|
พอนหล้า |
วันที่ |
18 พฤศจิกายน 2008 |
เวลา |
00:18:37 |
|
IP |
222.123.22.2 |
|
|
|
ยูเนสโกยก วัดปงสนุก แหล่งอนุรักษ์วัฒนธรรมเอเชียแปซิฟิก
|
ยูเนสโก มอบรางวัล Award of Merit ประจำปี 51 ให้วัดปงสนุก ของลำปาง ชูการอนุรักษ์มรดกทางวัฒนธรรมในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก เผยเป็นวัดแรกของไทยที่ได้รางวัล
ดร.ริชาร์ด อิงเกิลฮาร์ท ที่ปรึกษาอาวุโสในผู้ช่วยผู้อำนวยการใหญ่ด้านวัฒนธรรมประจำองค์การยูเนสโก ได้เดินทางมาถวายรางวัลดี (Award of Merit) ด้านการอนุรักษ์มรดกทางด้านวัฒนธรรมในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก แห่งองค์การยูเนสโก ประจำปี 2551 แก่พระครูโสภิตขันตยาภรณ์ เจ้าอาวาสวัดปงสนุกด้านเหนือ อำเภอเมือง จังหวัดลำปาง โดยมี นายอมรพันธุ์ นิมานันท์ ผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง, นายนิมิตร จิวะสันติการ นายกเทศมนตรีนครลำปาง กล่าวต้อนรับและกล่าวแสดงความยินดี แทนประชาชนชาวลำปางทุกคน
สำหรับรางวัล Award of Merit ที่วัดปงสนุก ได้รับในครั้งนี้ ถือเป็นวัดแรกของประเทศไทย ที่ได้รับรางวัลด้านการอนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรม จากองค์การยูเนสโก จากที่มีประเทศต่างๆ รวม 13 ประเทศ ในภาคพื้นเอเชียแปซิฟิก ส่งโครงการเข้าร่วมประกวด รวม 45 โครงการ ซึ่งจากการตัดสินผู้ที่ได้รับรางวัลดีมี 3 รางวัล คือ Vysial Street (เมืองพอนดิเซอร์รี่ ประเทศอินเดีย) Shigar Historic Settlements and Bazaar Area (เขตทางเหนือ ประเทศปากีสถาน) และ วัดปงสนุก (เมืองลำปาง ประเทศไทย)
สำหรับการจัดทำโครงการดังกล่าวขององค์การยูเนสโก มีวัตถุประสงค์เพื่อยกย่องบุคคลและองค์กรภาคเอกชน หรือโครงการความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชน ในการบูรณปฏิสังขรณ์อาคารและสิ่งก่อสร้างที่เป็นมรดกอันทรงคุณค่าในภูมิภาค
ทั้งนี้ ประเทศไทย ได้ส่งโครงการอนุรักษ์เข้าร่วมประกวดรางวัล มาอย่างต่อเนื่อง นอกเหนือจากโครงการอนุรักษ์วัดปงสนุก แล้ว โครงการอนุรักษ์อื่นๆ ในประเทศไทย 5 โครงการ ก็เคยได้รับรางวัลจาก ยูเนสโก มาก่อนหน้านี้แล้ว คือ สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ จังหวัดฉะเชิงเทรา ได้รับรางวัล Honourable Mention ปี พ.ศ.2551, โครงการอนุรักษ์ชุมชนอัมพวา จังหวัดสมุทรสงคราม ได้รับรางวัล Honourable Mention ปี พ.ศ.2548, โครงการอนุรักษ์พระราชวังเดิม กทม.ได้รับรางวัล Award of Merit ปี พ.ศ.2547 และรางวัลการอนุรักษ์วัดสระทอง จังหวัดขอนแก่น ได้รับรางวัล Award of Merit ปี พ.ศ.2545
อนึ่งในวารสารเมืองโบราณ ฉบับประจำเดือนกรกฎาคม-กันยายน 2551 ได้ระบุถึงโครงการอนุรักษ์วิหารพระเจ้าพันองค์ วัดปงสนุก จังหวัดลำปาง ว่า เริ่มต้นจากความต้องการของชุมชนเล็กๆ แห่งหนึ่งในจังหวัดลำปาง โดยใช้กระบวนคิดในการทำงานร่วมกันระหว่างชุมชนท้องถิ่น เอกชน ศิลปิน และนักวิชาการ เริ่มจากการศึกษาวิจัยทางกายภาพและประวัติศาสตร์ชุมชนเกี่ยวกับวิหารพระเจ้าพันองค์ วิหารโถงทรงมณฑปจตุรมุขแห่งสำคัญที่เคยประดับพระพิมพ์เนื้อชินกว่าหนึ่งพันองค์รอบตัววิหาร
วัดปงสนุก ตั้งอยู่ในเขตตัวเมืองลำปาง สันนิษฐานว่า สร้างในสมัยเจ้าอนันตยศ ราชบุตรของพระนางจามเทวีแห่งหริภุญไชย ครั้งที่พระองค์เสด็จมาสร้างเขลางค์นครเมื่อ พ.ศ.1223 เดิมชื่อวัดเชียงภูมิ หรือวัดพะยาว มีประวัติว่าหมื่นโลกนครผู้รักษาเมืองเขลางค์เคยใช้เป็นที่ตั้งรับทัพอยุธยาที่ยกขึ้นมาตีล้านนาครั้งแรกในปี พ.ศ.1929
สิ่งสำคัญที่ยืนยันความสำคัญของวัด คือ ม่อนดอย เนินเขาพระสุเมรุจำลอง ศูนย์กลางแห่งจักรวาล ชาวบ้านเรียกว่า วัดบน อันเป็นที่ตั้งของวิหารพระเจ้าพันองค์ สร้างด้วยไม้ในลักษณะมณฑปหลังคาซ้อนสามชั้น บนสันหลังคาเหนือมุขทั้งสี่สร้างปราสาทไม้จำลองขนาดเล็กหุ้มด้วยสังกะสีฉลุลาย สื่อความหมายถึงทวีปทั้งสี่รอบเขาพระสุเมรุ
บริเวณชั้นระหว่างหลังคางดงามด้วยงานแกะสลักรูปกินนร สัตว์หิมพานต์ครึ่งคนครึ่งนก แต่งกายแบบราชสำนักพม่า และนกยูง สัญลักษณ์ของกษัตริย์ ประดับช่องหน้าต่างด้วยลายฉลุรูปม้า วัว สิงห์ สัตว์ประจำทิศในพุทธศาสนา รวมถึงนรสิงห์เทินหม้อปูรณฆฏะ สัญลักษณ์แห่งความอุดมสมบูรณ์ ขนาบด้วยภาพชาดกเขียนสีบนพื้นไม้ใส่กรอบกระจก แสดงเรื่องการบำเพ็ญเพียรของพระพุทธเจ้า
ลักษณะตัวอาคารผสมผสานระหว่างศิลปกรรมล้านนา พม่า และจีน ที่หลงเหลือเพียงอยู่แห่งเดียวในประเทศไทย ทั้งยังมีความเชื่อสืบกันมาว่า วิหารหลังนี้สร้างโดยช่างเชียงแสน เลียนแบบหอคำเมืองเชียงเกี๋ยง (เชียงเจิ๋ง) ในสิบสองปันนา ประเทศจีน ซึ่งไม่หลงเหลืออยู่แล้วในปัจจุบัน วิหารหลังนี้จึงเปรียบเสมือนสายสัมพันธ์ทางศิลปกรรม กับสิบสองปันนาเท่าที่เหลืออยู่
วิหารหลังนี้เคยมุงหลังคาด้วยโลหะเช่นเดียวกับอาคารโบราณหลายแห่งในล้านนา ซึ่งนิยมมาตั้งแต่พ.ศ. 2000 ตัวอาคารเกือบทั้งหลังประดับด้วยกระจกจืน หรือกระจกตะกั่ว เสากลมภายในวิหารก็เคยลงรักปิดทองก่อนจะทาสีทับภายหลัง ทั้งยังมีการต่อเติมมุขทั้งสี่ของอาคารหลังเดิมออกมา ทำให้งดงามแปลกตาจนเป็นต้นแบบให้กับการสร้างงานสถาปัตยกรรมในสมัยหลัง
------------------------------------------
ที่มา ผู้จัดการออนไลน์ |
|
|
ความคิดเห็นที่
1 |
|
พอนหล้า |
|
18 พฤศจิกายน 2008
00:19:39 |
|
|
IP :
222.123.22.2 |
|
อยากให้เชียงรายได้รับรางวัลนี้จัง |
|
ความคิดเห็นที่
2 |
|
คนแม่สาย |
|
16 พฤษภาคม 2009
05:00:37 |
d.s.tour@hotmail.com |
|
IP :
118.174.115.74 |
|
เชิญเที่ยวฟาร์มแมงป่อง สถานที่ท่องเที่ยวและแหล่งให้ความรู้แห่งใหม่
เชิญชมฟาร์มสาธิตการเลี้ยงสัตว์เศรษฐกิจยุคใหม่ส่งขายต่างประเทศ เช่น แมงป่อง ตะขาบ ไก่ยักษ์ กบยักษ์ แมงมุมยักษ์ (บึ้ง) นกยูง ไก่ฟ้า จระเข้ นกกระจอกเทศ ตุ๊กแก จิ้งหรีด ปลาจระเข้ งูเห่า งูจงอาง ปลาการารูฟา (ปลาบำบัดโรค) เป็นต้น สัมผัสชีวิตสัตว์ที่มีพิษอันน่ามหัศจรรย์ได้ ความรู้และความเพลิดเพลินในท่ามกลางบรรยากาศจริงทั้งกลางวันและกลางคืนพร้อมให้คำแนะนำในการ เลี้ยงสัตว์เศรษฐกิจยุคใหม่ในเชิงเศรษฐกิจแก่เกษตรกรผู้ที่มีความสนใจ เปิด ( 09.00-20.00 น.) ทุกวัน * นักท่องเที่ยวทั่วไปเก็บค่าเข้าชมท่านละ 30 บาท * ต่างชาติ 100 บาท * นักบวช-เด็กเล็ก.. เข้าชมฟรี * นักเรียนมีคุณครูพามาชมเป็นหมู่คณะ เข้าชมฟรี * โรงเรียน-มหาวิทยาลัย-ทำหนังสือมาถึงฟาร์มแมงป่อง เข้าชมฟรี สอบถามรายระเอียดได้ที่.. ฟาร์มแมงป่องแม่สาย ตั้งอยู่ที่เหนือสุดแดนสยามที่ อ.แม่สาย เลขที่ 47 หมู่ 4 ติด ถ. บายพาสแม่สาย-เชียงแสน ต.เวียงพางคำ อ.แม่สาย จ.เชียงราย 57130 คุณเล็ก โทร.. 085-7122575 .053-733032 e-mail: a.abc.123@hotmail.com
----------------------------------------------------------------------------------------
เที่ยวเหนือกันดีกว่า
อาสาพาเที่ยวเหนือสุดแดนสยาม ตามโปรแกรม เพียงท่านละ 180 บาท *เด็ก 100 บาทเท่านั้น รับคณะท่านฯ เริ่มต้นที่จุดนัดพบ / ที่หน้า อ.แม่สาย พาคณะท่องเที่ยวทั้งฝั่งไทยและฝั่งพม่า-ที่ท่าขี้เหล็ก ดำเนินการเอกสารผ่านแดน ค่ารถฝั่งพม่า ค่าอาหารกลางวัน และอื่น ๆ พาเที่ยวตามโปรแกรมมีรายการดังนี้..
* พาคณะชมวิวตัวเมืองที่สวยงามที่สุดขึ้นไปที่วัดพระธาตุดอยเวา * ทำหนังสือพาคณะข้ามแดนไป จ.ท่าขี้เหล็กฝั่งพม่า * พาคณะนั่งรถไปเที่ยววัดพระหยก ชมเจดีย์ชเวดากอง ฯลฯ * แวะชมคาสิโน (ถ้าแวะชมกระเหรี่ยงคอยาวเสียเพิ่มท่านละ100บาท) * พาคณะเข้าชมฟาร์มแมงป่องแม่สาย( มีสปาปลาการารูฟาให้บริการ) * รับประทานอาหารกลางวัน เป็นอาหารไทยมีให้เลือกทานหลายสิบอย่าง พร้อมกับของหวานและผลไม้ตามฤดูกาลมีให้ท่านได้เลือกทานจนอิ่มจุใจ * พาช้อปปิ้งสินค้าปลอดภาษี และสินค้าต่างๆ อีกมากมายตามอัธยาศัย / แล้วส่งกลับบ้าน ****** *** ท่องเที่ยว สะดวก-ปลอดภัย-ประหยัด-ไม่เสียเวลา-ไม่ถูกหลอก-สุขกายสบายใจ เราอาสาจัดให้ ค่ะ ! ดีเสมอทัวร์.แม่สาย โทร.. 085-7122575, 053-733032 คุณ เล็ก ดีเสมอ
|
|
ความคิดเห็นที่
3 |
|
ดีเสมอทัวร์. |
|
16 กรกฏาคม 2009
23:47:40 |
d.s.tour@hotmail.com |
|
IP :
118.174.127.68 |
|
เที่ยว เชียงตุง-เมืองลา 2 คืน 3 วัน โดยย่อ
07.30 น.รับคณะที่ อ. แม่สาย/เดินทางข้ามพรหมแดนไทย-พม่า ที่แม่สาย-ท่าขี้เหล็ก ผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมือเดินทางไปเชียงตุงโดยผ่านท่าเดื่อ เมืองโก เมืองเลน เมืองยอง และเมืองพะยาคซึ่งเป็นจุดกึ่งกลางระหว่างท่าขี้เหล็กกับเชียงตุง เป็นเส้นทางเดินทัพไทยสมัยสงครามศึกเชียงตุงปลายรัชกาลที่ 3 (2393-2397) ต้นรัชกาลที่ 4 จนถึงสงคราม โลก ครั้งที่ 2 ยึดเชียงตุงได้ในสมัยจอมพลผิน ชุณหวัณ ให้ชื่อว่า สหรัฐไทยเดิม เมื่อวันที่ 26 พ.ย. 2485 รับประทานอาหารที่มีชื่อและอร่อยที่เมืองเชียงตุง สัมผัสบรรยากาศของรัฐไทยเดิม ออกเดินทางไปเมืองลา ( 86 ก.ม.) สัมผัสเส้นทางอันมีทิวทัศน์สวยสดงดงาม ท่ามกลางภูเขาสูงเสียดฟ้าและป่าไม้อันอุดมสมบูรณ์ สมัยก่อนเป็นเส้นทางขนยาเสพติด ปัจจุบันเป็นเส้นทางเศรษฐกิจขนส่งสินค้า ระหว่าง จีน พม่า ไทย /เข้าที่พักที่โรงแรม/รับประทานอาหารค่ำ/ท่องราตรียามค่ำคืนในนครอันได้ชื่อว่า ลาสเวกัสตะวันออก อันตื่นตาตื่นใจ /เที่ยวชมตลาดเช้าเมืองลา สัมผัสวิถีชีวิตคนพื้นเมืองชาวไตลื้อ และชนเผ่าต่างๆที่น่าสนใจ มีสินค้าจีน สินค้าพื้นเมือง สัตว์ป่านานาชนิด มีให้ท่านจับจ่ายซื้อหาอย่างจุใจ เดินทางไปพรหมแดนระหว่าง พม่า-จีน ( เมืองลา-เชียงรุ้ง ) เข้าแผ่นดินจีนถ่ายรูป เป็นที่ระลึก และขึ้นยอดดอย ชมเจดีย์ชเวจินตา ที่บันทึกเรื่องราวต่าง ๆ สถานที่ สำคัญ ๆในพม่า ทั้ง 7 รัฐ 7 มณฑล ชมพิพิธภัณฑ์ฝิ่น ชมวัดพระนอน ไปเที่ยวฟาร์มเลี้ยงหมี โรงงานหยก ฯลฯ /ออกเดินทางจากเมืองลาไปเมืองเชียงตุง ถึงเมืองเชียงตุง ชมวัดจอมคำ ซึ่งเป็นวัดหลวงอันทรงคุณค่าทางศิลปวัฒนธรรมของชาวไทยใหญ่ ชมศิลปะการตีดาบที่สืบทอดกันมามากกว่า 700 ปี ที่หมู่บ้านตีดาบชมวัดพระยืนที่สูงที่สุดในพม่าชมหนองตุงในบรรยากาศยามเย็นที่สวย ที่สุดชมไม้หมายเมืองมีอายุไม่ต่ำกว่า 250 ปี/ชมวิถีชีวิตชาวเชียงตุงยามเช้า ที่บ้านกลางนาหลวง กาดเช้าโบราณ ชมวัดมหามัยมุนี พระศักดิ์สิทธิ์ คู่เมืองเชียงตุงนับหลายร้อยปี วัดหัวโข่ง หอคำ เจ้าบุญญวาส หอคำหลวง เรือพญาขอน ประตูป่าแดง หมู่บ้านเครื่องเขิน และ ช้อปปิ้ง มีสินค้าพื้นเมือง สินค้าจีน อินเดีย ไทยและผ้าชั้นดีจากพม่า ฯลฯ ในตลาด /ออกเดินทางไปท่าขี้เหล็กแวะดื่มน้ำชา ที่บ้านปางควาย ซึ่งปัจจุบันเป็นจุดพักรถสมัยโบราณเป็นจุดพักทัพ และเป็นจุดพักคาราวานสินค้า และเป็นจุดที่สูงที่สุดอีกด้วย 16.00 น. ถึงท่าขี้เหล็กแวะช้อปปิ้ง ร้านค้าปลอดภาษี และสินค้าอื่นๆ ตามอัธยาศัย ออกจากท่าขี้เหล็กกลับบ้านโดยสวัสดิ์ภาพทุกๆท่าน
(มีไป.. ญี่ปุ่น-ปักกิ่งสิบสองปันนา-เขมร-เวียดนาม-หลวงพระบาง-ฮ่องกง-มาเก๊า-เซินเจิ้น-คุนหมิง-เกาหลี ฯลฯ ค่ะ)
** สะดวก-ปลอดภัย-ประหยัด-ไม่เสียเวลา-ไม่ถูกหลอก-สุขกายสบายใจ เราอาสาจัดให้ ค่ะ !
สอบถามได้ที่
ดีเสมอทัวร์.แม่สาย 16/3 ม.8 ถ.พหลโยธิน ต.เวียงพางคำ อ.แม่สาย จ.เชียงราย 57130 โทร.. 085-7122575, 053-733032 (คุณ เล็ก) e-mail: d.s.tour@hotmail.com |
|
ขณะนี้เชียงรายโฟกัส ได้ย้ายไปใช้เว็บบอร์ดใหม่
ท่านสามารถเข้าไปใช้บริการได้ที่นี่ http://www.chiangraifocus.com/forums/index.php
|