|
!!~กอย่า~!! |
วันที่ |
14 กรกฏาคม 2009 |
เวลา |
22:12:31 |
|
IP |
117.47.122.154 |
|
|
|
เมื่อลูกสาวของผมติดหวัด 2009
|
เมื่อลูกสาวของผม ติดหวัด 2009 (ฝากข้อคิดถึงรัฐบาล)
วันศุกร์ที่แล้ว ลูกสาวตัวน้อย อายุ 3 ขวบครึ่ง มีไข้สูงเกือบ 40 องศา ครูที่โรงเรียนโทรศัพท์มาบอกให้ไปรับตัวด่วน
ทั้ง 2 คน ผมและภรรยาก็ไปรับและนำไปตรวจที่โรงพยาบาลทันที ซึ่งแพทย์บอกว่าอาการยังไม่มีปัญหาแม้ว่าไข้สูงแต่ไม่ซึม และยังไม่ตรวจหวัด 2009 ให้ เพราะยังไม่จำเป็น ตรวจไปก็อาจไม่เจอ เพราะเพิ่งมีอาการไข้
ในใจเราไม่เห็นด้วย เพราะถ้าดูจากสภาพการณ์ ความเป็นไปได้ที่จะติด 2009 มีสูงมาก แต่เมื่อหมอยืนยันว่า ไม่เป็นไร ไม่ต้องตรวจ เราก็จำเป็นต้องเชื่อ
พาลูกกลับบ้าน ตอนกลางคืน ไข้ขึ้นอีกเกือบ 40 เหมือนเดิม ก็ให้ยาลดไข้ ตอนเช้าไข้ขึ้นอีกครั้ง ให้ยาลดไข้แล้วตอนนี้พบว่า ลดไข้ได้แป๊บเดียว และอาการไข้สูงจะเป็นถี่ขึ้นเรื่อย ๆ
ช่วงบ่าย ก็เลยพาลูกไปอีกโรงพยาบาลหนึ่ง และยืนยันให้หมดตรวจเชื้อหวัด 2009 ซึ่งใช้เวลาไม่นานไม่เกิน 1 ชั่วโมง ผลออกมาปรากฎว่า Positive ติดหวัด 2009 เต็ม ๆ
คอเริ่มแดง มีอาการไอ และมีเสมหะ ลูกเริ่มซึม หมอให้ยาต้านไวรัสแบบน้ำชื่อ ทามิฟู พร้อมยาลดไข้เด็กแบบแรง ๆ พร้อมกำชับให้เอาไข้ลงให้ได้ภายใน 24 ชั่วโมง ด้วยการเช็ดตัวอย่างต่อเนื่อง ถ้าไขไม่ลง ต้อง Admit
ที่สำคัญคือ หมอบอกว่า ผมและภรรยา ให้สังเกตอาการตัวเอง และคนรอบข้างที่อยู่ใกล้ ๆ ลูกให้ดี เพราะว่าสงสัยว่าจะติดเชื่อกันทั้งหมด ซึ่งก็เป็นความจริงครับ พี่เลี้ยงเด็กที่นอนกับลูก อาการหนักทันที เพราะอ้วนมาก ไอรุนแรง ไม่มีแรง และไข้สุง ก็เลยต้องส่งโรงพยาบาลด่วนอีกคน ตอนนี้อาการยังไม่ดีขึ้น
ผมและภรรยา ก็เลยป่วยไม่ได้ ห้ามป่วย เพราะไม่มีคนดูลูก อัดวิตามินทุกชนิด สลับกันนอนกลางวัน เพื่อดูลูกตอนกลางคืน เพราะไข้จะสุงกลางคืน และกันญาติ ๆ คนอื่น ออกจากลูกเพื่อไม่ให้ติด
3 วัน 3 คืนเต็ม ๆ ลูกดีขึ้น ผมและภรรยาป่วยคนละเล้กละน้อย
ก่อนเปิดเรียนเนื่องจากปิดติดกันหลายวัน ภรรยาพยายามโทรหาโรงเรียนของลูก เพื่อแจ้งให้ทราบว่า ลูกอาจติดเชื่อมาจากโรงเรียน อยากให้สาธารณสุขมาฉีดยาฆ่าเชื้อ อาจารย์ที่โรงเรียนไม่เห็นต้วย บอกว่า ไม่เห้นมีใครป่วย และโรงเรียนก็ทำความสะอาดทุกวันอยู่แล้ว เราก็บอกว่า ไม่ได้ว่าอะไรโรงเรียน แค่ต้องการแจ้งให้ทราบ โรงเรียนอยากทำอะไร ก็ทำไปก็แล้วกัน แต่เรายังไม่เอาลูกไปเรียน และเราก็ไม่อยากให้ลูกคนอื่นป่วย
เขียนมาเล่าให้ฟัง เพื่อเตือนใจพ่อแม่คนอื่น ๆ ว่าตอนนี้คงต้องพึ่งตัวเองมาก ๆ ดูลูกดี ๆ ปัญหาของเด็กเล็ก ๆ โดยเฉพาะเด็กซน คือ การที่จะไม่ค่อยซึม บางทีไข้สูงมาก แต่ยังวิ่งเล่นได้เฉย และกลัวไม่ได้เล่น ก็จะไม่ยอมบอกว่าเป็นอะไร
สำหรับการเชื่อคำแนะนำของแพทย์ ก็คงต้องฟังหูไว้หู และใช้สติปัญญาของเราพิจารณาเอง อย่าหลับหูหลับตาเชื่อด้วยความที่คิดว่านั่นคือ แพทย์ อย่างเดียว ต้องเปรียบเทียบซักแห่ง 2 แห่ง
สำหรับรัฐบาล และกระทรวงสาธารณสุข อันนี้ ผมไม่มีความหวังใด ๆ ให้เลย เมื่อวานนายกออกข่าวบอกว่ายังไม่เป็นไร เพราะตายแค่ 0.4%
0.4% สำหรับคนอื่นดูเล็กน้อยก็จริง แต่ถ้าลูกของเรา พ่อแม่ ญาติพี่น้องของเรา อยู่ใน 0.4% นั้น มันไม่ใช่เรื่องเล็กสำหรับเราเลย บางทีอาจเป็นเรื่องใหญ่ที่สุดในชีวิตก็ได้
ผมคิดอยากมนุษย์ธรรมดา อย่างคนเป็นพ่อคน ไม่ได้คิดแบบคนจบ Oxford
ผมเชื่อว่า รัฐบาลจะคุมหวัดนี้ไม่ได้ เพราะทุกคนกลัวการยอมรับความจริง
โรงเรียน กลัวจะถูกต่อว่า ว่าดูแลเด็กไม่ดี ก็ปิดเรื่องไว้
สาธารณะสุข กลัวถูกคาดโทษ ก็ปิดตัวเลขไว้
รัฐบาล รัฐมนตรี กลัวคนแตกตื่น กลัวถูกกล่าวหาว่าไม่มีประสิทธิภาพ ก็มั่วตัวเลข และประเมินการต่ำกว่าความเป็นจริง คุณหมอที่ลูกผมรักษาด้วย บอกว่าถ้าคุมไม่ได้ อันตรายสุด ๆ หากกลายพันธ์ คุณหมอบอกว่าน่าจะติดไปแล้วไม่ต่ำกว่า 3-4 แสนคน
นายกรัฐมนตรี ไม่รู้จะวิจารณ์ยังไง ส่วนหนึ่งก็ชอบในความเป็นคนดี แต่ส่วนหนึ่งก็ข้องใจในเรื่องการตัดสินใจอะไร ๆ ที่สำคัญต่อประเทศชาติ
ครั้งนี้ ไม่เหมือนเสื้อแดง ไม่มีแก้ตัว ไม่มีประกาศ พรบ.ฉุกเฉิน ไม่มีทหารอุ้มออกมาจากการประชุมอาเซียน ไม่มีจัดประชุมใหม่
ถ้านายกตัดสินพลาด คนจะตายอีกเยอะ แล้วคนตายไปแล้ว นายกทำยังไง คนก็ไม่ฟื้น
ตีความเรื่อง 0.4% ใหม่เถอะครับ แล้วท่านจะรู้ว่า ท่านต้องใช้มาตรการณ์เฉียบขาดอย่างไร
~~~~~ตวยไปผ่อกั๋นได้ต๋าม link นี้เน้อเจ้า~~~~~
http://www.norsorpor.com/go2.php?t=m&u=http://www.oknation.net/blog/hardtalk/2009/07/10/entry-1 |
|
|
ความคิดเห็นที่
1 |
|
ใบไม้ผลิ |
|
15 กรกฏาคม 2009
15:35:53 |
korean-b@hotmail.com |
|
IP :
118.172.146.48 |
|
จะบอกว่าถูกใจที่สุดเลย
ดิฉันเองถึงแม้ว่ายังไม่ติดหวัดนี้
แต่ก็อดที่จะกังวลไม่ได้
และไม่เข้าใจว่ารัฐบาลหรือ สธ. เขาออกมาพูดได้ยังไงว่า
ประเทศไทยเราความรุนแรงของการติดเชื้อยังไม่มาก
ยังอยู่ในระดับสอง เขาคงรอให้ถึงระดับสุดท้ายถึงจะออกมาบอกว่ารุนแรงแล้วนะ
จึงอยากจะให้ทุกคนดูแลตัวเองให้ดี
อย่าฝากความหวังว่าถ้าเป็นหวัดหมอจะช่วยเราได้
ขอบอกเลยว่าถ้าเราโชคร้ายต้องตกเป็นหนึ่งใน 0.4 %
ที่รัฐบาลบอกว่าเป้นตัวเลขที่น้อยนิดนั้น
ใครหน้าไหนก็ช่วยเราไม่ได้
ขอให้คนไทยทุกคน อยู่ดีมีสุข เทอญ |
|
ความคิดเห็นที่
2 |
|
หนานโฮะ |
|
18 กรกฏาคม 2009
14:04:09 |
t.c_d@hotmail.com |
|
IP :
192.168.0.190 |
|
ที่คุณเจ้าของกระทู้กล่าวมานั้น ก็เห็นด้วย(บางข้อเดี่ยวจะแย้งทีหลัง)เขาคิดอย่างนี้ครับคุณ ประชาชนต้องตายก่อน ปิดโรงเรียนพร้อมทั้งจังหวัดเถอะครับ บ้างก็ปิด บ้างก็เปิด ไร้ความหมายสิ้นดี เด็กเขามีปฏิสัมพันธ์ในด้านสังคม รถตู้คันเดียวมีหลายโรงเรียน บางคันมีตั้ง 20 คนคุณปิด 7 วันแล้วล้างโรงเรียนพอวันที่ 8 คุณก็เปิด มันก็ไร้ความหมายอยู่ดี เด็กก็นั่งในรถตู้คันเดิม เหมือนเดิม โรคร้ายมันก็อยู่เหมือนเดิม กลายพันธ์ไปฆ่าคนไปเรื่อย ๆ จากหน้าฝนสู่หน้าหนาวอีกหลายเดือน แล้วมันจะตายอีกกี่ศพ ช่วยกันเอาชีวิตเด็กไว้ก่อนเถิดครับ การเรียนค่อยมาทีหลังอย่ามัวแต่ห่วงสอบอยู่เลย เขาปิดข่าว บอกว่าเขาปิดข่าว ชีวิตย้อนคืนไม่ได้ การศึกษาย้อนคืนได้ ใช่ไหมพ่น้อง เขามัวแต่ห่วงงานกลัวไม่เข้าตาประชาชน และชาวโลก ห่วงแต่เด็กในร้านเกมส์ปิดแต่ข่าวแต่ไม่ปิดโรงเรียน นี้แหละครับ ประชาชนต้องตายก่อน คุณแน่ใจหรือว่าเป็นคนดีคุณฟังสำนวนการพูดก็น่าจะรู้ตั้งแต่เป็นฝ่ายค้านจนกระทั่งเป็นรัฐบาล 555 เดี๋ยวก็รู้ หมู่หรือจ่า 555 |
|
ความคิดเห็นที่
3 |
|
เซียงกง |
|
20 กรกฏาคม 2009
11:58:40 |
saleman2009@windowslive.com |
|
IP :
192.168.1.3 |
|
ผมก็ระวังตัว ครอบครัวผมด้วย ยิ่งเรามีลูกเล็กๆ อยู่ก็ ยิ่งห่วงกันไปใหญ่ การแก้ไขที่ช้า การเผยแพร่ข่าวประชาสัมพันธ์ช่วงแรกๆ ว่าประเทศเราไม่ต้องกังวลเรื่องไข้หวัดระบาด แต่ไปๆมาๆ ก็เป็นซะอย่างนี้ ตอนนี้ก็มุ่งไปที่ประชุมอาซ่งอาเซี่ยนอย่างเดียว เค้ามุ่งไปนานแล้วล่ะไม่รู้จะมุ่งอะไรนักหนา ผู้ใหญ่อย่างเราไม่เท่าไหร่เด็กๆนี่สิ ... กลุ้มๆ |
|
ขณะนี้เชียงรายโฟกัส ได้ย้ายไปใช้เว็บบอร์ดใหม่
ท่านสามารถเข้าไปใช้บริการได้ที่นี่ http://www.chiangraifocus.com/forums/index.php
|