|
เสี่ยวเอ้อ |
วันที่ |
08 กรกฏาคม 2009 |
เวลา |
17:15:21 |
|
IP |
110.169.40.134 |
|
|
|
ที่1ของเอเชียและที่8ของโลก
|
ไทยแลนด์ มีจำนวนของผู้ติดเชื้อหวัดใหญ่ 2009และเสียชีวิตเป็นอันดับ 1 ในเอเชียและเป็นอันดับ8ของโลก งามหน้าจริงๆครับ ทานร้อน ช้อนกลาง ล้างมือ พูดได้แค่นี้ครับ รมต.สาธารณะสุขไทย ติดเชื้อทีหลังเพื่อนแต่แซงพรวดๆ อเมริกาไต้ถิ่นกำเนิดเชื้อและระบาดแต่แถบนั้นกลับตายไม่มากเช่น กัวเตมาลา เปรู อุรุกวัย ปรากวัย ของเราอื้อหือ ไม่อยากพูดเลยครับ อ่อนจริงๆครับ รัฐบาลนี้ คนไทยโชคร้ายเหลือเกินที่ได้ ปชป. มาบริหารประเทศครับ |
|
|
ความคิดเห็นที่
1 |
|
เด็กดอย |
|
08 กรกฏาคม 2009
17:38:08 |
|
|
IP :
117.47.44.239 |
|
เย้ย วก วน มาเรื่องการเมืองจนได้ เอาน่า น่าจะให้มันเป็นคนละเรื่องนะ เคลียดปวดหัวอ่ะ |
|
ความคิดเห็นที่
2 |
|
เสี่ยวเอ้อ |
|
08 กรกฏาคม 2009
18:02:30 |
|
|
IP :
110.169.40.134 |
|
ระบุระลอก 2 รุนแรงกว่าเดิม ด้าน ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา ศูนย์ความร่วมมือองค์การอนามัยโลกไวรัสสัตว์สู่คน อาจารย์ประจำคณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า การระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ในระลอกแรก ต้องยอมรับว่า เชื้อติดเร็ว เก่ง และติดดี มีประสิทธิภาพมาก กว่าไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาล สิ่งที่น่าเป็นห่วงคือ การระบาดใหญ่ในระลอก 2 ที่โรคมีความ รุนแรงมากขึ้น ซึ่งข้อมูลที่ได้จากเม็กซิโก พบว่าผู้ป่วยจะมีอายุระหว่าง 5-50 ปี แต่ที่เป็นเยอะและน่าเป็นห่วงคือ กลุ่มวัยรุ่นไปจนถึงอายุ 45 ปี ที่ติดง่ายกว่ากลุ่มอื่น ๆ ดังนั้นสิ่งที่กระทรวงสาธารณสุขต้องเฝ้าระวังคือ เมื่อมีผู้ป่วยที่มีภาวะปอดบวมแทรกซ้อนมากขึ้นเรื่อย ๆ ควรจะมีการยกระดับความรุนแรงของโรค ขณะเดียวกันควรระวังบุคลากรทางสาธารณสุขไม่ว่าจะเป็นแพทย์ พยาบาล เพราะเป็นกลุ่มเสี่ยงที่จะได้รับเชื้อเช่นกัน ต้องบอกทุกคนว่าไม่ประมาท มาตรการ หรือแนวทางที่อยากเห็น คือ การสั่งให้ผู้ป่วยโรคไข้หวัดทุกคนหยุดเรียน หยุดงาน พักผ่อนอยู่กับบ้านจนกว่าจะหาย เพื่อจะได้ไม่ไปแพร่เชื้อ หากอาการไม่ดีขึ้นควรรีบไปพบแพทย์ มิฉะนั้นตัวเลขผู้ป่วยคงจะเพิ่มขึ้นจำนวนมาก และควรเร่งประชาสัมพันธ์ให้ความรู้กับประชาชนในทุกสื่อไม่ว่าจะเป็นหนังสือพ ิมพ์ วิทยุ ศ.นพ.ธีระวัฒน์ กล่าวและว่า เวลาเสียชีวิต ไม่อยากให้มีการพูดว่า คนที่เสียชีวิตเพราะเป็นกลุ่มเสี่ยง เช่น มีโรคอ้วน แต่ต้องบอกกับประชาชนทุกคนว่า แม้แต่คนที่ไม่มีโรคประจำตัว ก็มีโอกาสเสียชีวิตเช่นกัน ทุกคนจะได้ไม่ประมาท http://www.thaiclinic.com/cgi-bin/wb_xp/YaBB.pl?board=doctorroom;action=display;num=1246899046 [url]http://www.dailynews.co.th/newstartpage/index.cfm?page=content&categoryId=38&contentID=6692 [/url] |
|
ความคิดเห็นที่
3 |
|
เสี่ยวเอ้อ |
|
08 กรกฏาคม 2009
18:06:43 |
|
|
IP :
110.169.40.134 |
|
ตอบ คห. ที่1 เพราะเราได้คนแบบนี้ไงครับ มันถึงลุกลาม คนเหล่านี้คือ นักการเมือง ซึ่ง การเมืองหากได้คนดี เก่ง ประชาชนก็อุ่นใจ มีความสุข อยู่ดีกินดี หรือคุณเด็กดอย จะอยู่ตามยถากรรม ใครมาเป็นก็ได้ หากจน หรือ หากินฝืดเคือง ก็โทษโชคชะตาเอา ก็ไหน รัฐบาลบอกว่า ให้เชื่อมั่น ว่า ไม่ร้ายแรงเป็นแล้วหายเองได้ ประชาชนเลยไม่ระวัง ก็เลยลุกลามใหญ่โต..... หยุดยาว 5วัน ยังมีหน้ามาบอกว่าให้ออกมาเที่ยวกัน ใช้จ่ายเงินกัน กระตุ้นเศรษฐกิจ ไม่ได้นึกเลยว่าจะทำให้เชื้อมันกระจายเร็วขึ้น......... |
|
ความคิดเห็นที่
4 |
|
บ่าวน้อยเมืองเทิง |
|
08 กรกฏาคม 2009
18:08:55 |
boondham@gmail.com |
|
IP :
124.122.65.23 |
|
ไม่มีความเห็น ครับ |
|
ความคิดเห็นที่
5 |
|
เสี่ยวเอ้อ |
|
08 กรกฏาคม 2009
18:11:18 |
|
|
IP :
110.169.40.134 |
|
6 กค.2552 เรียน สื่อมวลชนทุกท่าน การที่กระทรวงสาธารณสุขบอกว่า การป้องกันไข้หวัดให๋สายพันธ์ใหม่ 2009 นั้น สามารถทำได้ 3 อย่างคือ กินของร้อน ใช้ช้อนกลางและหมั่นล้างมือ เท่านั้น เป็นการส่งข่าวสารที่ไม่ครบถ้วนไปสู่ประชาชน ทำให้ประชาชนไม่สามารถระมัดระวังป้องกันตนเองไม่ให้ติดเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพ ันธุ์ใหม่ 2009 และไม่สามารถควบคุมไม่ให้ผู้ป่วย แพร่เชื้อไปสู้ผู้อื่นได้ (ดังจะเห็นได้จากการมีผู้ป่วยเพิ่มขึ้นมากมาย ตัวเลขที่กระทรวงบอกว่ามีกี่รายนั้น อาจจะต่ำกว่าความเป็นจริง เพราะโรงพยาบาลไม่ได้ตรวจคัดกรอง หรือยืนยันว่าใครเป็นไข้หวัดใหญ่หรือไม่ ทุกๆคน) ทั้งนี้ เพราะไวรัสไข้หวัดใหญ่นั้น จะทำให้เกิดอาการเหมือนไข้หวัดทั่วไป คือ มีไข้ ไอ จาม น้ำมูกไหล (เด็กๆก็จะมีทั้งน้ำมูก น้ำลายไหล) ใน น้ำมูก น้ำลาย เสมหะ ของผู้ป่วยเป็นไข้ไหวัดใหญ่ จะมีเชื้อไวรัสชนิดนี้อยู่มาก เมื่อคนเปนหวัดไอ หรือจาม โดยไม่ใช้ผ้าปิดปาก ปิดจมูก ก็จะทำให้มีเชื้อไวรัสแพร่กระจายออกมากับ ละอองน้ำมูก น้ำลาย หรือเสมหะ ที่ไอ จามหรืออาเจียนออกมา โดยละอองน้ามูก น้ำลายฯลฯ ต่างๆนี้ ก็จะมีเชื้อไวรัสปนออกมา ล่องลอยอยู่ในอากาศ คนที่อยู่ใกล้ชิด ที่หายใจเอาละอองน้ำมูกน้ำลาย ฯลฯ ของผู้ป่วย ก็จะได้รับเชื้อไวรัสเข้าไปในทางเดินหายใจโดยตรง ทำให้ป่วยเป็นไข้หวัดใหญ่ได้ง่าย ส่วนการที่ละอองน้ำมูก น้ำลาย เสมหะ ที่หลั่งออกมาจากผู้ป่วยและแพร่กระจายโดยการไอหรือจาม ก็อาจจะแห้งกลายเป็นละอองเล็กๆ ล่องลอยในอากาศ ผู้ที่สูดหายใจเอาละอองแห้งนี้เข้าไป ก็อาจติดหวัดได้ ฉะนั้น การป้องกันไช้หวัด ไข้หวัดใหญ่ ไม่ว่าสายพันธ์ใด จึงควรป้องกันการแพร่กระจาย โดยการป้องกันไม่ให้ผู้ป่วยไอ จาม สั่งน้ำมูก น้ำลาย เลอเทอะไปทั่ว โดยการใช้ผ้าปิดปาก ปิดจมูกเวลาไอ หรือจาม เพื่อไม่ให้ผู้ป่วย แพร่เชื้อไปยังผู้อื่นไดยปล่อยละอองน้ำมูก น้ำลาย ไปในอากาศ ส่วนผู้ที่ได้รับเชื้อไวรัสแล้ว แต่ยังไม่มีอาการไข้หวัด (ระยะฟักตัว 1-3 วัน ก่อนมีอาการ) แต่เขาก็มีเชื้อโรคที่สามารถแพร่ไปสู่คนอื่นได้แล้ว ฉะนั้น ลมหายใจ น้ำมูก น้ำลาย เขาก็มีเชื้อโรคอยู่แล้ว เขาจึงอาจแพร่เชื้อได้โดยการจาม ฉะนั้น การจะป้องกันไม่ให้ผู้ป่วย หรือผู้ได้รับเชื้อโรคแล้ว(แต่ยังไม่มีอาการ) แพร่เชื้อไปสู่อากาศ ก็ควรจะให้ผู้ป่วยทุกคนใส่ผ้าปิดปากปิดจมูก (mask) เวลาออกไปนอกบ้าน เพื่อป้องกันไม่ให้แพร่เชื้อให้คนอื่น ส่วน ผู้ยังไม่มีอาการ (ไม่ว่าจะได้รับเชื้อหรือไม่) ก็ควรจะมีผ้าปิดปากปิดจมูก เวลาออกไปยังที่ชุมนุมชน ทั้งนี้ เพื่อป้องกันตนเอง มิให้สูดเอาเชื้อไวรัสจากอากาศ ในโรงพยาบาลที่มีผู้ป่วยเยอะๆ ในปัจจุบันนี้ บุคลากรในโรงพยาบาลจึงต้องใช้ผ้าปิดปากปิดจมูก เพื่อป้องกันตนเองไม่ให้ติดเชื้อ และให้ผู้ป่วยใช้ผ้าปิดปากปิดจมูกเช่นกัน หรือคนอาจจะแพร่เชื้อให้คนอื่นจากการกินอาหารร่วมกันโดยไม่ใช้ช้อนกลาง หรือมือของผู้ป่วยเอาไปเช็ดน้ำมูก น้ำลาย แล้วไปป้ายตาม ของเล่น (เด็ก) หรือจับประตู เอาน้ำมูกไปป้ายตามที่ต่างๆ ก็สามารถแพร่เชื้อไวรัสได้ การล้างมือจึงสำคัญมาก เพราะถ้ามือเราไปจับสิ่งที่เปื้อนน้ามูกน้ำลายแล้วเอาม ขยี้จมูก หรือเอาใส่ปากอม (เด็ก) หรือหยิบของกิน ก็จะทำให้เราได้รับเชื้อไวรัสได้ จึงต้องหมั่นล้างมือให้สะอาดด้วยน้ำ และสบู่ ห้องน้ำสาธารณะตามตลาดสด และร้านอาหาร มักไม่ค่อยมี สบู่ไว้เสำหรับฟอกมือ จึงควรจะมีข้อบังคับด้านสุขอนามัยจากเทศบาล หรือกระทรวงสาธารณสุข ชี้ชวน (น่าจะออกเป็นประกาศกระทรวงบังคับ) ให้ห้องน้ำในที่สาธารณะ ตลาด และร้านอาหาร ต้องมีสบู่ไว้ให้ประชาชนล้างมือหลังเข้าห้องน้ำ ให้ติดเป็นนิสัย เพราะการล้างมือนั้น จะสะอาดปราศจากเชื้อโรคได้ ก็ต้องฟอกด้วยสบู่ทุกครั้ง ไม่ใช่ล้างน้ำเปล่าอย่างเดียว และการล้างมือให้สะอาดนี้ นอกจากจะป้องกันโรคไข้หวัดแล้ว ยังป้องกันโรคท้องร่วง บิด อหิวาต์ ลำไส้อักเสบ ได้เป็นอย่างดีอีกด้วย ขอให้ช่วยแพร่ข่าวนี้ด้วย เพื่อช่วยป้องกันไม่ให้เชื้อไข้หวัดใหญ่ระบาดไปมากกว่านี้ พญ.เชิดชู อริยศรีวัฒนา กุมารแพทย์ |
|
ความคิดเห็นที่
6 |
|
ลิงซน |
|
08 กรกฏาคม 2009
18:11:27 |
|
|
IP :
117.47.222.213 |
|
|
ความคิดเห็นที่
7 |
|
เสี่ยวเอ้อ |
|
08 กรกฏาคม 2009
18:14:36 |
|
|
IP :
110.169.40.134 |
|
วันๆบ้าแต่ แพนด้า ไม่ไหวจริงๆเลยครับ... คุณได้โอกาสแล้ว จะมาด้วยอะไรก็แล้วแต่ หากทำงานเก่ง ใครๆเขาก็รักก็ชอบครับ |
|
ความคิดเห็นที่
8 |
|
num2000 |
|
08 กรกฏาคม 2009
20:17:02 |
|
|
IP :
118.172.70.52 |
|
วันนี้พี่เสี่ยวเอ้อ จัดไปหลายดอกเลยนะครับ หลากหลายกระทู้แต่ก็ได้แง่คิดดีๆ ขอบคุณครับ |
|
ความคิดเห็นที่
9 |
|
1299 |
|
08 กรกฏาคม 2009
21:56:50 |
azabul.asa@gmail.com |
|
IP :
118.174.183.132 |
|
ขอระบายในฐานะเจ้าของบ้านนี้เมืองนี้ด้วยคน ที่เสี่ยวเอ้อพูดมานั้นถูกต้องที่สุดและเห็นด้วยมากๆ......... ปัญหาในบ้านนี้เมืองนี้ก็อย่างคุณเสี่ยวเอ้อพูดไปนั่นแหละ นอกจากแก้ปัญหาไม่เป็นแล้ววันๆถามหาแต่คุณทักษิณมันอะไรกันนักหนา |
|
ความคิดเห็นที่
10 |
|
เชิงดอย |
|
09 กรกฏาคม 2009
00:03:21 |
ch_doi@hotmail.com |
|
IP :
124.121.108.42 |
|
เห็นด้วยกับท่านเสี่ยวเอ้ออย่างยิ่งครับ อยากเห็นเจ้ากระทรวงฯที่รับผิดชอบ ไข้หวัด2009ตายคาเก้าอี้จังเลย |
|
ความคิดเห็นที่
11 |
|
เด็กดอย |
|
09 กรกฏาคม 2009
11:40:37 |
|
|
IP :
222.123.215.8 |
|
|
ความคิดเห็นที่
12 |
|
ยายตะแง้ว |
|
09 กรกฏาคม 2009
18:59:32 |
|
|
IP :
118.172.64.60 |
|
ก็ระวังสุขภาพกันจะดีกว่าเนอะ อย่าหวังว่าจะให้ใครมาดูแลเราเลยจะดีกว่า ณ เพลานี้ ตนเป็นที่พึ่งแห่งตนเห็นจะดีที่สุด |
|
ขณะนี้เชียงรายโฟกัส ได้ย้ายไปใช้เว็บบอร์ดใหม่
ท่านสามารถเข้าไปใช้บริการได้ที่นี่ http://www.chiangraifocus.com/forums/index.php
|