่โล่งแจ้งจะทำให้หมอกควันแพร่กระจายไปไกลถึง 10 กิโลเมตร และภาคเหนือบางพื้นที่อยู่ในหุบเขาทำให้เกิดสภาพอากาศปิด จึงเป็นอันตรายต่อสุขภาพประชาชนในพื้นที่ได้ เช่น โรคหอบหืด ภูมิแพ้ โรคทางเดินหายใจทุกชนิด โรคตาอักเสบ โรคติดเชื้อเชื้อทางเดินหายใจส่วนบน โรคผิวหนังอักเสบ เป็นต้น ดังนั้นจึงขอความร่วมมือชาวเชียงรายให้งดการเผาทุกชนิดและขอความร่วมมือเจ้าหน้าที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ช่วยสอดส่องดูแล เฝ้าระวัง เตือนชาวบ้าน หากพบเห็นขั้นแรกให้ตักเตือน หากฝ่าฝืนไม่เชื่อฟัง ให้แจ้งเจ้าหน้าที่จับกุมและดำเนินการตามกฎหมายต่อไป ซึ่งตามพระราชบัญญัติสาธารณสุข พ.ศ.2535 หากประชาชนเผาขยะในหมู่บ้าน ก่อเหตุรำคาญจะมีโทษเปรียบเทียบปรับ 2,000 บาท. |
|
|
|
|
|
|
|
เชียงของยึดไม้พะยูงซุกพงหญ้าเตรียมข้ามโขงส่งจีน 