1. จดจำสถานที่สำคัญ (Landmark) เอาไว้ให้ดี
ไม่ว่าจะเดินทางไปที่ไหน การจดจำแลนด์มาร์กถือเป็นสิ่งสำคัญ จะให้ดีควรถ่ายรูปเก็บไว้ด้วย ในรูปมันจะบอกสิ่งที่เป็นประโยชน์กับคุณ เพราะเมื่อคุณจำแลนด์มาร์กต่างๆ ได้ คุณจะสามารถคลำเส้นทางได้ไม่ยาก
2. ติดตามดูผู้คน
ถ้าคุณอยู่ในเมืองที่คุณไม่คุ้นเคยกับภาษาของพวกเขา ให้ลองติดตามผู้คนท้องถิ่นดู เวลาเดินทาง พวกเขาเลือกใช้การขนส่งสาธารณะแบบไหน เพื่อไปไหน ซึ่งตามสถานีมักจะมีข้อมูลที่เป็นภาษาสากลคอยให้บริการอยู่
3. สังเกตท้องถนน
สำรวจดูรอบๆ ว่า ถนนเส้นไหนคือถนนสัญจรสายใหญ่ ถนนที่มีการจราจรมาก นั่นหมายถึงถนนสายหลักนั่นเอง คุณจะพบป้ายบอกทางมากมาย น่าจะเป็นตัวช่วยสำหรับคุณได้มากทีเดียว
4. หัดใช้เข็มทิศ
คุณควรพกเข็มทิศเอาไว้ หรือถ้ามีสมาร์ทโฟน ก็ควรมีแอพพลิเคชั่นเข็มทิศ ตรวจสอบทิศทางที่คุณจะไป คุณจะพบว่าจานดาวเทียมตามบ้านจะหันหน้าไปทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ นั่นถือเป็นจุดสังเกตที่ยอดเยี่ยม
5. ใช้ธรรมชาติให้เกิดประโยชน์
หากตอนกลางคืนฟ้าเปิด แสงดาวเหนือ สามารถช่วยคุณได้เสมอ ถ้าเป็นตอนกลางวัน ลองปักกิ่งไม้ลงดิน มาร์กที่จุดสิ้นสุดของเงา รอสักครู่แล้วคุณจะเห็นเงาย้ายทิศทางจากตะวันออกไปตะวันตก
6. อ่านแผนที่ทางกายภาพให้เป็น
ปัจจุบันเราอาจคุ้นเคยกับ google maps แต่แผนที่ทางกายภาพ คือสิ่งจำเป็นที่ควรพกติดตัวไว้ ในยามที่ไม่มีสัญญาณอินเตอร์เน็ต มันช่วยเราได้ แต่ก่อนอื่นควรจะลองอ่าน ลองศึกษาสถานที่และเส้นทางในแผนที่เสียก่อน
7. จีพีเอส คือสิ่งจำเป็น
ถ้าคุณขับรถไปเที่ยว หรือทำการเช่ารถ สิ่งหนึ่งที่ควรต้องมีคือระบบนำทางอัจฉริยะ “GPS” มันจะช่วยบอกเส้นทาง พาไปคุณยังสถานที่ที่คุณไม่เคยไป เป็นเทคโนโลยีที่มีประโยชน์อย่างมาก
8. เรียนรู้ภาษาท้องถิ่นเบื้องต้น
หากคุณไปเยือนในประเทศที่ไม่ค่อยใช้ภาษาอังกฤษ คุณควรศึกษาคำศัพท์เบื้องต้น ก่อนออกเดินทาง ไม่ว่าจะเป็นหนังสือคู่มือ หรือแอพพลิเคชั่นต่างๆ มันจะช่วยให้การเดินทางของคุณไหลลื่นมากขึ้น
|