3. คุณจะเชี่ยวชาญในการแก้ไขปัญหา
ไม่ว่าจะเป็นการทำงาน การเรียน หรือการท่องเที่ยวในต่างแดน เพียงแค่คุณก้าวออกไปจากที่ที่คุณคุ้นเคย ไปสู่โลกที่ไม่คุ้นชิน มันก็จะทำให้คุณต้องตื่นตัวตลอดเวลา และพร้อมที่จะรับมือกับปัญหาที่จะเกิดขึ้นได้ในทุกรูปแบบ เพราะในต่างแดนจะไม่มีใครมาให้ความช่วยเหลือคุณเหมือนตอนอยู่บ้าน ทุกสิ่งทุกอย่างต้องพึ่งตัวเองเป็นหลัก เมื่อเกิดปัญหาในเบื้องต้นก็ต้องใช้สมองอันน้อยนิดนี่แหละช่วยคิดแก้ไขเสียก่อน ซึ่งมันเหมือนกับการบังคับคุณเสียด้วยว่าต้องแก้ปัญหาให้ได้ด้วยตัวเอง นี่แหละที่จะทำให้คุณเข้มแข็งและแข็งแกร่ง พร้อมเผชิญกับปัญหาในทุกรูปแบบจริงๆ
4. ทำให้คุณอ่อนน้อมถ่อมตน
การไปอยู่ต่างบ้านต่างเมือง ไม่มีใครที่สามารถพูดกับเราได้เข้าใจ หรือให้ความช่วยเหลือได้เท่ากับพ่อแม่ ญาติพี่น้อง เพื่อนสนิทมิตรสหาย มันจะทำให้เราเรียนรู้ที่จะเข้าสังคมใหม่ และการที่จะเข้าไปยังสังคมใหม่ได้นั้น เริ่มแรกคุณก็ต้องอ่อนน้อมถ่อมตน จะไปวางกล้ามหรือเบ่งว่าพ่อข้าใหญ่เหมือนตอนอยู่บ้านเกิดตัวเองก็คงจะไม่มีใครสนใจ เพราะไม่มีใครรู้จักฐานะทางสังคมของคุณเมื่ออยู่ในประเทศหรือในเมืองของคุณ โดยเฉพาะประเทศที่เจริญแล้ว ประชาชนทุกคนจะมีความเท่าเทียมกัน แต่เขาจะให้เกียรติซึ่งกันและกัน รักษามารยาททางสังคมต่อกันได้อย่างดีเยี่ยม เพราะฉะนั้นการออกไปเจอโลกใหม่ๆ คุณก็จะได้ความอ่อนน้อมถ่อมตนกลับมาด้วย
5. เปิดกว้าง...ได้รับและทำสิ่งใหม่ๆ
คงเป็นไปไม่ได้ที่จะได้เล่นสกีหรือสโนว์บอร์ดกับหิมะจริงๆ ในเมืองไทย เพราะฉะนั้นเมื่อคนที่มีโอกาสได้ไปเยือนประเทศที่มีหิมะในฤดูหนาว จึงไม่พลาดที่จะทำกิจกรรมเหล่านี้ เป็นการเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ และเปิดโอกาสให้กับตัวเองได้ลองทำในสิ่งที่ไม่เคยทำ เป็นประสบการณ์ที่ต้องจำไปตลอดชีวิต ในอีกมุมหนึ่งเมื่อฝรั่งมาเที่ยวบ้านเรา เขามีโอกาสได้สัมผัสกับช้าง ได้ขี่ช้าง ซึ่งมันไม่สามารถทำได้ในบ้านเมืองเขา มันก็เป็นประสบการณ์ที่แปลกใหม่กับชีวิตของเขาเช่นกัน เพราะฉะนั้นออกไปตามล่าหาสิ่งที่ไม่มีในบ้านตัวเอง ให้ได้ลองทำ ได้เรียนรู้ ก็จะทำให้ชีวิตมีสีสันไม่น้อยเลยทีเดียว |