|
เอก |
วันที่ |
06 พฤษภาคม 2009 |
เวลา |
00:07:05 |
|
IP |
117.47.225.208 |
|
|
|
เตือนผู้ชายระวังหญิงคนนี้นะครับ
|
เตือนผู้ชายระวังหญิงคนนี้นะครับ |
|
|
ความคิดเห็นที่
1 |
|
เอก |
|
06 พฤษภาคม 2009
00:07:54 |
|
|
IP :
117.47.225.208 |
|
เตือนผู้ชายระวังหญิงคนนี้นะครับ |
|
ความคิดเห็นที่
2 |
|
เอก |
|
06 พฤษภาคม 2009
00:09:03 |
|
|
IP :
117.47.225.208 |
|
เตือนผู้ชายระวังหญิงคนนี้นะครับ |
|
ความคิดเห็นที่
3 |
|
เสี่ยวเอ้อ |
|
06 พฤษภาคม 2009
09:40:51 |
|
|
IP :
202.176.126.26 |
|
สัตว์โลก ย่อมเป็นไปตามกรรม ขอให้คิดดี ทำดี แล้วภพหน้าขอให้ ได้รับแต่สิ่งดีๆ กรรมดีในภพนี้คือ หยุดทำบาป ด้วยการ ไม่แพร่เชื้อให้ผู้อื่นอีกต่อไป ..... ปรกติ ฮิทธีเรีย มันเป็นโรคที่มีกรรมอยู่แล้ว มาเจอ HIV. อีกยิ่งเพิ่มสองเด้งเลย.. ขอให้เธอคนนี้ได้พบแต่ความสงบสุขด้วยเถิด..... |
|
ความคิดเห็นที่
4 |
|
เสี่ยวเอ้อ |
|
06 พฤษภาคม 2009
09:44:12 |
|
|
IP :
202.176.126.26 |
|
ความรู้เกี่ยวกับ "ฮิททีเรีย" เราคงเคยคุ้นหูกับคำว่า ฮิสทีเรียมาบ้างนะคะ แต่ยังมีหลายคนที่มีความเข้าใจผิดเกี่ยวกับเรื่องนี้อยู่มาก โดยเข้าใจกันว่า คนที่เป็นฮิสทีเรียคือ คนที่มีความต้องการทางเพศสูง
แต่ความเป็นจริงไม่ได้เป็นเช่นนั้นเลยค่ะ เรามาเข้าใจคนพวกนี้ให้ถูกต้องดีกว่า
พูดง่าย ๆ เลยนะคะ คำว่า ฮิสทีเรียมีอยู่สองแบบค่ะ แบบหนึ่งเป็น โรคประสาทฮิสทีเรีย อีกแบบหนึ่ง คือ บุคลิกภาพแบบฮิสทีเรีย ซึ่งอาจพบได้ทั้งในผู้หญิงและผู้ชาย
จะพูดถึงคนที่มีบุคลิกภาพแบบฮิสทีเรียก่อนนะคะ คนพวกนี้จะเป็นคนที่มีลีลา ท่าทางและมีการแสดงออกมากจนเหมือนเล่นละคร อาจมีทีท่าชายหูชายตา เชิญชวนรวยจริตและยั่วยวน เป็นลักษณะที่แสดงออกมาเพื่อดึงดูดความสนใจ เหมือนจะเชิญชวนทอดสะพาน ให้เพศตรงข้าม ทำให้มักเข้าใจผิดว่า มีความปรารถนาทางเพศสูง ทั้ง ๆ ที่อาจมีความบกพร่องในด้าน ความรู้สึกทางเพศด้วยซ้ำ คนที่มีบุคลิกภาพแบบนี้จะมีความเป็นเด็กสูง ชอบเรียกร้องความสนใจอยู่เรื่อย ๆ จึงมีการแสดงออกทางอารมณ์ค่อนข้างมาก
ที่จริงคนเหล่านี้เป็นคนที่น่าเห็นอกเห็นใจค่ะ ที่เขาเป็นแบบนี้เพราะขาดความรักในช่วงหนึ่งของชีวิต ซึ่งเป็นช่วงที่เขาต้องการอย่างมากจึงทำให้โหยหาความรักอยู่ตลอดเวลา ทุกครั้งที่มีความรักก็จะไม่รู้จักพอเหมือนกับถมเท่าไรก็ไม่เต็มสักที แต่เป็นความต้องการในเรื่องความรักนะคะ ไม่ใช่เป็นเรื่องของความใคร่อย่างที่ใคร ๆ คิดกัน
ดังนั้น ถ้าเจอใครสักคนที่มีท่าทางรวยจริต เสมือนจะเชิญชวนก็อย่าไปเอาเปรียบเขานะคะ ให้ความเมตตาและเห็นอกเห็นใจเขาดีกว่า และปฏิบัติกับเขาเหมือนกับที่ทำกับคนอื่นๆ ทั่ว ๆ ไปค่ะ
ส่วนโรคประสาทฮิสทีเรียมีอยู่สองแบบ
แบบแรก เรียกว่า คอนเวอร์ชัน รีแอคชั่น (conversion reaction) คนที่เป็นเวลามีความเครียด กังวลใจ หรือเกิดความขัดแย้งในจิตใจมาก ๆ จะเกิดอาการผิดปกติที่ระบบการเคลื่อนไหวหรือการรับรู้ เช่น เป็นอัมพาต กล้ามเนื้ออ่อนกำลัง ชาที่แขนและขา พูดไม่มีเสียง พูดไม่ได้ ตามองไม่เห็น กล้ามเนื้อกระตุก ชัก ซึ่งเป็นอาการที่ตรวจไม่พบความผิดปกติทางร่างกาย หรือทางระบบประสาทแต่อย่างใด
แบบที่สอง เรียกว่า ดีสโซซิเอทีฟ (dissociative type) เช่น สูญเสียความจำในบางเรื่องที่กระทบกระเทือนจิตใจจนไม่ต้องการรับรู้ จำชื่อตัวเองไม่ได้ จำเวลา สถานที่ บุคคลไม่ได้ โดยไม่ได้เกี่ยวกับความผิดปกติทางสมอง หรือมีบุคลิกภาพเปลี่ยนไปจากเดิม
ยกตัวอย่าง จากคนสุภาพเรียบร้อยก็กลายเป็นคนชอบ เฟลี้ด หรือดุดัน+++มเกรียม พวกที่มีอาการผีเข้า ทรงเจ้าเข้าทรง ก็จัดเป็นโรคประสาทฮิสทีเรียประเภทนี้เช่นกัน แต่พวกที่แกล้งทำ ไม่ว่าจะแกล้งทำเพื่อจุดมุ่งหมายใดก็ตาม ไม่เกี่ยวกับโรคประสาทฮิสทีเรียนะคะ
ก็ทราบเกี่ยวกับเรื่องฮิสทีเรียกันพอสมควร ต่อจากนี้ไปเราคงไม่เข้าใจผิด และไม่เหมารวมว่าคนที่เป็นฮิสทีเรีย คือ คนที่มีความต้องการทางเพศสูง หรือหาว่าเป็นคนที่มักมากในกามอีกแล้วนะคะ และก็อย่าลืมให้ความเข้าใจและเห็นอกเห็นใจพวกเขาด้วยค่ะ ที่มา : อมรากุล อินโอชานนท์ กรมสุขภาพจิต |
|
ขณะนี้เชียงรายโฟกัส ได้ย้ายไปใช้เว็บบอร์ดใหม่
ท่านสามารถเข้าไปใช้บริการได้ที่นี่ http://www.chiangraifocus.com/forums/index.php
|