เหนือสุดในสยาม ชายแดนสามแผ่นดิน ถิ่นวัฒนธรรมล้านนา ล้ำค่าพระธาตุดอยตุง
 

  เกาะติดข่าว จาก เชียงรายโฟกัส ทุกวัน..
 

รมว.คมนาคมตรวจท่าเรือเชียงแสนใหม่ เล็งเพิ่มเรือสินค้าไทยในแม่น้ำโขงรับเออีซี
 
ประกาศเมื่อ 09 เมษายน 2012 เวลา 00:44:34 เปิดอ่าน 1245 ครั้ง
  รมว.คมนาคมตรวจท่าเรือเชียงแสนหลังเริ่มดำเนินการแล้ว พอใจท่าเรือมีความพร้อม แต่ติงต้องหาที่ให้เอกชนเพิ่ม ส่วนสถานการณ์เดินเรือลำน้ำโขงช่วงหน้าแล้ง พบเรือลาวให้บริการคึกคักหลังเรือจีนหาย เตรียมหารือเอกชนเพิ่มเรือไทยรับเออีซี    

วันนี้ (8 เม.ย.) นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เดินทางไปตรวจการดำเนินการของท่าเรือแม่น้ำโขงเชียงแสนแห่งที่ 2 ตั้งอยู่ปากแม่น้ำกก บ้านสบกก ต.บ้านแซว อ.เชียงแสน จ.เชียงราย หลังจากท่าเรือดังกล่าวก่อสร้างแล้วเสร็จแล้วตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย.ที่ผ่านมา เพื่อรองรับการขนส่งทางน้ำในเขตสี่เหลี่ยมเศรษฐกิจไทย สปป.ลาว พม่า และจีนตอนใต้ ตามข้อตกลงเดินเรือพาณิชย์แม่น้ำโขงตอนบน   

ทั้งนี้ผลการตรวจสอบพบว่า มีเรือพาณิชย์เข้าใช้บริการไม่มากนัก ซึ่งเป็นไปตามปกติของฤดูแล้ง โดยเรือส่วนใหญ่ให้บริการเป็นเรือสินค้าของ สปป.ลาว ขนาด 100-150 ตัน ที่แล่นให้บริการขนส่งสินค้าในแม่น้ำโขงมากขึ้น เพื่อทดแทนเรือสินค้าจากจีนที่มีขนาดกว่า 200-300 ตัน ซึ่งไม่เหมาะกับฤดูแล้งที่น้ำในแม่น้ำโขงแห้งขอดลง รวมทั้งยังคงอยู่ในความหวาดกลัวจากเหตุการณ์ยิงลูกเรือจีน 13 ศพ เมื่อเดือน ต.ค. 2554 บริเวณสามเหลี่ยมทองคำชายแดนพม่า-สปป.ลาว ด้วย

นายจารุพงศ์กล่าวว่า ท่าเรือแห่งใหม่นี้มีความพร้อมอย่างเต็มที่แล้ว โดยความสามารถรองรับสินค้านำเข้า และส่งออกได้ปีละกว่า 6 แสนตัน ส่วนปัญหาที่พบตอนนี้คือ ความไม่สะดวกของผู้ประกอบการ เนื่องจากยังไม่ได้มีการย้ายสำนักงานดำเนินการ จากเดิมที่ตั้งอยู่บริเวณใกล้ท่าเรือแห่งเก่า ในเขตเทศบาล ต.เวียงเชียงแสน มายังท่าเรือแห่งใหม่ ขณะเดียวกัน ภายในท่าเรือแห่งใหม่เองก็ยังไม่มีพื้นที่ให้ภาคเอกชนตั้งสำนักงาน เพราะออกแบบให้เฉพาะหน่วยงานภาครัฐเข้ามาตั้งสำนักงานเท่านั้น
       
       “ทางท่าเรือคงจะต้องเร่งจัดสรรพื้นที่สำหรับตั้งสำนักงาน หรือโกดัง เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ประกอบการต่อไป ส่วนเรื่องน้ำโขงแห้งถือเป็นเรื่องธรรมชาติที่มีเป็นประจำทุกปี และยังไม่เป็นปัญหาต่อการเดินเรือสินค้าแต่อย่างใด แต่ปัญหาที่น่าห่วงก็คือ ขณะนี้ ไม่มีเรือไทยวิ่งขนส่งสินค้ามากกว่า ต่อจากนี้คงต้องพูดคุยกันเรื่องให้ผู้ประกอบการไทยจัดหา หรือซื้อเรือบรรทุกสินค้าของคนไทยเอง เพื่อรองรับประชาคมอาเซียน หรือเออีซีในปี 2558 ซึ่งคาดว่าการค้าการนำเข้าส่งออกจะมีมูลค่าสูงขึ้น” นายจารุพงษ์กล่าว
       
       รายงานข่าวแจ้งว่า สำหรับท่าเรือแม่น้ำโขงเชียงแสนแห่งที่ 2 ตั้งอยู่บนเนื้อที่ประมาณ 387 ไร่ 1 งาน 44 ตารางวา ติดชายแดนไทย-สปป.ลาว ซึ่งกระทรวงคมนาคมได้ว่าจ้างเอกชนให้ทำการก่อสร้าง โดยใช้งบประมาณ 1,546.4 ล้านบาท โดยเริ่มก่อสร้างตั้งแต่วันที่ 12 พ.ค. 2552 ถึงวันที่ 28 ธ.ค.2554 และเปิดใช้งานตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย. ที่ผ่านมา ตามมติคณะรัฐมนตรี โดยที่มาของโครงการนี้ สืบเนื่องจากท่าเรือแห่งแรกตั้งอยู่กลางเมืองโบราณ และชุมชน อีกทั้งมีความคับแคบ และมีศักยภาพรองรับสินค้าได้เพียงปีละประมาณ 3 แสนตันเท่านั้น 

อย่างไรก็ตาม จากการสำรวจการขนส่งทางเรือในแม่น้ำโขงในปัจจุบัน พบว่า มีเรือสินค้าไทยน้อยมาก โดยปัจจุบัน มีมีเรือสัญชาติจีนที่ทำการขนส่งในแม่น้ำโขงประมาณ 90 ลำ แต่ได้ลดปริมาณลงหลังเกิดเหตุการณ์ยิงลูกเรือจนเสียชีวิต 13 ศพ เมื่อเดือน ต.ค. 2554 ทำให้เรือสินค้าลาวเพิ่มขึ้นเป็นกว่า 140 ลำแล้ว จากเดิมที่มีเพียงเรือลำเล็กๆ ประมาณ 70 ลำ โดยมีเรือของลาวจากแหล่งอื่นๆ เช่น หลวงพระบาง เข้ามาให้บริการเพิ่มมากขึ้น 
       
       ขณะที่เรือของพม่าพบว่ามีทั้งสิ้น 25 ลำ ส่วนเรือไทยมีเพียง 3 ลำเท่านั้น โดยผู้ประกอบการระบุว่า สาเหตุที่ไม่มีเรือสินค้าไทยนั้น เป็นเพราะเอกชนไทยเลือกที่จะเข้าไปถือหุ้นกับเอกชนจีน หรือประเทศอื่นๆ มากกว่า ประกอบกับการเดินเรือแม่น้ำโขงยังมีความเสี่ยง เพราะไม่มีมาตรฐานเรื่องการประกันภัย อีกทั้งยังไม่มีการจ่ายเงินค่าขายสินค้าผ่านธนาคาร ทำให้ต้องใช้เงินสด หรือแลกสินค้ากัน นอกจากนี้ การเดินเรือแม่น้ำโขงต้องอาศัยความชำนาญเฉพาะซึ่งทางจีนมีมากกว่า และยังมีเหตุผลในเรื่องอิทธิพลแถบลุ่มแม่น้ำโขงอีกด้วย
       
       สำหรับการค้าชายแดนผ่านท่าเรือเชียงแสนถือว่ามีมูลค่าเพิ่มขึ้นทุกปี โดยปี 2554 มีการส่งออก 8,992.65 ล้านบาท นำเข้า 1,100.12 ล้านบาท และปีงบประมาณ 2555 ตั้งแต่เดือน ต.ค.2554-ก.พ.2555 มีการส่งออกแล้ว 4,480.40 ล้านบาท นำเข้า 180.08 ล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นการค้ากับจีน โดยสินค้าส่งออกส่วนใหญ่เป็นส่วนน้ำมันดีเซล ไก่แช่แข็ง น้ำมันปาล์ม ส่วนสินค้านำเข้าส่วนใหญ่เป็นผลไม้ เมล็ดทานตะวัน กระเทียม ดอกไม้เพลิง เห็ดหอม เป็นต้น 
แหล่งข่าว : ผู้จัดการออนไลน์    / นำเสนอโดย : เชียงรายโฟกัสดอทคอม
  :: ข่าวอื่นๆที่น่าสนใจ
ขอเชิญศิษย์เก่าวิทยาลัยอาชีวศึกษาพณิชยการเชียงราย (โรงเรียนพณิชยการเชียงราย) ร่วมงานคืนสู่เหย้า
ขอเชิญศิษย์เก่า โรงเรียนพณิชยการเชียงรายทุกท่าน ร่วมงานคืนสู่เหย้า "ปิ๊กบ้านเฮา จาวพาณิชย์เจียงฮาย ครั้งที่ 5" ในวันเสาร์ ที่ 12 เมษายน 2557 ตั้งแต่เวลา 13.00 น เป็นต้นไป ติดต่อสอบถามได้ที่วิทยาลัยฯ ได้ทุกวัน
31 มีนาคม 2014 เวลา 13:57:39
ขอเชิญชมนิทรรศการ ขัวศิลปะ ค่ายศิลป์ สร้างสรรค์
นิทรรศการจัดแสดงระหว่างวันที่ 30 มีนาคม - 20 เมษายน 2557 เปิดนิทรรศการ วันอาทิตย์ที่ 30 มีนาคม 2557 เวลา 11.00 น.
31 มีนาคม 2014 เวลา 09:33:14
พิธีเปิดสำนักงานอัยการคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมาย จ.เชียงราย
เชิญร่วมพิธีเปิดป้าย และ เปิด สำนักงานอัยการคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายและการบังคับคดีจังหวัดเชียงราย ณ สำนักงานอัยการจังหวัดเชียงราย (ตรงข้ามศาลจังหวัดฯ) วันอังคารที่ ๑ เมษายน ๒๕๕๗ เวลา 08-12.00 น.
29 มีนาคม 2014 เวลา 14:54:38
โตโยต้า จัดประกวดคนที่ใช่ ในสไตล์ที่เป็นคุณ กับกิจกรรม Yaris The PRESENTER 2014
บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด โดย มร.เคียวอิจิ ทานาดะ กรรมการผู้จัดการใหญ่ จัดแถลงข่าวกิจกรรมการประกวด Yaris The PRESENTER 2014 ค้นหาคนที่ใช่ เพื่อที่จะก้าวสู่การเป็นพรีเซนเตอร์ TOYOTA YARIS และแสดงนำในภาพยนตร์โฆษณา TOYOTA YARIS เป็นระยะเวลา
29 มีนาคม 2014 เวลา 12:23:13

  :: ข่าวทั้งหมด »
 
 
 
จองโรงแรมเชียงราย
บริการรับจองโรงแรมในจังหวัดเชียงราย ราคาประหยัด รับส่วนลดสูงสุด 75% Online Booking
จองตั๋วเครื่องบินออนไลน์
บริการรับจองตั๋วเครื่องบินออนไลน์ ทั้งในประเทศ และต่างประเทศ
 
 

เกี่ยวกับเรา
เกี่ยวกับเชียงรายโฟกัส
กิจกรรมของเว็บ
เงื่อนไขการให้บริการ
ติดต่อทีมงาน
ช่วยเหลือ
แจ้งปัญหาการใช้งาน/อัพเดทข้อมูล
คำถามที่พบบ่อย
คำแนะนำการใช้งานเว็บไซต์
รวมทุกหัวข้อบนเว็บไซต์ (Site Map)
ข้อมูลเพิ่มเติม
สถิติ โดยรวมของเว็บ
 
เว็บไซต์ V.2010 , V.2012 , V.2018 , V.2020
ติดต่อโฆษณา


สงวนลิขสิทธิ์ © 2007-2021 https://www.chiangraifocus.com