|
agel-thai.com |
วันที่ |
04 กุมภาพันธ์ 2009 |
เวลา |
00:03:46 |
|
IP |
203.107.203.72 |
|
|
|
AGEL ดีอย่างไร
|
AGEL ดีอย่างไร
จดหมายจากคุณ นิติ สว่างทรัพย์
UTAH VISIT 1 : VISIT AGEL HEADQUARTER
เพื่อนๆที่รักทุกท่าน
บางท่านอาจพอทราบนะครับว่า ผมเพิ่งไป เยี่ยมชม สำนักงานใหญ่ อาเจล ที่ยูท่าห์ มา วันก่อนได้ ฉายสไลด์ ให้ผู้นำ ได้ดูกันบ้างแล้ว เลยคิดว่าสรุปเนื้อ หา สั้นๆให้ ได้รับทราบกัน อาจเป็นประโยชน์มากขึ้น
ผมอยู่ที่นั้น 3 วันเต็ม พบปะผู้คนมากมาย ทั้งผู้บริหาร สตาฟ ผู้จำหน่ายระดับผู้นำ เยี่ยมชมโรงงาน ได้รับข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อการสร้างธุรกิจมากมาย ในรอบ 7 ปีหลังของการทำงานในธุรกิจเครือข่าย ผมไปยูท่าห์ ไม่ต่ำกว่า 15 ครั้ง นี่เป็นครั้งที่ผมประทับใจที่สุด จะขออนุญาติถ่ายทอดให้ทราบบางส่วนนะครับ
1. เรื่องทั้งหมดเริ่มต้นตั้งแต่ ต้นปี 2005
ตอนนั้นผมยังทำงานที่ตาฮิเตียน โนนิอยู่ประสบความสำเร็จพอสมควร พอผมตัดสินใจที่จะค้นหาโอกาสใหม่ๆ ให้กับตัวเอง ก็เลยทำการวิจัยบริษัท mlm ชั้นนำทั่วโลก ประมาณ 100 บริษัท วิเคราะห์แล้วตัดเหลือ 6 บริษัทที่ดีที่สุด คือ มาลาลูก้า, ยูนิซิตี้,ยูซาน่า, ซินเนอร์จี้,เอเจล,โมนาวี จากนั้นดูจังหวะเวลาที่จะเปิดในไทยสุดท้าย ตัดเหลือ 3 บริษัทเพื่อบินไปดู เเละคุยกับผู้บริหาร คือ ซินเนอร์จี้,เอเจล,โมนาวี
ตอนนั้นซินเนอจี้ เปิดในไทย แล้ว 2 ปี, อีก 2 เเห่งมีโครงการจะเปิดในไทย จาก 3 แห่ง จริงๆแล้ว เอเจล ดูดีที่สุด ทั้ง idea สินค้าความเป็นมืออาชีพของผู้บริหาร เเต่เนื่องจากยังไม่ทันเปิดบริษัทเป็นทางการเลย ถึงน่าสนใจแต่ผมกลัวบริษัทเปิดใหม่ไปไม่รอด จึงตัดสินใจเลือกความมั่นคง คือ ซินเนอจี้ ที่แบ็คโดยเนเจอซันไชน์
2 ปีของการทำงานในซินเนอร์จี้ก็ทำอย่างสุดความสามารถ โชคดีที่ได้ร่วมงานกับคุณบัญชาและทีมสตาฟ และ ผมยังได้คู่หูที่ดี อย่างคุณวรรณ และเพื่อนๆอีกมากมาย ทำให้ทุกอย่างเติบโตด้วยดี เป็นช่วง 2 ปีที่มีความหมายกับผมมาก เเต่ด้วยอุบัติเหตุการเมืองทำให้ผมจำเป็นต้องเริ่มงานใหม่ แต่อย่างไรก็ตามต้องขอบคุณประสบการณ์ดีๆ เพื่อนดีๆ เป็นอย่างยิ่ง
2.ความประทับใจในตัวผู้ก่อตั้ง Mr.Glen Jensen พบกันอีกครั้ง 2 ปีให้หลังคุณเกล็น ดูดีกว่าเดิมมาก อาจเป็นเพราะความสำเร็จในช่วงที่ผ่านมาทำให้ราศีดูสดใส คุณเกล็นเป็นคนที่พูดน้อย มาดสุขุมลุ่มลึก แต่เมื่อพูดจาจะแสดงออกถึงความเฉียบแหลมเสมอ ผมขอเล่าประวัติคุณเกล็นสั้น ๆ เล็กน้อย.... คุณเกล็น เคยอยู่ที่ญี่ปุ่นทำให้พูดภาษาญี่ปุ่นได้ และมีความคุ้นเคยกับตลาดญี่ปุ่นเป็นอย่างดี หลังจากเรียนจบไม่นาน ก็ได้ทำงานกับบริษัท นูสกิน ในส่วนของ Customer Service เกือบ 10 ปี จากนั้นก็ไปทำงานในบริษัทยายักษ์ใหญ่ของญี่ปุ่น และมาเป็นผู้บริหารของบริษัท นิวเวย์ ในส่วน International Market Business Development จากนั้นหลายปีก็ถึงจุดอิ่มตัวจึงได้ออกมาตั้งบริษัท MLM ของตนเองชื่อบริษัท ซินเนอจี้ เวิร์ลไวด์ ในปี 1999 โดยเริ่มเปิดตลาดที่ญี่ปุ่นก่อนซึ่งเป็นตลาดที่คุณเกล็นเชี่ยวชาญเป็นพิเศษ จนกระซินเนอจี้ได้รับการจัดอันดับเป็น HOT 100 อันดับที่ 8 โดยวารสาร Enterpreneur ซี่งเป็นผลงานที่โดดเด่นของคุณเกล็นทั้งสิ้น แต่เนื่องจากญี่ปุ่นเป็นตลาดที่ต้องใช้ค่าใช้จ่ายอย่างสูงในการบริหารจัดการ ยิ่งเติบโตก็ยิ่งมีปัญหา Cashflow ในที่สุดคุณเกล็นจึงตัดสินใจเป็นพันธมิตรกับ เนเจอซันไชน์ โดยขายบริษัทไปเป็นมูลค่า 5.5 ล้านเหรียญ และคุณเกล็นก็ยังเป็นประธานจนกระทั่งถึงกลางปี 2002 ด้วยเหตุผลทางเทคนิคบางประการ คุณเกล็นจึงลงจากตำแหน่งและลาออกจากการทำงานในซินเนอจี้เวิร์ลไวด์ หลายปีให้หลังก็ได้ก่อตั้งบริษัท เอเจล ขึ้นมา และเริ่มต้นเปิดทำการเดือนแรก ตุลาคม ปี 2005 สิ่งที่น่าทึ่งและเป็นตัวพิสูจน์ความน่าสนใจ ของผลิตภัณฑ์ เจลซูติคัล ก็คือ มีการติดต่อเข้ามาจากบริษัทยักษ์ใหญ่ที่คุณเกล็นเคยร่วมงานด้วยเพื่อขอซื้อเอเจลเข้าไปเป็น บริษัทลูก โดยเสนอราคาเพิ่มขึ้นตามลำดับ จนกระทั่งสูงถึง 60 ล้านเหรียญ แต่คุณเกล็นและทีมบริหารตัดสินใจ ไม่ขายบริษัท เพราะมั่นใจในอนาคตของบริษัท เอเจล ว่าจะสามารถก้าวไปถึงระดับ Billion Dollar Company ได้
3. มิตรภาพที่แน่นแฟ้น ระหว่าง คุณชนิดา กับ คุณเกล็น หลายคนจะไม่ทราบว่าหลังจากคุณเกล็นไม่ได้เป็นผู้บริหารที่ซินเนอจี้ แล้ว ท่านได้เป็นผู้จำหน่ายอยู่ในช่วงเวลาสั้นๆ แต่ท่านพบว่า งานนี้ไม่ใช่เป็นงานที่ท่านถนัด สุดท้ายก็เลยไม่ได้ทำต่อ และสามารถคัมแบ็คมาก่อตั้งเอเจลได้ในที่สุด ในช่วงเวลาที่ คุณเกลนเป็นผู้จำหน่ายนั้นเองที่ได้เรียนรู้ว่า ใครจริงใจ ใครไม่จริงใจ หลายครั้งที่ท่านไปร่วมงานประชุมของบริษัท บางคนที่เคยร่วมงานกันมากลับทำเป็นไม่เห็นท่าน เเต่คุณชนิดายังคงปฏิบัติตัวเหมือนสมัยที่คุณเกล็นยังเป็นประธานบริษัทอยู่ ทุกครั้งที่เห็นคุณเกล็นนั่งหลังห้องเงียบๆ คุณชนิดาจะต้องดึงมือคุณเกล็นให้ไปนั่งยังที่นั่งแถวหน้าสุดอันทรงเกียรติ เมื่อคุณชนิดาขึ้นบรรยายบนเวที ถ้าคุณเกล็นอยู่ในที่แห่งนั้น จะต้องเอ่ยถึงความสำคัญ เเละยกย่องให้เกียรติคุณเกล็นใน ฐานะ Founder ของบริษัทเสมอ "ระยะทางพิสูจน์ม้า กาลเวลาพิสูจน์ใจคน" เพื่อนเเท้ย่อมเห็นได้ ในยามยาก มิตรภาพระหว่างคุณชนิดา และคุณเกล็นจึงเเน่นเเฟ้นเป็นที่สุด เมื่อปี 2005 ตอนกำลังฟอร์มทีม เอเจล คุณเกล็นจึงเชิญคุณชนิดาให้มาร่วมกันก่อตั้ง คุณชนิดาสนิทกับผม ผมก็เลยพิจารณา เอเจล เเละบินไปดูด้วยตาตัวเองเมื่อต้นปี 2005 อย่างที่เรียนให้ทราบเบื้องต้น ในที่สุดด้วยความไม่มั่นใจในบริษัทเปิดใหม่ ผมกับคุณชนิดาก็ตัดสินใจลุยงานในซินเนอจี้ จนกระทั่งปลายเมษานี้เองที่คุณชนิดาตัดสินใจลาออกจากบริษัทเดิม เเละร่วมงานกับเอเจล โดยคุณเกล็นพร้อมสนับสนุนคุณชนิดาอย่างเต็มที่
4. ประวัติศาสตร์ปรากฏชัด ทุก 10 ปีจะมี MLM ยักษ์ใหญ่เกิดขึ้น
ปี 1957 AMWAY ผลิตภัณฑ์ภายในบ้าน ปี 1967 MARY KAY ผลิตภัณฑ์ Cosmetic ปี 1977 HERBALIFE ผลิตภัณฑ์ด้านลดน้ำหนัก ปี 1987 NUSKIN ผลิตภัณฑ์ด้านสกินแคร์ ปี 1997 Morinda ผลิตภัณฑ์น้ำโนนิ ปี 2007 คุณคิดว่าใครจะเป็นยักษ์ใหญ่รายถัดไป ?
ลักษณะร่วมกันของบริษัทยักษ์ใหญ่ ที่ประสบความสำเร็จ จากการวิเคราะห์พบว่าบริษัทยักษ์ใหญ่ล้วนแล้วแต่มีคุณลักษณะร่วมกันดังต่อไปนี้
มีผลิตภัณฑ์ที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวชัดเจน ทำการบุกเบิกตลาดใหม่ ไม่ใช่สินค้าที่เป็นการลอกเลียนแบบ ผู้บริหารมีวิสัยทัศน์ และมีประสบการณ์ภาคสนามหลายปี สามารถบริหารได้อย่างเป็นอิสระ มีกลยุทธ์และแผนปฏิบัติการที่ชัดเจนว่าจะทำอะไรบ้าง มีการบุกเบิกตลาดอย่างไร ใช้เทคโนโลยี่ช่วยให้ผู้จำหน่ายทำงานง่าย ขึ้น เพิ่มความมั่นใจให้ผู้จำหน่ายโดยการสร้างสำนักงานใหญ่ของตนเอง สามารถดึงดูดคนเก่งระดับโลกเข้ามาร่วมงานได้ ทั้งผู้บริหาร นักวิทยาศาสตร์ และผู้จำหน่าย สามารถจัดงาน International Convention ขนาดใหญ่ที่มีผู้คนหลายพันคนทั่วโลกมาร่วมงาน จะยิ่งทำให้ผู้จำหน่ายทั่วโลก
เกิดความมั่นใจ จนทำให้ เกิดโมเมนตัม ได้อย่างรวดเร็ว เพื่อให้เห็นภาพชัดขึ้น ผมจะขออนุญาติยกตัวอย่างจริงที่เกิดขึ้นแล้ว ทั้งรูปแบบของบริษัทที่จะเติบโตขึ้น เเละจะถดถอยลง ทุกอย่างที่จะสำเร็จหรือล้มเหลว จะไม่เกิดขึ้น จาก ความบังเอิญ จะต้อง มีที่มา ทั้งสิ้น
Case study ที่ 1 : ตาฮิเตียนโนนิ บริษัท mlm ที่เจริญเติบโตเร็วที่สุดในโลก การที่เลือกตาฮิเตียนโนนิ เป็นตัวอย่าง เนื่องจากผมมีประสบการณ์ตรงหลายปีกับบริษัทนี้
มีผลิตภัณฑ์ที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวชัดเจน ทำการบุกเบิกตลาดใหม่ ไม่ใช่สินค้าที่เป็นการลอกเลียนแบบ TNI เป็นบริษัทแรกของโลกที่จำหน่ายผลิตภัณฑ์จากน้ำโนนิ จากนั้นก็มีการเลียนแบบมากมายเกิดขึ้น แต่ยิ่งเลียนแบบยิ่งส่งเสริมให้ TNI ขายดีมากขึ้นจนเป็นเจ้าโลกในที่สุด ผู้บริหารมีวิสัยทัศน์ และมีประสบการณ์ภาคสนามหลายปี สามารถบริหารได้อย่างเป็นอิสระ MR. Kelly Olsen อยู่ในอุตสาหกรรม MLM มากว่า 20 ปี เป็นผู้บริหารที่ได้รับการยอมรับในฝีมือมากที่สุด มีผลงานในบริษัทต่างๆมากมาย โดยเฉพาะตอนที่อยู่มาทอลทำให้บริษัทนั้นเติบโตที่สุดในประวัติศาสตร์ ด้วยเหตุที่ลองวิชามาหลายปี ทำให้สามารถตัดสิ่งที่ ไม่ดีออกไป เหลือเฉพาะสิ่งที่ดีเท่านั้น ถึงแม้ในไทยจะไม่เติบโตเท่าไร แต่ในทวีปอื่นๆ โตมาก ปีที่แล้ว TNI มียอดขายกว่า 700 ล้านเหรียญ มีกลยุทธ์และแผนปฏิบัติการที่ชัดเจน ว่าจะทำอะไรบ้าง มีการบุกเบิกตลาดอย่างไร ใช้เทคโนโลยีช่วยให้ผู้จำหน่ายทำงานง่ายขึ้น ขยายตลาดต่างประเทศให้ได้มากและเร็วที่สุด ซึ่งสามารถขยายตลาดกว่า 60 ประเทศได้ในระยะเวลาอันสั้นเพียง 7 ปี มีการเปิดตลาดด้วยสินค้าหลัก คือ น้ำโนนิเพียงตัวเดียว เพื่อให้คนโฟกัส จากนั้นค่อยเพิ่มสินค้าอื่น ๆ เข้าไป มีการสร้างโนนิคาเฟ่ เพื่อเพิ่มวิธีเข้าหาลูกค้าใหม่ ๆ และตอกย้ำแบรนด์ มีการร่วมมือกับ Hollywood สร้างภาพยนตร์ "The Legend of Johnny Lingo" ออกฉายทั่วโลก ในปีที่ 6 TNI สามารถสร้างสำนักงานใหญ่ของตนเองได้ สามารถดึงดูดคนเก่งระดับโลกเข้ามาร่วมงานได้ ทั้งผู้บริหาร นักวิทยาศาสตร์ และผู้จำหน่าย -Kerry Assay อดีตประธานเนเจอร์ซันไชน์ ในช่วงที่มีการเติบโตสูงสุด -Kelly Olsen อดีตรองประธานบริษัทมาทอล ในช่วงที่มีการเติบโตสูงสุด -Dr.Ralph Heineke นักวิทยาศาสตร์คนแรกๆ ของโลกที่วิจัยเรื่อง โนนิ -Dr.Neil Solomon จากมหาวิทยาลัยแพทย์ศาสตร์ John Hopkin -Dale Maloney ผู้จำหน่ายหมายเลข 1 จาก Nutrition for Life -Usa Johnson and husband ผู้จำหน่ายหมายเลข 1 จาก Prepaid legal สามารถจัดงาน International Convention ขนาดใหญ่ที่มีผู้คนหลายพันคนทั่วโลกมาร่วมงาน จะยิ่งทำให้ผู้จำหน่ายทั่วโลก เกิดความมั่นใจ จนทำให้เกิดโมเมนตัมได้อย่างรวดเร็ว -TNI ในปีที่ 5 สามารถจัดงานที่ยูท่าห์ มีคนร่วมงานกว่า 4000 คน Case study ที่ 2 : AGEL ทำใมเอเจลจึงประสบความสำเร็จ และเติบโตอย่างรวดเร็ว? 1. มีผลิตภัณฑ์ที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวชัดเจน ทำการบุกเบิกตลาดใหม่ ไม่ใช่สินค้าที่เป็นการลอกเลียนแบบ ครั้งแรกของโลก ที่มีอาหารเสริม ในรูป เจล พกพาง่าย อร่อย ผู้บริโภคใช้ได้รับผลลัพธ์ดีมาก ที่ผ่านอาหารเสริมจะอยู่ในรูป ของ เม็ด ผง น้ำ เท่านั้น หลายครั้งผู้บริโภคไม่สามารถกินได้ต่อเนื่อง เนื่องจากบางจังหวะไม่มีน้ำดื่ม ทำให้กินอาหารเสริม ในรูป เม็ด หรือผง ไม่ได้ บางครั้งต้องเดินทาง จะพกไปทั้งขวดก็ไม่สะดวก จะพกแบบน้ำไปด้วย บางที่ก็หกเลอะเทอะ ไปหมด อาหารเสริมที่ดี คืออาหารที่คนได้บริโภคอย่างต่อเนื่องด้วยความสะดวก ไม่ยุงยาก บางทีอาหารเสริมดีดีหลายตัวคนใช้ไม่ได้ ผล เพราะ ความยุ่งยากในการรับประทาน
2. ผู้บริหารมีวิสัยทัศน์ และมีประสบการณ์ภาคสนามหลายปี สามารถบริหารได้อย่างเป็นอิสระ คุณเกล็น เจนเซน สั่งสมประสบการณ์จากงานต่างๆเฉพาะด้าน MLM เกือบ 20 ปี นอกจากนี้การเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ ทำให้สามารถตัดสินใจได้อย่างรวดเร็ว
3. มีกลยุทธ์และแผนปฏิบัติการที่ชัดเจน ว่าจะทำอะไรบ้าง มีการบุกเบิกตลาดอย่างไร ใช้เทคโนโลยี่ช่วยให้ผู้จำหน่ายทำงานง่ายขึ้น -เเพคเกจจิ้งของเจลซูติคัล ดูดี ทันสมัย เเค่ถือไว้ในมือ ไม่ต้องพูดอะไร คนที่เห็นก็ถามแล้วว่าคืออะไร? การเปิดตลาดจึงง่ายมาก -มีการเปิดตัวสินค้าใหม่อย่างต่อเนื่อง เช่น ต.ค.นี้ จะเปิดตัวสินค้าใหม่ เกือบ 10 รายการ ซึ่ง mlm ต้องการความตื่นเต้นอยู่เสมอ -ขณะนี้เอเจลได้เปิดไปแล้ว ถึง 44 ประเทศในเวลาไม่ถึง 2 ปี (เอเจล เริ่ม ต.ค.05) โดย มีทั้งระบบขายผ่านสำนักงาน และ e-commerse -เอกสาร สื่อทุกอย่างทั้งสิ่งพิมพ์และวีดีทัศน์ ล้วน มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่ชัดเจน -ระบบการทำงาน ผ่าน website ของเอเจล เป็นหนึ่งในระบบ ที่ดีที่สุดในโลกเครือข่ายปัจจุบัน
4. เพิ่มความมั่นใจให้ผู้จำหน่ายโดยการสร้างสำนักงานใหญ่ของตนเอง -หลังจากดำเนินธุรกิจเพียง 3 เดือน เอเจลก็เริ่มมีกำไร เพียง 12 เดือน ก็ใช้คืนเงินต้นหมด ขณะนี้ เป็นเดือน ที่ 20 เอเจล เป็นบริษัท ที่ไม่มีหนี้สินเเล้ว -เดือนเเรกของการเปิดตัว(ต.ค.05) มียอดขายเกือบ 5 ล้านเหรียญ เเละผู้จำหน่าย ท่านหนึ่ง คือ Mr.Randy Schroeder มีรายได้กว่า 80,000 เหรียญ ซึ่งมากที่สุดในประวัติศาสตร์ของการเปิดตัวบริษัท MLM -ทุกเดือนที่ทำธุรกิจยอดขายจะเพิ่มขึ้น ยอดขายเดือน พ.ค.ที่ผ่านมา สูงกว่า เดือน เม.ย. ถึง 1 ล้านเหรียญ -ที่สำคัญอาคารสำนักงานใหญ่ ของ เอเจล จะสร้างเสร็จ ในปี 2008 ซึ่งเป็น เพียงปีที่ 3 ของการทำธุรกิจ!!!!
5. สามารถดึงดูดคนเก่งระดับโลกเข้ามาร่วมงานได้ ทั้งผู้บริหาร นักวิทยาศาสตร์ และผู้จำหน่าย -Mr.Glen Jensen อดีตผู้ก่อตั้ง synergy worldwide -Mr.Craig Bradley อดีตรองประธาน มาลาลูก้า เเละ ยูซานา -Mr.Darren Jensen อดีตผู้บริหาร แอมเวย์ เป็น ผู้เชี่ยวชาญเครื่องสำอาง อาทิสทรี -Dr.Ann De Vee Allen ผู้เชี่ยวชาญชั้นนำของโลก ด้าน L-arginine -Dr.Maxey Randall อดีตประธาน National Medical Association ของอเมริกา -Mr.Randy Schroeder ผู้นำจาก Rexall ซึ่งรับรายได้จากธุรกิจเครือข่ายไปเเล้วกว่า 24 ล้านเหรียญ -Mr.Randy Gage กูรูด้าน mlm ผู้แต่งหนังสือที่ขายดีที่ในโลก How to build multi-level money machine ขนาดผมนั่งที่ เอเจล เเค่ 3 วัน แต่เห็น Top Leader ระดับ บิ๊ก ของโลก จากหลายแห่ง เดินเข้าออก อย่างน้อย 4 ท่าน
6. สามารถจัดงาน International Convention ขนาดใหญ่ที่มีผู้คนหลายพันคนทั่วโลกมาร่วมงาน จะยิ่งทำให้ผู้จำหน่ายทั่วโลก เกิดความมั่นใจ จนทำให้ เกิดโมเมนตัม ได้อย่างรวดเร็ว -เอเจล เปิดตัว ต.ค.05, ต.ค.06 มีconventionครั้งแรก , ต.ค.07 นี้ จะเป็น international convention ครั้งที 2 เพียงครั้งที่ 2 แต่จะมี ผู้นำจากทั่วโลกมาร่วมงาน ถึง 4000 คน
Case study ที่ 3 : บริษัท ที่ไม่ค่อยเติบโต ไม่มีอนาคต จะมีลักษณะตรงข้าม ต่อไปนี้ 1. มีผลิตภัณฑ์ที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวชัดเจน ทำการบุกเบิกตลาดใหม่ ไม่ใช่สินค้าที่เป็นการลอกเลียนแบบ -หลายบริษัทจะ เป็น ได้เเค่ copy สินค้าของบริบัทที่ขายดี เช่น เห็น ตาฮิเตียน โนนิ ขายดี ก็ทำขายบ้าง เห็นน้ำมังคุด ของ Xango ขายดี ก็เลียนแบบขายบ้าง เห็นน้ำ Acai Berry ของโมนาวีขายดี ก็ เลียนแบบทำขายบ้าง อีกนัยหนึ่ง เขาเรียกว่า me too product คุณมี ฉันก็มีเหมือนกัน บริษัทพวกนี้จะพูดคล้ายๆกัน ถึงฉันจะเลียน แบบ เเต่ฉัน ก็ทำได้ดีกว่านะ ที่สำคัญถูกกว่าด้วย
2. ผู้บริหารมีวิสัยทัศน์ และมีประสบการณ์ภาคสนามหลายปี สามารถบริหารได้อย่างเป็นอิสระ -บริษัทที่ไม่ค่อยเติบโต ผู้บริหารมักเป็น มือใหม่ของวงการ mlm ไม่เคยมีประสบการณ์ ไม่เคยมีผลงานเเห่งความสำเร็จในอดีต บางครั้งมีความสามารถ ก็มักถูกควบคุมโดยบริษัทแม่ที่เน้นต้องการเเต่ผลกำไรสูงสุดเเต่เพียงอย่างเดียว
3. มีกลยุทธ์และแผนปฏิบัติการที่ชัดเจน ว่าจะทำอะไรบ้าง มีการบุกเบิกตลาดอย่างไร ใช้เทคโนโลยี่ช่วยให้ผู้จำหน่ายทำงานง่ายขึ้น -บริษัทที่ไม่ค่อยเติบโต ผู้บริหารมักประกาศ ว่าเราจะมียอดเท่านั้น เท่านี้ ภายในเวลานั้น เวลานี้ เเต่ไม่เคยเอ่ยถึงกลยุทธ์ หรือแผนปฏิบัติการว่าจะนำพาทุกคนไปสู่เป้าหมายได้อย่างไร?
4. เพิ่มความมั่นใจให้ผู้จำหน่ายโดยการสร้างสำนักงานใหญ่ของตนเอง -บริษัทที่ไม่ค่อยเติบโต มักพยายามเช่าพื้นที่สำนักงาน ให้อยู่ในอาคาร ขนาดใหญ่ที่ดูดี ตอนโปรโมท ก็จะถ่ายรูปทั้งตึกไป โชว์เพื่อให้คนเข้าใจผิดว่า บริษัทเป็นเจ้าของทั้งตึก เเต่จริงๆ แล้วเช่าอาศัยอยู่เพียงพื้นที่ไม่กี่เปอร์เซ็นต์ ผู้บริหารบริษัทเหล่านี้มักไม่เคย ตั้งเป้าหมายที่จะพัฒนาบริษัทอย่างเป็นขั้นตอน ได้เเต่หวังว่าผู้จำหน่ายเก่งๆ ของบริษัทจะทำให้เติบโตเอง
5. สามารถดึงดูดคนเก่งระดับโลกเข้ามาร่วมงานได้ ทั้งผู้บริหาร นักวิทยาศาสตร์ และผู้จำหน่าย -บริษัทที่ไม่มีอนาคต จะไม่สามารถดึงดูด ผู้นำ ระดับบิ๊กของโลกให้หันมาสนใจได้ ซ้ำร้ายด้วยความไม่เป็นงาน ผู้บริหารมัก เป็นคนทำให้ผู้นำเก่งๆ ที่ทรงความสามารถต้องจากบริษัทไปด้วย ความจริงก็คือ ผู้นำระดับสูง ไม่มีใครอยากเปลี่ยนงานหรอก ต้องเหลืออด หมดทางเยียวยาเเหละ ถึงจากไปด้วยความจำใจ
6. สามารถจัดงาน International Convention ขนาดใหญ่ที่มีผู้คนหลายพันคนทั่วโลกมาร่วมงาน จะยิ่งทำให้ผู้จำหน่ายทั่วโลก เกิดความมั่นใจ จนทำให้ เกิดโมเมนตัม ได้อย่างรวดเร็ว -บริษัทที่ไม่มีอนาคต จะไม่สามารถ จัดงาน international convention ที่มีขนาดใหญ่กว่า 4000 คนได้ แม้บางบริษัทจะเปิดมาแล้วหลายปีก็ตาม
ข้อเเนะนำสำหรับบริษัทที่ต้องการเติบโต 1. พูดเฉพาะสิ่งที่ทำได้ ทำให้ได้จริงๆตามสิ่งที่พูด ถ้าทำไม่ได้ต้องบอกความจริง เช่น ถ้าบอกว่าจ่ายคอมมิชชั่น 10%จากยอด CVในขาอ่อน ก็ทำให้ได้จริงๆ ผู้นำจะทำงานง่ายขึ้น 2.สินค้าหลักที่ขายต้องเป็นสินค้าที่มีเอกลักษณ์ของตนเอง, Unique, หาซื้อได้ที่เดียวในโลก ถ้าสินค้าหลักเป็นสินค้าที่ลอกเลียนแบบมา หรือ แม้แต่สินค้าใหม่ที่กำลังจะเปิดตัว ก็ยังลอกเลียนแบบมาจะเติบโตได้อย่างไร ผู้นำจะพูดถึงด้วยความภาคภูมิใจได้ อย่างไร? 3.เป็นสุภาพบุรุษ มีจริยธรรมในการดำเนินธุรกิจ ยุติการพูด"ความเท็จ" ผู้บริโภคข่าวสารยุคปัจจุบัน ล้วนแล้วแต่ชาญฉลาด ทุกคนทราบดีว่า ข้อมูลที่ไม่ปรากฏแหล่งที่มา ล้วนแต่เป็นความเท็จทั้งสิ้น 4.โฟกัสที่งานพื้นฐาน แข่งขันกันอย่างขาวสะอาด บริษัทดีอย่างไร? ผลิตภัณฑ์ยอดเยี่ยมตรงไหน? แผนรายได้เด่นยังไง? โอกาสของคุณในอนาคตอยู่ที่ไหน? 5.ในระยะยาวมีคู่แข่งที่เป็นมิตร งานส่วนงาน เพื่อนส่วนเพื่อน ย่อมทำให้ทุกฝ่ายมีความสุข เป็นกำลังใจสำหรับคนดีๆที่อยู่ท่ามกลางคนไม่ดี ลุกขึ้นมาต่อสู้เพื่อความถูกต้องสิครับ
ด้วยความจริงใจ นิติ สว่างทรัพย์
โอกาสทองที่ท่านไม่ควรพลาด สิ่งที่น่าเสียใจที่สุด ที่ทุกคนจะพูดเมื่อโอกาสทองผ่านไปก็คือ " ถ้าย้อนเวลากลับไปได้ ฉันจะ ................" ไม่ว่าจะมีคุณหรือไม่มีคุณ ธุรกิจ Agel จะเป็นพันล้านเหรียญ ดังนั้นอย่าปล่อยให้โอกาสทางธุรกิจ Agel ผ่านไป โดยที่คุณไม่ได้ทำอะไรกับมันเลย
http://www.agel-thai.com
|
|
|