ลัดเลาะเลียบขอบโขง
แม่น้ำโขงสายยิ่งใหญ่ ที่หล่อเลี้ยงคนหลายประเทศ หลายชีวิตมาช้านาน ในประเทศไทยจังหวัดเชียงรายก็เป็นอีกจังหวัดหนึ่งที่มีแม่น้ำโขงไหลผ่านทางเหนือ เริ่มต้นที่อำเภอเชียงแสน ผ่านเชียงของ แล้วไปสิ้นสุดที่แก่งผาไดอำเภอเวียงแก่น ก่อนสายน้ำจะไหลเข้าสู่ สปป.ลาว แล้วเริ่นต้นไหลเข้าประเทศไทยอีกครั้ง ที่อำเภอเชียงคาน จ.เลย
วันเวลาล่วงผ่าน หลายสิ่งหลายอย่างย่อมเปลี่ยนแปลงไปสู่ความเจริญ แต่อีกมิติหนึ่งเรายังคงได้พบเห็นวิถีชีวิตดั้งเดิมของคนริมโขง ที่ไม่ได้หมุนเปลี่ยนไปตามกาลเวลา ...เชียงของอำเภอเล็กๆของจังหวัดเชียงราย มีพื้นที่ด้านตะวันออกบางส่วนติดกับแม่น้ำโขง ฝั่งตรงข้ามคือ เมืองห้วยทราย แขวงบ่อแก้วสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว หลายปีก่อนผมเคยเดินทางมาที่นี่หลายครั้ง ได้พบได้เห็นบรรยากาศการค้าชายแดน พี่น้องจากฝั่งลาวข้ามมาจับจ่ายซื้อของ ขนสินค้าลงเรือกันอย่างคึกคัก มาวันนี้หลังจากสะพานมิตรภาพไทย-ลาว สร้างเสร็จและเปิดใช้อย่างเป็นทางการ บรรยากาศที่เต็มไปด้วยผู้คนและนักท่องเที่ยวของที่นี่ก็เริ่มจางหาย อำเภอเชียงของในวันนี้จึงเงียบเหงาลงไปอย่างเห็นได้ชัด อาจกลายเป็นเมืองเล็กๆทางผ่านของใครบางคนเท่านั้น
ทว่าอีกสิ่งหนึ่งที่ไม่เปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา คือการดำเนินชีวิตแบบช้าๆของชาวบ้านเลียบขอบแม่น้ำโขง ที่นี่เราได้เดินลัดเลาะไปตามถนนริมโขง ผ่านเพิงพักของชาวประมงพื้นบ้านที่ช่วยกันทำพอหลบแดดหลบฝน ยามบางคนว่างเว้นจากการลงเรือหาปลาก็จะมานั่งคุยกันเฮฮาตามประสาชาวบ้าน ในห้วงฤดูแล้งอาศัยช่วงน้ำโขงแห้งลดระดับจนเห็นเนินดิน ชาวบ้านแถวนี้ก็ใช้พื้นที่ทำการเกษตรเพาะปลูกผักพืชผัก เลี้ยงปลาในกระชัง เพาะถั่วงอก ปลูกพืชระยะสั้น สร้างรายได้กันคึกคัก
วินาทีแรกที่ผมมาถึงที่นี่ก็ได้ปักหมุดไว้ในใจแล้วว่าต้องมีอะไรบางอย่างมาช่วยสร้างแรงบันดาลใจ ในอำเภอเล็กๆที่แสนโรแมนติคแห่งนี้ ในขณะกำลังเพลินกับการถ่ายรูปแปลงกะหล่ำปลี ที่แม้จะมีไม่มากเท่าภูทับเบิก แต่ก็สร้างสีสันได้ไม่น้อย ห่างกันไม่มากนัก ผมได้พบชายวัยกลางคนกำลังปั่นจักรยานที่ประดิษฐ์เข้ากับเครื่องปั๊มน้ำเพื่อรดแปลงผักสวนครัวที่ปลูกไว้ตามแนวตลิ่งแม่น้ำโขง ในขณะที่ปั่นจักรยานแววตาของเขาก็มองไปที่ยังสปริงเกอร์ที่ติดไว้กลางแปลงผักประหนึ่งว่าเมื่อไหร่น้ำจะขึ้น สักครู่เขาก็หยุดปั่นเดินลงมายิ้มทักทาย พูดคุยเป็นภาษาเหนือ “มาแอ่วแล่ ตะคืนนอนไหน” (มาเที่ยวใช่ไหม เมื่อคืนนอนที่ไหน?) เราใช้ภาษาเดียวกันสื่อสารมองหน้าแล้วยิ้มพยักหน้าก็เข้าใจในความหมาย จากการพูดคุยกันก็รู้ว่าบ้านแกอาศัยอยู่แถวนี้ ปลูกผักสวนครัวบริเวณนี้มานาน ถึงบางช่วงก็เลี้ยงปลาในกระชังบ้าง สลับเปลี่ยนหมุนเวียนไปเรื่อยๆตามฤดูกาล แม้เราจะสนทนากันเป็นเวลาสั้นๆเพียงไม่กี่นาทีแต่รอยยิ้มและไมตรีก็ทำให้อยากกลับมาเยือนที่นี่อีกครั้ง
ตลอดเส้นทางที่เดินตามถนนเลียบชายฝั่งแม่น้ำโขงยังมีคงวิถีชีวิตพื้นบ้านที่งดงาม เมื่อผมเดินไปเรื่อยๆ เห็นสภาพบ้านเรือน ภาพความทรงจำเก่าๆเมื่อหลายปีก่อนที่เลือนหายเริ่มปรากฏขึ้นมาอย่างชัดเจน แม้จะกลับมาสู่ในโลกปัจจุบัน วันเวลาได้เปลี่ยนไปแต่ เชียงของปลายทางอำเภอเล็กๆแห่งนี้อาจเก๋ไก๋ไม่เหมือนใคร ยังมีอีกมากมายหลายแง่มุมที่ซ่อนเร้นอยู่รอนักเดินทางให้เข้ามาค้นหา