เรื่อง / ภาพ : สุภาพรรณ มะเทวิน
อากาศเชียงรายยามบ่ายแก่ๆ เวลานี้ช่างร้อนระอุ ชนิดที่ว่าเปิดพัดลมสองเครื่องจ่อเข้าหาตัวก็ไม่ได้ช่วยให้คลายร้อนได้ เมื่อบรรยากาศห้องนอนคล้ายตู้อบเช่นนี้ เราจึงอยากจะหาสถานที่สักแห่ง ให้เท้าได้สัมผัสกับสายน้ำเย็น เพื่อให้หัวใจและสมองได้ผ่อนคลาย
เรามุ่งหน้าขับรถฝ่าแสงแดดที่ร้อนอบอ้าว เพื่อจุดหมายในการเดินทางครั้งนี้คือ “น้ำตกโป่งพระบาท” น้ำตกที่อยู่ใกล้ตัวเมืองมากที่สุด เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติ ในการดูแลของอุทยานแห่งชาติลำน้ำกก(ฝั่งขวา)ในที่ ต.บ้านดู่ อ.เมือง จ.เชียงราย
เมื่อมาถึงจะเจอกับลานจอดรถพบว่ามีผู้คนมาเที่ยวกันมากกว่าที่คาดคิดไว้เราจอดรถก่อนจะเก็บสัมภาระ และหยิบกล้องขึ้นมาเพื่อเก็บภาพบรรยากาศ ที่นี่มีกฎกติกามารยาทในการท่องเที่ยวไม่มาก สิ่งสำคัญคือห้ามนำเครื่องดื่มผสมแอลกอฮอล์เข้ามาในเขตอุทยาน และช่วยกันดูแลรักษาธรรมชาติส่วนมากแล้วนักท่องเที่ยวที่นี่จะมาเที่ยวกันแบบครอบครัว พาเด็กมาเล่นน้ำ เพราะน้ำที่นี่ไม่ลึกมาก
ที่น้ำตกโป่งพระบาทนี้มีโขดหินขึ้นตามธรรมชาติเรียงสลับเล็กใหญ่กันไป เหมาะแก่การปีนป่ายอย่างยิ่ง ดังนั้นเป้าหมายต่อไปจึงเกิดขึ้น “เราจะไปจุดสูงสุดของน้ำตก” เส้นทางสู่จุดสูงสุดของน้ำตกโป่งพระบาทไม่ง่าย ต้องเดินลัดเลาะตามโขดหินขึ้นไป ระยะทางราว 900 เมตร ระหว่างทางนอกจากจะปีนโขดหินแล้ว ยังต้องลุยน้ำด้วย มันทำให้หัวใจเต้นแรง เลือดสูบฉีดได้ดีเลยทีเดียว
ยิ่งสูงขึ้น หนทางยิ่งลำบากขึ้นเรื่อยๆ และไม่รู้ว่าระยะทาง 900 เมตรนี้จะสิ้นสุดที่ใดขณะที่เราเกือบจะถอดใจด้วยความเหนื่อยและความยากของเส้นทางแล้ว ลุงคนหนึ่งกำลังเดินลงมาขณะที่เดินสวนทางกับเรา พูดว่า “ข้างบนสวยมาก สวยกว่าข้างล่างอีก” เรารีบถามกลับว่า “ไกลไหมคะลุง” ....“เลยหินใหญ่ก้อนนั่นไปอีกนิดเดียว” ลุงตอบ เรารวบรวมพละกำลังเดินไปต่อตามที่ลุงบอก และแล้วเราก็ได้พบ สิ่งที่เห็นมันสวยมาก ความยิ่งใหญ่ของมันไม่ใช่เพียงน้ำตก แต่เป็นโขดหิน พื้นที่เรายืนอยู่ตอนนี้ก็เป็นหินทั้งนั้น
แต่มันไม่สุดตรงนี้ตามที่ลุงบอก เราตัดสินใจเดินขึ้นไปต่อ หนทางเริ่มลำบากยากขึ้นกว่าเดิม ลุยน้ำ ปีนหิน จะธรรมดาไปเลย เมื่อเจอทางนี้ เราต้องเดินไต่ข้ามท่อนไม้ใหญ่ที่วางพาดระหว่างหินใหญ่สองก้อนเพื่อข้ามขึ้นไปตามทาง นาทีนั้นเราอยากจะเดินหันหลังกลับมันเสียเลย แต่ก็ยังถอดรองเท้าก้าวขาไต่ข้ามท่อนไม้นั่นมาจนได้ ท่ามกลางความหวาดเสียวนี้ สมาธิสำคัญที่สุด จากจุดนี้ไปหนทางยิ่งทุลักทุเลขึ้นไปอีก บุกป่าฝ่าดงกันจนเจอพี่กลุ่มหนึ่งกำลังเดินลงมาเขาบอกว่า “กลับเถอะ ไม่รู้จะไปสุดที่ตรงไหนยุงเยอะ เดี๋ยวจะมืด” อ้าว!!เราจึงตัดสินใจเชื่อตามคำพี่กลุ่มนั้นบอก เพราะไม่รู้ว่าหนทางนี้มันจะสิ้นสุดที่ใดและต้องใช้เวลานานเท่าไหร่
ขณะเดินกลับใจก็ยังนึกเสียดายและผิดหวังเล็กน้อย เราจึงแวะนั่งพักตรงที่ลุงคนก่อนหน้านี้บอกเราว่าสุดตรงนี้ เรานั่งดูน้ำที่ตกลงมากระจายเป็นวงกว้างๆ หูได้ยินแต่เสียงน้ำ เรานั่งซึมซับพลังจากธรรมชาติที่นี่ เหมือนเป็นการถอนทุนคืนจากการลงทุนปีนป่ายขึ้นมา ไม่รู้ว่าหนทางน้ำตกโป่งพระบาทนี้สิ้นสุดที่ใด และไม่รู้ว่าการมาเที่ยวที่นี่คลายร้อนได้ตามเป้าประสงค์ของเราหรือเปล่า แต่ตรงนี้มันทำให้เรารู้สึกสงบ และปลอดโปร่งที่สุด ท่ามกลางธรรมชาตินี้มันทำให้เรารู้สึกผ่อนคลายและหายเหนื่อย หากหนทางมันง่ายดาย เราคงไม่ได้รู้สึกเช่นนี้สินะ
สิ่งที่ต้องมีสำหรับผู้ที่อยากพิชิตจุดสูงสุดของน้ำตกโป่งพระบาท
- น้ำดื่มแก้กระหายระหว่างทาง
- พลังใจเตรียมไปเยอะๆ
- พลังกายต้องมีสุขภาพที่แข็งแรง ไม่เหมาะกับผู้ที่เหนื่อยง่าย
ข้อมูลการเดินทาง
จากตัวเมืองเชียงรายใช้เส้นทาง เชียงราย-แม่จัน ราวๆ 8 กม. จะเข้าสู่ตำบลบ้านดู่ สังเกตุตลาดสดบ้านดู่ เลยไปอีกนิด จะมีป้ายบอกทาง เป็นถนนทางแยกเลี้ยวซ้ายเข้าบ้านโป่งพระบาท ขับรถเข้าไปตามป้ายบอกทางจนสุดถนนชนบท ระยะหว่างทางจะผ่านบ่อน้ำพุร้อนโป่งพระบาท มีป้ายบอกทางเป็นระยะ