 |
นายศหัสไนญ มั่งมี |
วันที่ |
09 สิงหาคม 2009 |
เวลา |
11:33:05 |
sahasanai@hotmail.com |
IP |
118.172.67.192 |
|
|
|
อยากทราบเรื่องเงินตอบแทนของโครงการต้นกล้าอาชีพ
|
ผมชื่อ นายศหัสไนญ มั่งมี ผู้เรียนจบหลักสูตรของโครงการต้นกล้าอาชีพรุ่นที่ 3 สาขาซ่อมและประกอบคอมพิวเตอร์ ตามที่รายละเอียดโครงการบอกว่าจะมีเงินสนับสนุนในการกลับภูมิลำเนาเพื่อไปประกอบอาชีพจำนวน 3 เดือน หลังจากอบรมแล้ว โดยต้องส่งหลักฐานที่อำเภอ แต่ก็ได้ทำเรื่องไปแล้ว ตั้งแต่เดือน ก.ค. 2552 แต่ยังไม่ได้รับเงินของเดือนก.ค. เลยครับ แล้วอย่างนี้จะสามารถตรวจสอบ และจะดำเนินการอย่างไรอีกต่อไปครับ |
|
|
ความคิดเห็นที่
1 |
|
ยาจกน้อย |
|
09 สิงหาคม 2009
19:38:37 |
|
|
IP :
119.42.77.143 |
|
ผมรุ่นที่ 2 ก็ยังไม่ได้เลย ไม่รู้จะทำยังไงเหมือนกัน แย่มากๆๆๆๆ |
|
ความคิดเห็นที่
2 |
|
วิน |
|
10 สิงหาคม 2009
10:31:11 |
wirawin_j@hotmail.com |
|
IP :
117.47.44.122 |
|
555ผมรุ่น1ยังไม่ได้เงินเลย |
|
ความคิดเห็นที่
3 |
|
เสี่ยวเอ้อ |
|
10 สิงหาคม 2009
11:23:59 |
|
|
IP :
110.169.40.188 |
|
ส่งภรรเมียไปเรียนจัดดอกไม้ ผมไม่หวังเงินหรอก แต่เจ้าตัวสิ หวังในตัวโครงการเหลือเกิน ผมบอกแล้วมันแค่ตำน้ำพริกละลายแม่น้ำของ รบ. นี้ ก็จะรอดู นี่จบไปเมื่อวานนี้เอง รอครับรอ...... |
|
ความคิดเห็นที่
4 |
|
เจียงฮาย |
|
10 สิงหาคม 2009
12:20:08 |
somwangtw@hotmail.com |
|
IP :
117.47.122.48 |
|
รอ อะไร ครับ ท่านเสี่ยวเอ้อ...........
รอ..พรบ. 400000 ล้านผ่านเหรอ ครับ....
นายก บอกว่า ถ้าไม่ผ่าน (จะมีปัญหา)......
อย่างน้อย ก็ต้นกล้าอาชีพ หละ ครับ...ที่มีปัญหา เพราะไม่รู้จะเอาเงินไหน มาจ่าย..
|
|
ความคิดเห็นที่
5 |
|
ต้นกล้ารุ่น3 |
|
12 สิงหาคม 2009
21:43:22 |
ploy190.3@hotmail.com |
|
IP :
117.47.219.25 |
|
ดิฉันก็จบรุ่นที่3เหมือนกันค่ะ ยังไม่ได้รับเงินเหมือนกันค่ะไปรายงานตัวมา2ครั้งแล้ว ก็คิดว่าคงจะไม่ได้แล้วหล่ะค่ะ เรานำอาชีพที่เรียนมาไปลงทุนต่อเรียบร้อยแต่เงินสิค่ะที่บอกว่าจะให้แต่ไม่เห็นได้รับที่ลงทุนก็เงินเราเองทั้งนั้น นี่หรือค่ะโครงการที่ช่วยคนตกงานเพิ่มภาระให้ตัวเองแท้ๆเลย นึกว่าจะได้เงินสนับสนุนช่วยเพิ่มทุนได้บ้างที่ไหนได้ไม่ได้อะไรเลยแถมต้องเข้าเนื้อตัวเองอีก |
|
ความคิดเห็นที่
6 |
|
เสี่ยวเอ้อ |
|
14 สิงหาคม 2009
14:00:02 |
|
|
IP :
110.169.40.174 |
|
คห. ที่4 ครับ ผมรอไอนี่อยู่ครับ....ฮือๆๆๆๆ
คลังเดินหน้ากู้7แสนล้าน วันพฤหัสบดีที่ 13 สิงหาคม พ.ศ. 2552
คลังวางแผนกู้รอบใหม่ปีงบ 2553 วงเงิน 7 แสนล้านบาท ทั้งกู้ตรงธนาคาร และออกพันธบัตรออมทรัพย์ขายประชาชน
พงษ์ภาณุ เศวตรุนทร์ นายพงษ์ภาณุ เศวตรุนทร์ ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) เปิดเผยว่า กระทรวงการคลังวางแผนการกู้เงินในปีงบประมาณ 2553 (ต.ค. 2552-ก.ย. 2553) จำนวน 7 แสนล้านบาท โดยจะออกพันธบัตรไตรมาสละ 1 แสนล้านบาท รวม 4 แสนล้านบาท สำหรับที่เหลืออีก 3 แสนล้านบาท จะกู้เงินจากธนาคารพาณิชย์ และออกพันธบัตรออมทรัพย์ อายุ 5 ปี และ 10 ปี ขายให้กับประชาชนรายย่อย เนื่องจากได้รับความสนใจจากตลาดมากที่สุด
นายพงษ์ภาณุ กล่าวว่า การ กู้เงินดังกล่าวอยู่ภายใต้เงินกู้ ขาดดุลงบประมาณปี 2553 และการกู้เงินภายใต้พระราชกำหนด (พ.ร.ก.) กู้เงิน 4 แสนล้านบาท เพื่อลงทุนในโครงการไทยเข้มแข็ง 1.43 ล้านล้านบาท ที่เป็นแผน การกระตุ้นเศรษฐกิจในระยะ ปานกลางของรัฐบาล
นอกจากนี้ ในการจัดทำงบประมาณปี 2553 คลังต้องขอตั้งงบประมาณชำระดอกเบี้ยในส่วนของการกู้เงินตามพ.ร.ก.กู้เงิน 4 แสนล้านบาท อีก 1 หมื่นล้านบาท จากที่ได้ตั้งงบประมาณชำระหนี้ไว้แล้ว 1.98 แสนล้านบาท
นายพงษ์ภาณุ กล่าวว่า กระทรวงการคลังยังได้ตั้งคณะกรรมการกู้เงินเพื่อโครงการไทยเข้มแข็ง พิจารณาแนวทางการแปลงเงินกู้จากธนาคารพาณิชย์เป็นพันธบัตรระยะยาว เนื่องจากขณะนี้ธนาคารพาณิชย์มีสภาพคล่องในระบบสูงมาก อีกทั้งดอกเบี้ยต่ำ จึงถือว่าเป็นจังหวะดีที่จะแปลงหนี้ให้เป็นระยะ 15 ปี 20 ปี หรือ 30 ปี ซึ่งจะช่วยลดความเสี่ยงทางการเงิน
อย่างไรก็ตาม ผู้อำนวยการสบน. ประเมินว่า การระดมทุนภาครัฐจะมีความยากลำบากมากขึ้น เพราะทิศทางอัตราดอกเบี้ยอยู่ในช่วงขาขึ้น ทำให้การระดมทุนในตลาดตราสารหนี้ยากลำบากมากขึ้น เนื่องจากไม่มีใครอยากซื้อพันธบัตรระยะยาว
นายพงษ์ภาณุ กล่าวว่า ในวันที่ 13 ส.ค.นี้ จะมีการประชุมคณะกรรมการพิจารณากลั่นกรองโครงการภายใต้แผนฟื้นฟูเศรษฐกิจระยะที่ 2 (เอสพี 2) เพื่อติดตามดูราคากลางของโครงการตามแผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง 2555 วงเงินรวม 1.06 ล้านล้านบาท ที่พร้อมดำเนินการได้ทันที รวมถึงตรวจสอบว่าแต่ละโครงการต้องใช้เงินจำนวนเท่าใด
ทั้งนี้ คลังจะมีการปรับแผนการกู้เงินเพื่อมาลงทุนใหม่ เนื่องจากการจัดเก็บรายได้ต่ำกว่าเป้าลดลงเหลือ 1.7 แสนล้านบาท ทำให้มีเงินเหลือมาลงทุนเพิ่มขึ้น จากเดิมที่คาดว่าจะจัดเก็บได้ต่ำกว่าเป้า 2.8 แสนล้านบาท ทำให้การกู้เพื่อมาชดเชยเงินคงคลังลดลงไปด้วย
สำหรับวงเงินโครงการไทยเข้มแข็งก้อนแรกคาดว่าจะอัดฉีดเข้าสู่ระบบ 3 หมื่นล้านบาท ภายในเดือนก.ย.นี้ โดยงบลงทุนก้อนแรกจะเป็นโครงการของกรมทางหลวงในการซ่อมบำรุงถนนทั่วประเทศ โครงการของทหาร และโครงการเพิ่มทุนให้ธนาคารเฉพาะกิจของรัฐทั้งหมด และภายในไตรมาสแรกของปีงบประมาณ 2553 หรือเดือน ต.ค.-ธ.ค. 2552 คาดว่าจะมีการ เบิกจ่ายเงินเข้าสู่ระบบถึง 2 แสนล้านบาทแน่นอน เป็นส่วนสำคัญ ทำให้เศรษฐกิจฟื้นตัวต่อเนื่อง ทำให้ภาคเอกชนมั่นใจตัดสินใจลงทุนตามรัฐบาล เร็วขึ้น |
|
ความคิดเห็นที่
7 |
|
เสี่ยวเอ้อ |
|
14 สิงหาคม 2009
14:02:56 |
|
|
IP :
110.169.40.174 |
|
|
ขณะนี้เชียงรายโฟกัส ได้ย้ายไปใช้เว็บบอร์ดใหม่
ท่านสามารถเข้าไปใช้บริการได้ที่นี่ http://www.chiangraifocus.com/forums/index.php
|