การนอนเต็นท์นั้นสามารถช่วยให้เราสัมผัสได้กับความเป็น แคมปิ้ง อย่างได้อารมณ์มากกว่าการพักนอนแบบอื่น ดังนั้นจึงกล่าวได้ว่า เต็นท์นอน นั้นเป็นอุปกรณ์ที่สำคัญที่สุด สำหรับผู้หลงใหลการเดินป่าจะต้องมีติดตัวไว้อย่างขาดไม่ได้ ซึ่งเจ้าเต็นท์นอนเหล่านี้ก็มีหลากหลายชนิดแตกต่างกันไป จนบางครั้งผู้ใช้งานก็อาจเกิดความสับสนได้ว่า เต็นท์แบบใดหรือชนิดไหนเหมาะกับตนเองหรือกิจกรรมที่ต้องทำ วันนี้เราจึงมีวิธีการเลือกซื้อเต็นท์ที่ถูกวิธีมาฝากกันครับ
1. เลือกให้เหมาะสมกับกิจกรรมต่างๆ ที่ทำ ซึ่งแตกต่างกันออกไป เช่น กิจกรรมแคมปิ้ง เต็นท์ที่ควรเลือกซื้อ ควรเป็นเต็นท์แบบวัสดุดี แม้จะมีน้ำหนักมาก แต่สามารถบรรทุกไปในรถหรือพาหนะอื่นๆ ได้ ต่างกับกิจกรรมประเภทแบ็คแพ็ค หรือการเดินทางประเภทปั่นจักรยานทางไกล ที่มักจะต้องแบกเต็นท์นอนติดหลังไปด้วยตลอดเวลา ซึ่งเต็นท์ที่เลือกควรเป็นเต็นท์ที่มีน้ำหนักเบา
2. เลือกเต็นท์ให้เหมาะสมกับจำนวนคน เช่น หากนอนกัน 3 คน ก็ควรเลือกเต็นท์ที่มีพื้นที่ขนาด 4 คน ขึ้นไป ทั้งนี้เพื่อที่ว่า พื้นที่ว่างที่เกินมานั้น จะเผื่อไว้สำหรับการเก็บสัมภาระต่างๆ และจะได้ไม่ต้องนอนเบียดกันนั่นเอง
3. เลือกเต็นท์ที่เหมาะสมกับฤดู ซึ่งวัสดุที่เหมาะสมสำหรับพักแรมในฤดูต่างๆ ย่อมไม่เหมือนกัน ยกตัวอย่างเช่น ฤดูฝนให้เลือกเต็นท์ที่มีเนื้อผ้าเคลือบน้ำยากันน้ำได้ หรือมีผ้าฟลายชีทติดมาในชุด เพราะผ้าชนิดนี้จะสามารถกันน้ำฝนในยามที่คุณนอนหลับพักผ่อนได้ เต็นท์สำหรับฤดูร้อน ควรเป็นผ้าเนื้อบาง สามารถระบายลมได้ดี และเต็นท์สำหรับหน้าหนาว ควรเป็นเต็นท์ที่มีผ้าเนื้อหนากันลมหนาวที่โกรกยามกลางคืนได้ เป็นต้น
4. เลือกซื้อตามคุณภาพของวัสดุ ซึ่งก็มีหลากหลายแตกต่างกันออกไป แนะนำว่าการเลือกซื้อไม่ควรเลือกเพราะราคาที่ถูก ซึ่งมักจะได้วัสดุที่ไม่ดี ควรเลือกเต็นท์ที่ทำจากวัสดุคงทน หรือเต็นท์ที่มียี่ห้ออันเชื่อถือได้ ซึ่งราคาก็ย่อมแพงกว่าเป็นธรรมดา แต่ก็ถือว่าคุ้มค่ากับคุณภาพที่ได้รับ ส่วนข้อมูลของเต็นท์แต่ละชนิดนั้น ควรสอบถามกับพนักงานขายโดยตรงจะได้รายละเอียดที่ถูกต้องที่สุดครับ
5. ควรเลือกซื้อเต็นท์ที่มีอุปกรณ์ต่างๆ แถมมาให้ในชุดอย่างครบถ้วน เช่น สมอบก ฟลายชีท ฯลฯ ทั้งนี้เพราะบางยี่ห้อ(ที่ไม่ค่อยดีนัก) มักจะมีอุปกรณ์เหล่านี้มาให้ไม่ครบนั่นเอง ดังนั้นผู้ซื้อควรตรวจสอบดูให้แน่ชัดก่อนเลือกซื้อครับ
จะเห็นได้ว่าการเลือกซื้อเต็นท์นั้น ก็แตกต่างกันไปตามแต่กิจกรรม หรือสถานที่ที่ใช้งาน แต่ก็ต้องรู้จักใช้อย่างถูกวิธีกันด้วยนะครับ เพื่อเป็นการยืดอายุการใช้งานให้เต็นท์ของคุณนั่นเอง ขอให้เที่ยวกันอย่างมีความสุขนะครับ
ขอบคุณที่มา เกร็ดความรู้ดอทคอม |