กระดานข่าวเชียงรายโฟกัส ดอทคอม สังคมออนไลน์ของคนเชียงราย

 
Untitled Document
 
ห้องนี้เน้นหื้อใจ้ภาษากำเมือง เรื่องมะเก่า อนุรักษ์กำเมือง และของพื้นเมืองตังหลาย วิถีชีวิตจาวบ้าน ศิลปวัฒนธรรมล้านนา วิถีชีวิตคนเมือง เพลงพื้นเมือง ค่าว จ๊อย ซอ ฯลฯ เน่อครับ
++ ข้อความที่ีท่านได้อ่านบนกระดานข่าวแห่งนี้ เกิดขึ้นจากการเขียนโดยสาธารณชน โปรดใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรองด้วยตัวเอง ++

สมาชิกเข้าสู่ระบบ Username : Password : ลืมรหัสผ่าน
 ตั้งคำถามใหม่ | ตอบคำถาม | ผู้เข้าชม 4619 ครั้ง  ตอบกระทู้ 14 คำตอบ

!!~กอย่า~!!
วันที่
06 สิงหาคม 2009
เวลา
08:59:17
hi_kohya@hotmail.com
IP
117.47.46.92
   

~ ความฮักใดไผจะเต้า เจ้าหน้อยสุขเกษม ~

Photo by ::

ตอนนั้นเชียงใหม่เป็นประเทศราชของสยาม ทางเชียงใหม่ส่ง เจ้าดารารัศมี ซึ่งเป็นเจ้าอาของเจ้าน้อย
ไปอภิเษกกับ ร. 5 เป็นการผูกสัมพันธ์ ตอนนั้นเจ้าดารารัศมีอายุแค่ 13 เ อง...

นี่เรื่องจริงตามประวัติศาสตร์เลยนะ
เจ้าน้อยถูกส่งไปเรียนที่ รร.เซนต์แพทริก เป็น รร.แคธอลิกของฝรั่งที่พม่า โดยแอบส่งไป ขี่ช้างไป
เพราะตอนนั้นพม่าเป็นเมืองขึ้นของอังกฤษซึ่งมีเรื่องกับไทยอยู่

เจ้าน้อยไปตอนอายุ 15 เพราะทางบ้านต้องการให้ได้ภาษาอังกฤษ เพราะค้าขายกะพม่า เจ้าน้อยเรียนอยู่หลายปี วันหนึ่งไปเดินเล่นที่ตลาด
ได้พบมะเมี้ยะแม่ค้าสาวสวย ซึ่งเพิ่งมาจากตองอู เจ้าน้อยอายุ 19 มะเมี๊ยะอายุ 15 ก็ตัดสินใจแต่งงานกัน
จนอายุ 20 เรียนจบถูกเรียกกลับเชียงใหม่ เจ้าน้อยเลยเอาเมียกลับมาด้วย โดยให้ปลอมเป็น
เด็กรับใช้ชาย เอาเมียไปแอบในเรือนเล็ก โดยไม่รู้เลยว่าเจ้าพ่อเจ้าแม่ได้หมั้นเจ้าบัวนวลเอาไว้ให้
เจ้าน้อยไม่ยอมแต่งงาน เลยเปิดเผยว่ามีเมียแล้วคือมะเมี้ยะ เอามะเมี้ยะมากราบเจ้าพ่อเจ้าแม่แต่ไม่ได้รับการ ย อมรับ

เรื่องนี้ไปถึงสยาม ร. 5 กะเจ้าดารารัศมีเห็นว่าไม่ควร เลยส่งผู้สำเร็จราชการมาเจรจา บอกว่าเจ้าน้อยจะมีเมีย
กี่คนไม่ใช่ปัญหาแต่ต้องไม่ใช่สาวพม่า เพราะว่าคนพม่า ถือสัญชาติอังกฤษ เดี๋ยวอังกฤษจะถือโอกาสแทรกแซง ว่าแต่งกะพม่า ก็ต้องถือว่าเป็นพม่าด้วย ไปอยู่กะเมียที่ พม่าก็ไม่ได้ ที่สำคัญเจ้าน้อย เป็นเจ้าชายของล้านนา ถูกวางตัวไว้ให้เป็นรัชทายาทล้านนา เท่ากับว่าสยามอาจต้องเสียเชียงใหม่ให้อังกฤษ ก็เลยบังคับส่งมะเมี้ยะกลับพม่า เจ้าน้อยสัญญาว่าอีก 3 เดือนจะไปรับมะเมี้ยะกลับ
ทั้งคู่สาบานกันไว้ว่าจะไม่รักใครอื่น หากใครผิดคำสาบานขอให้อายุสั้น

ตอนที่จะส่งมะเมี้ยะกลับพม่านั้นตรงนี้เป็นส่วนของตำนานเลย
" ตอนนั้นมะเมี้ยะโพกผมไว้พอจะไปก็ก้มลงกราบเท้า เจ้าน้อยที่ประตูเมือง ชาวบ้านออกมามุงกันทั้งเมืองเพราะได้ยินว่ามะเมี้ยะงามจ ๊ าดนัก
พอกราบเสร็จ ก็เอาผ้าโพกผมออก แล้วสยายผมเอามาเช็ดเท้าเจ้าน้อย จงรักภักดีบูชาสามีสุดชีวิต
แล้วก็กอดขาร้องไห้ เจ้าน้อยเองก็ร้อง ทำเอาคนที่มามุงร้องไห้ ไปทั้งเมืองด้วยความสงสารความรักของทั้งคู่ "
ต่อมาเจ้าน้อยโดนเรียกไปสยาม พอเข้าไปก็โดนจับแต่งงาน เจ้าดาราฯ จัดเจ้าบัวชุม ซึ่งเป็นพระญาติ
และเป็นสาวที่สวยที่สุดในตำหนักเจ้าดารารัศมี ร่ำลือกันว่าเล่นดนตรีไทยเก่ง แต่ดูรูปแล้วถ้ามาสมัยนี้
ถือว่าหน้าตาธรรมดา ถ้าในสมัยที่ผู้หญิงไม่มีศัลยกรรมคงจัดว่าสวย แต่ที่นี่แน่ๆ มินิไซค์มากๆ สาวๆ สมัยนั้น

ด้วยเหตุนี้เจ้าน้อยก็เลยต้องแต่งแล้วถูกกักอยู่ที่นั่น ตอนนั้นเจ้าพ่อของเจ้าดาราฯ สิ้นพระชนม์
พระญาติทางสยาม ไม่อนุญาตให้เจ้าล้านนาพระองค์ใดในวังขึ้นไปประกอบพิธีปลงพระศพ
เป็นเรื่องการเมืองเตะถ่วงการแต่งตั้งเจ้าครองแคว้นคนใหม่เอาไว้ระยะหนึ่ง เจ้าอาของ เจ้าน้อยได้ขึ้นเป็น
เจ้าองค์ใหม่ เจ้าพ่อได้เป็นเจ้าราชบุตร(อุปราช) เท่ากับว่าเจ้าน้อยเป็นรัชทายาทอันดับ 3
ถ้าสิ้นเจ้าสองพระองค์นี้เจ้าน้อยจะครองเชียงใหม่ ก็ยิ่งไม่มีทางได้รับมะเมี้ยะกลับมา

มะเมี้ยะรอเกิน 3 เดือนแล้วเจ้าน้อยไม่มาตามสัญญาเลยไปบวชชี เพื่อพิสูจน์รักแท้ว่าจะไม่มีคนใหม่

ต่อมา...เมื่อได้ยินว่าเจ้าน้อยกลับเชียงใหม่แล้วเลยมาดักที่คุ้ม แต่เจ้าน้อยไม่ยอมออกมาพบ รอนานเท่าไรก็ ไม่ยอมออกมา

จริงๆ แล้วเจ้าน้อยแอบดูอยู่ข้างหน้าต่าง ได้แต่ร้องไห้ไม่กล้าสู้หน้าที่ผิดสัญญา ก็เลยฝากให้ท้าวบุญสูงพี่เลี้ยง

เอาแหวนทับทิม กับเงินอีก 1 กำปั่น( 800 บาท) ไปให้แม่ชีมะเมี้ยะ
ทางด้านแม่ชีบอกว่าไม่มาขอรักคืน เพียงแต่มาถอนคำสาบานให้

เจ้าน้อยฝากมาบอกแม่ชีว่า เงินนี่ทำบุญตามแต่แม่ชีจะใช้สอย

เรียกว่าบริจาคในฐานะโยมอุปฐาก ส่วนแหวนให้แทนใจว่า หัวใจอยู่กับมะเมี้ยะเสมอ
แม่ชีเสียใจมาก รับไปแต่แหวนไม่รับเงิน

สมัยก่อน 800 คงเยอะมาก 100 ปีก่อนคง
8 แสนล่ะมั้ง เงินเดือนคนสมัยนั้น 4 บาทเอง

เจ้าน้อยหลังจากกันกับแม่ชีคราวนั้น.....ก็เอาแต่กินเหล้าไม่มีใจรักเจ้าบัวชุม
ในที่สุดก็ตรอมใจตายหลังจากแต่งงานได้ไม่กี่ปีในขณะที่อายุแค่ 30 ปีเท่านั้นเอง

ในบันทึกบอกว่าสิ้นพระชนม์ด้วยโรคพิษสุรา อีก 6 ปีต่อมาหลังจากพบแม่ชีมะเมี้ยครั้งสุดท้าย
ส่วนแม่ชีมะเมี้ยะ... บวชจนสิ้นอายุขัยเมื่อ 73 ปี

เศร้ามะ ? เรื่องนี้ไม่มีตัวอิจฉามีแต่คนหัวใจสลาย

ผู้บันทึกเรื่องนี้คือ เจ้าบัวนวล คู่หมั้นคนแรกที่ถอนหมั้นไปหลังจากรู้ว่าเจ้าน้อยมีมะเมี้ยะ...
ส่วนเจ้าบัวชุมไม่ผิดอะไรเลย แต่สามีไม่รักก็อยู่เป็นข้าบาทจาริกาจนอายุ 81 ปี

เจ้าบัวนวลว่า ตลอดชีวิตเจ้าน้อยรักผู้หญิงคนเดียวจนสิ้นลม คือ มะเมี๊ยะหลังจาก นั้นเรื่องของเจ้าน้อยกับมะเมี้ยะ
ก็ถูกสั่งห้ามพูดถึงไปหลายปีเพราะเป็นเรื่องทางการเมือง ต้องปิดบัง รายละเอียดเลยหายไป

เหลือแต่ตำนาน อุปสรรคความรักของเจ้าน้อยกับมะเมี้ยะ ไม่ใช่ฐานันดร ไม่ใช่เชื้อชาติ แต่เป็นการเมืองแท้ๆ

เศร้าเนอะ ความรักในตำนานมักจบลงด้วยความเศร้าสลด ทั้งที่รักเดียวทั้งสองฝ่าย น่าสงสารจริงๆ
เรื่องนี้มีแต่คนน่าสงสาร เจ้าบัวชุมเมียแต่งก็น่าสงสาร
ทางเจ้าดารารัศมี มีบันทึกไว้แค่ว่าทรงไม่คิดว่าเจ้าน้อย
จะปักใจมั่นกับมะเมี้ยะขนาดนี้ เจ้าดารารัศมีทรงคิดว่าหลายปีผ่านไป และได้ภรรยาที่ดีพร้อมก็คงลืม
ความรักครั้งแรกได้ แต่เจ้าน้อยไม่ลืมจนสิ้นชีวิต

เจ้าบัวนวล คู่หมั้น เมื่อแรกรู้สึกเสียหน้าแต่หลังจากนั้นก็รู้สึกเห็นใจและศรัทธาในรักแท้ของเจ้าน้อย
จริงๆ แล้วเราแอบคิดว่า ถ้าเจ้าน้อยโกหก ให้มะเมี้ยะหนีเข้าเมืองเถื่อนแล้วปลอมเป็นสาวไทย ให้เป็น
เมียบ่าว เรื่องก็จบแต่มันเป็นเพราะ...เจ้าน้อยต้องการมีภรรยาคนเดียว คือ...มะเมี้ยะ

หายากมากผู้ชายสมัยนั้น เรื่องรักเดียวเนี่ยแต ่ก็เป็นไปตามคำสาบานนะ

ผิดรักไปแต่งกับหญิงอื่นเลยอายุสั้น รูปหล่อ รักเดียว รักจนตาย

ยังกะนิยายเศร้าจริงๆๆๆ...

 


ความคิดเห็นที่ 1
!!~กอย่า~!!
06 สิงหาคม 2009
09:21:38
hi_kohya@hotmail.com
IP : 117.47.46.92
Photo by ::


(((ฮูปนี้เป๋นฮูปตี้ระลึกตี้เปิ้นแจกเมื่อวันปลงศพของเจ้าหน้อยสุขเกษม)))

เรื่องจริงยิ่งใหญ่กว่านิยายแน่นอน เพราะอย่างน้อยมัน ถูกสร้างขึ้นมาจากเลือดเนื้อชีวิตวิญญาณของบุคคลจริง
คนเชียงใหม่ รุ่นปู่ย่ารับรู้เรื่องราวของมะเมียะในเชิงเรื่องเล่าเป็น Talk of the town มาช้านาน จนกระทั่งมีผู้เขียนขึ้นมาเชิงสารัตถคดีเป็นครั้งแรกเมื่อปี 2507
ปราณี ศิริธร ณ พัทลุง นักเขียนท้องถิ่นผู้สนใจประวัติศาสตร์ล้านนา เขียนเรื่องราวของมะเมียะในหนังสือเพ็ชร์ลานนา และเขียนเพิ่มเติมรายละเอียดฉบับสมบูรณ์ในหนังสือ “ชีวิตรักเจ้าเชียงใหม่” ตีพิมพ์เมื่อปี 2523 ให้รายละเอียดเพิ่มว่า หลังจากนั้นมะเมียะก็บวชชี ขณะที่เจ้าน้อยศุขเกษม เดินทางเข้ากรุงเทพฯ รับราชการทหารยศ ร้อยตรี เป็นเจ้าอุตรการโกศล และได้แต่งงานกับข้าหลวงในคุ้มของพระราชชายาเจ้าดารารัศมี ต่อมาย้ายกลับมาเชียงใหม่
ขณะที่ แม่ชีมะเมียะ เดินทางมาเชียงใหม่อีกครั้งเพื่อขอพบกับเจ้าน้อยศุขเกษมในวันแต่งงาน โดยให้เพื่อนชื่อมะเอ คนในบังคับอังกฤษมาบอก แต่เจ้าน้อยศุขเกษมไม่ลงมาพบ
ได้แต่ฝากเงินจำนวน 800 บาท ซึ่งเป็นเงินมหาศาลทีเดียวในยุคนั้น และมอบแหวนทับทิมวงหนึ่งให้ไป มะเมียะก้มหน้าเดินทางกลับด้วยความผิดหวัง
หลังจากนั้นเจ้าน้อยศุขเกษม ก็อยู่กับความทุกข์ระทมตลอดเวลา เอาแต่กินเหล้าด้วยความตรอมใจจนกระทั่งเสียชีวิตด้วยวัยเพียง 33 ปีเท่านั้น


......หลากหลายข้อมูลตี้เปิ้นได้ค้นคว้าไว้ แต่ก่อบ่ได้ผิดเพี้ยนกั๋นไปนักซักเต้าได.......
กอย่าอ่านแล้วฮู้สึกประทับใจ๋ เลยอยากหื้อหลายๆท่านได้อ่านกันตวยเจ้า~!!

ความคิดเห็นที่ 2
!!~กอย่า~!!
06 สิงหาคม 2009
09:24:18
hi_kohya@hotmail.com
IP : 117.47.46.92
Photo by ::

....แหมฮูปนึ่งเจ้า....

ความคิดเห็นที่ 3
แม่ยิงคนเมือง
06 สิงหาคม 2009
10:14:15
IP : 117.47.126.90
ยิ๊นดีจ๊าดนักตี้ คุณกอย่า เอาเรื่องดีๆ จะอี้มาหื้อได้อ่านกั๋น ข้าเจ้าก็ฮู้สึกหันใจ๋ในความฮักแต้ของเจ้าชายกับมะเมี๊ยะ ซึ่งบ่เดี่ยวนี้หายากขนาดป้อจายจะอี้ อ่านแล้วเป๋นดีไค่ไห้ตวย เศร้าเนาะ ..แต่เจ้าชายหล่อแต้ๆ เน่อเจ้า ข้าเจ้าไค่หันฮูปมะเมี๊ยะ บ่ฮู้ว่าคุณกอย่ามีฮูปมะเมี๊ยะก่อเจ้า

ความคิดเห็นที่ 4
!!~กอย่า~!!
06 สิงหาคม 2009
11:27:54
hi_kohya@hotmail.com
IP : 117.47.46.92
Photo by ::

ยินดีเจ้า ตี้ชื่นชอบ แต่ย่าหาฮูปของมะเมี๊ยะบ่ได้เลย แต่มีบันทึกไว้ว่าดังนี้เจ้า

.........แต่น่าเสียดาย...ไม่มีรูปมะเมี้ยะ คาดว่าเป็นสามัญชนคนธรรมดาเลยไม่มีรูปถ่ายเก็บไว้เป็นหลักฐานบ้าง
ไม่งั้นคงได้เห็นว่ามะเมี๊ยะงามจ๊าดนักแค่ไหน.... แต่บางทีการไม่เห็นหน้า

~จินตนาการ~ อาจทำให้มะเมี๊ยะสวยงามยิ่ง ในความทรงจำของผู้ที่ได้รู้เรื่องราวเธอก็ว่าได้ .........

ความคิดเห็นที่ 5
bm5996
06 สิงหาคม 2009
14:05:06
IP : 222.123.215.54

ความคิดเห็นที่ 6
เชียงรายพันธุ์แท้
06 สิงหาคม 2009
22:05:51
cmu_555@hotmail.com
IP : 202.28.27.3
กึดว่าบอร์ดนี้ฮ้างไปแล้ว ฮะๆๆ

เจ้าน้อยศุขเกษม (พ.ศ. 2426-2456) และหมะเมียะ (พ.ศ. 2430-2505)
http://www.chiangraifocus.com/knowledge.php?id=35
ลองเข้าไปอ่านผ่อครับ
เรื่องเจ้านายในล้านนา มันบ่ได้มอกฮักๆใคร่ๆเน้อ
แต่มันสัมพันธ์กับมิติทางการเมืองตวย
ซึ่งเฮาปฏิเสธบ่ได้เลยว่ามันมีผลต่อชีวิตเฮา


เมื่อเจ้านายในล้านนาสูญเสียทั้งอำนาจในการปกครองและรายได้จากการค้าไม้สัก อำนาจของสยามในล้านนาก็นับวันเพิ่มขึ้น ๆ เจ้าอินทวิชยานนท์ เจ้าผู้ครองนครเชียงใหม่สิ้นชีวิตในปี 2440 ลูกสาวที่ถูกเรียกลงเป็นเจ้าจอมที่บางกอกเมื่ออายุได้ 13 ปี (พ.ศ. 2430) คือเจ้าดารารัศมีก็ไม่ได้รับอนุญาตให้ขึ้นมาเผาศพพ่อ และแผ่นดินเชียงใหม่ก็ไม่มีเจ้าผู้ครองนครเพราะสยามไม่แต่งตั้งผู้ใด นั่นคือช่วงปี พ.ศ. 2441 - 2442...



ความคิดเห็นที่ 7
civil14
07 สิงหาคม 2009
00:14:16
civil14@hotmail.com
IP : 222.123.212.213
Photo by ::

ทุกอย่างมีดีย่อมมีเสียครับเหมือนเหรียญ2 ด้าน แต่ก็ชื่นชมสปิริตของเจ้าหญิงบัวนวลนะครับ

ความคิดเห็นที่ 8
civil14
07 สิงหาคม 2009
00:16:14
civil14@hotmail.com
IP : 222.123.212.213
Photo by ::

ที่วัดสวนดอกเชียงใหม่ไกล้ๆกาดต้นพยอมหลัง มช. ถ้าได้ไปเที่ยว....ที่นั่นมีกู่บรรจุอัฐิเจ้าน้อยศุขเกษม ในวัดสวนดอก เชียงใหม่

ความคิดเห็นที่ 9
chocomint
18 สิงหาคม 2009
12:02:27
mint_luv_choco@hotmail.com
IP : 61.19.231.4
ได้อ่านการ์ตูนเรื่องนี้ ชอบมากเลย
อยากไปเที่ยวจัง อยากไปดูกู่บรรจุอัฐิของเจ้าน้อยศุขเกษม

ความคิดเห็นที่ 10
Kc
18 สิงหาคม 2009
15:55:43
k.spices@hotmail.com
IP : 222.123.17.232
ได้บรรยากาศ ซาบซึ้ง แต้ๆ ครับ
ยกเครดิต ให้ทุกคนเลย ครับ

ความคิดเห็นที่ 11
เลิงปอย
19 สิงหาคม 2009
10:28:01
last_infinity@hotmail.com
IP : 118.172.76.187
คห.ที่ 9
เรื่องนี้ไม่ใช่การ์ตูนนะครับ

ความคิดเห็นที่ 12
!!~กอย่า~!!
19 สิงหาคม 2009
11:14:28
hi_kohya@hotmail.com
IP : 222.123.210.42
Photo by ::

คห. ตี้ 9 เปิ้นคงจะหมายถึง ต๋ำนานเจ้าหน้อยสุขเกษม ฉบับการ์ตูนก๊าเจ้า

อาจจะมี แต่กอย่าก่อยังบ่เกยอ่าน ใน google ก็บ่มีนาเจ้า

ต๋ำนานนี้เป็นเรื่องตี้เกิดจริงๆ ทุกคนคงฮู้ดี

ขอบคุณคุณเลิงปอยตี้จ่วยสังเกตเจ้า ^^

ขอบคุณทุกท่านตี้หื้อความสนใจ๋กระทู้ของกอย่าตวยเจ้า

.......กอย่าเปิดกระทู้ต๋ำนานความฮักอมตะ ของ 2 ผู้เฒ่าชาวจีนไว้ตี้บอร์ดทั่วไปแล้วเจ้า ตวยอ่านแล้วหื้อก๋ำลังใจกอย่าตวยเน้อเจ้า ^^ ........

ความคิดเห็นที่ 13
!!~กอย่า~!!
19 สิงหาคม 2009
11:23:31
hi_kohya@hotmail.com
IP : 222.123.210.42
Photo by ::

มีฮูปละครเก่าสมัย กบสุวนันท์ กั๋บศรราม แสดงไว้มาหื้อผ่อตวย

ออกอากาศเมื่อปี๋ 2537 ช่อง 7 ทำเป๋นละคร ชุดปากกาทองฉายต๋อนบ่ายเสาร์-อาทิตย์ เจ้า

ความคิดเห็นที่ 14
NoRWAN
24 สิงหาคม 2009
16:39:05
wakushi4@hotmail.com
IP : 124.157.238.192
ฉบับการ์ตูนมีให้อ่านจริงๆค่ะ เราวาดเองค่ะ ไว้ลองหาอ่านและติชมกันได้นะคะ
ของสำนักพิมพ์สยามอินเตอร์คอมิก เล่มเดียวจบค่ะ
ออกวางขายวันแรกเมื่อ 15 สิงหาคมที่ผ่านมานี้เองค่ะ
รายละเอียดหน้าปกดูได้จากลิ้งค์นี้
http://norwan.exteen.com/20090802/comic

ขณะนี้เชียงรายโฟกัส ได้ย้ายไปใช้เว็บบอร์ดใหม่

ท่านสามารถเข้าไปใช้บริการได้ที่นี่ http://www.chiangraifocus.com/forums/index.php

 


"...ข้อความที่ีท่านได้อ่านบนกระดานข่าวแห่งนี้ เกิดขึ้นจากการเขียนโดยสาธารณชน และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเว็บไซต์์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ ผู้อ่านจึงต้องใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรองด้วยตัวเอง และถ้าผู้เสียหายหรือผู้ถูกพาดพิงพบเห็นข้อความใดๆ ที่พาดพิงถึงท่านจนได้รับความเสียหาย หรือข้อความที่ี่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรม กรุณาแจ้งมาที่ เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบทันที ขอขอบพระคุณ.."
 

เชียงรายโฟกัส ดอทคอม ชุมชนออนไลน์ของคนเชียงราย by :http://www.ChiangraiFocus.com
ทุกความคิดเห็นสามารถส่งมาได้ที่ ChiangraiFocus@hotmail.com | หน้าแรกเว็บไซต์เชียงรายโฟกัส | หางานเชียงราย | ลงโฆษณากับเชียงรายโฟกัส