(13 พ.ย.56) พล.อ. พฤณท์ สุวรรณทัต รมช.คมนาคม วันนี้ได้มาตรวจความพร้อมของตัวสะพานฯและบริเวณโดยรอบฯถนนเชื่อมด่านฯ-สะพาน ทุกอย่างเรียบร้อยเสร็จสมบูรณ์ 100 % ตรวจแผนงานของกรมการขนส่งทางบกที่ดำเนินการสร้างศูนย์เปลี่ยนถ่ายสินค้าที่อยู่ติดกับด่านศุลกากรฯก่อนถึงสะพานฯเนื้อที่ 280 ไร่ งบประมาณ 2,000 ล้าน(งบจาก 2ล้านล้าน)โดยขั้นตอนอยู่ระหว่างการเวณคืนเจรจากับชาวบ้านเจ้าของที่ คาดปี 2559 แล้วเสร็จ จากนั้นระบบรางรถไฟฯก็จะเชื่อมต่อ ส่วนกรณีชาวบ้านขึ้นป้ายคัดค้านไม่ยอมเวณคืนเป็นเรื่องปกติซึ่งต้องเจรจาต่อไป นอกจากนี้ได้ข้ามไปสำรวจเส้นทาง R3a เพื่อเตรียมความพร้อมด้านคมนาคมขนส่งระหว่างไทย-ลาว-จีน ส่วนเรื่องนิคมฯเชียงของทราบจากหอการค้าว่าอยู่ระหว่างดำเนินการซึ่งอยู่ในแผนที่จะเชื่อมกับศูนย์เปลี่ยนถ่ายสินค้าของกรมการขนส่งทางบก

นายชัชวาล บุญเจริญกิจ อธิบดีกรมทางหลวง  ยืนยันพิธีเปิดสะพานฯวันที่ 11 เดือน ธันวาคม 2556 (11/12/2013) เวลา 10.00 น.โดยใช้รูปแบบเดียวกันกับพิธีเปิดสะพานมิตรภาพทั้ง 3 แห่งที่ผ่านมา โดยสมเด็จพระเทพฯเสด็จเป็นองค์ประธานเปิด ฝ่ายลาวโดยรองประธาน สปป.ลาว โดยกำหนดการเสด็จเบื้องต้น ก่อน 09.00 น. เสด็จโดย ฮ. ลงที่สนามโรงเรียนเชียงของวิทฯ 09.00 น. เสด็จถึงด่านตรวจคนเข้าเมืองเชียงของ จากนั้นเสด็จเปิดนิทรรศการฯที่ด่านฯของหน่วยงานศุลกากร สตม. กรมทางหลวง หอการค้าฯ  จากนั้น 09.30 เสด็จบนสะพานฯ (ช่อง NBT ถ่ายทอดสด 09.30-10.00 น. ) นายกฯไทยและลาวกล่าวรายงาน ฝ่ายละ  5 นาที พิธีเปิดฯ 10.00 น. จากนั้นสมเด็จพระเทพฯ เสด็จปฏิบัติพระราชกรณียกิจยัง สปป.ลาว เวลา 11.00-11.30 เสด็จเสวยพระกระยาหารเที่ยงที่โรงแรมเชียงของทีคการ์เด้น เสร็จแล้วเสด็จกลับโดย ฮ. ณ รร เชียงของวิทฯ ซึ่งกำหนดการสมบูรณ์จะชัดเจนหลังสำนักพระราชวัง ราชองค์รักษ์ กรมโยธาฯ ลงพื้นที่ประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอีกครั้งวันที่ 20 พ.ย. 56 ที่ ด่านตรวจคนเข้าเมืองเชียงของ(หน้าสะพานฯ) จากนั้นจะประชุมคณะกรรมการพิธีเปิดร่วมไทย-ลาว อีกครั้งในวันที่ 1 ธ.ค. 56 ซึ่งหลังพิธีเปิดฯตั้งแต่วันที่ 12 ธันวาคม 2556 เป็นต้นไป ทางคณะกรรมาธิการบริหารและบำรุงรักษาสะพานมิตรภาพ 4(เชียงของ-ห้วยทราย) ร่วมไทย-ลาว ได้กำหนดหลักเกณฑ์และข้อปฎิบัติให้ประชาชนสามารถใช้บริการข้ามสะพานได้ตามปกติตั้งแต่เวลา 06.00 น-22.00 น.โดยกำหนดอัตราค่าธรรมเนียมและรายละเอียดดังนี้

อนุญาตให้เฉพาะยานพาหนะทุกประเภทที่ใช้เครื่องยนต์ขับเคลื่อน ยกเว้นรถสองแถวทุกประเภท รถสามล้อเครื่อง รถจักยานยนต์ รวมทั้งรถที่ใช้เพื่อการเกษตรและรถดัดแปลงต่างๆ ใช้ความเร็วไม่เกิน 50 กม./ชั่วโมง  ส่วนอัตราค่าธรรมเนียมผ่านสะพาน ประเภทรถยนต์นั่ง(ไม่เกิน 7 คน)และรถบรรทุก 4 ล้อ ไทย 50 บาท ลาว 13,000 กีบ,รถโดยสารขนาดกลาง(เกิน 12 ที่นั่งแต่ไม่เกิน 24 ที่นั่ง) ไทย 150 บาท ลาว 40,000 กีบ,รถโดยสารขนาดใหญ่(เกิน 24 ที่นั่งขึ้นไป) ไทย 200 ลาว 54,000 กีบ,รถโดยสารขนาดเล็ก(เกิน 7 ที่นั่งแต่ไม่เกิน 12 ที่นั่ง) ไทย 100 ลาว 27,000 กีบ,รถบรรทุก 6 ล้อ ไทย 250 ลาว 67,000 กีบ,รถบรรทุก 10 ล้อ ไทย 350 ลาว 94,000 กีบ,และรถบรรทุก 10 ล้อขึ้นไป อัตราค่าธรรมเนียมผ่านสะพานไทย 500 และลาว 135,000 กีบ โดยการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมผ่านสะพานให้เก็บเป็นเงินบาทไทยเมื่อขึ้นสะพานในฝั่งไทยและให้เก็บเป็นเงินกีบลาวเมื่อขึ้นสะพานในฝั่งลาวตามอัตราค่าธรรมเนียมดังกล่าว ส่วนการสมโภชน์เฉลิมฉลองสะพานฯหลังเปิดใช้สะพานฯ หรือหน่วยงานไดๆจะจัดกิจกรรมก็ขึ้นอยู่กับระดับจังหวัดและทางแขวงบ่อแก้วของ สปป.ลาว.ที่จะพิจารณาร่วมกัน