สืบเนื่องจากงานสืบสวนปราบปราบด่าน ตม.เชียงแสน ร่วมกับ สภ.เชียงแสน ตรวจค้นและได้จับกุมผู้ต้องหาจำนวน 2 คน คือ 1.นายบุญมา อายุ 55 ปี 2.นายสุพจน์ อายุ 51 ปี โดยกล่าวหาว่า “ร่วมกันปลอมและใช้เอกสารราชการปลอม และร่วมกันปลอมบัตร หรือใบรับหรือใบแทน (พ.ร.บ.บัตรประชาชน พ.ศ.2526)” จับกุมได้ในพื้นที่เทศบาลเวียงเชียงแสน หมู่ 2 ต.เวียง อ.เชียงแสน จ.เชียงราย และผู้ต้องหารายที่ 1 ได้นำตรวจค้นบ้านใน อ.แม่จัน จ.เชียงราย พบเอกสารประกอบการกระทำผิดจำนวนมาก จึงได้บันทึกตรวจยึดจับกุมตัวผู้ต้องหาทั้งสอง พร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน สภ.เชียงแสน ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
จากการสอบสวน พบว่า ผู้ต้องหาทั้งสองรายมีพฤติการณ์ต้มตุ๋นหลอกเหยื่อ คือ นางสุภาณี ซึ่งอ้างว่าสามารถช่วยเหลือทำบัตรประจำตัวประชาชนได้ และนัดเหยื่อมาหลอกทำบัตร ณ ที่ว่าการอำเภอเชียงแสน โดยแบ่งหน้าที่กันทำ โดยนายบุญมา มีพฤติการณ์ทำหน้าที่เป็นนายหน้าติดต่อตกลงรับเงินค่าดำเนินการรายละ 150,000 บาท โดยจะพาเหยื่อที่ตกลงกันไว้มาที่ว่าการอำเภอเชียงแสน เพื่อหลอกเหยื่อว่าสามารถพามาทำบัตรได้ ส่วนนายสุพจน์ มีพฤติการณ์ใช้ตำแหน่งหน้าที่สารวัตรกำนัน ต.บ้านแซว อ.เชียงแสน หลอกให้เหยื่อเชื่อใจ โดยจะทำหน้าที่นัดเหยื่อมาพิมพ์ลายนิ้วมือ แล้วนัดมารับบัตรที่ปลอมแปลงเสร็จแล้วในภายหลัง
จากการขยายผลตรวจค้นบ้านนายบุญมา พบสำเนาเอกสารแบบพิมพ์ลายนิ้วมือเพื่อยื่นขอทำบัตรประชาชน สำเนาเอกสารบุคคลไม่มีสถานะทางทะเบียน สำเนาทะเบียนบ้านของบุคคลอื่นจำนวนมาก
จากการสอบปากคำนายบุญมา ให้การว่า ได้มีการติดต่อสั่งปลอมแปลงทำบัตรประชาชนจากกลุ่มขบวนการซึ่งอยู่ในพื้นที่ จ.กาญจนบุรี โดยจะถ่ายภาพเหยื่อแล้วส่งภาพถ่ายไปยังบัญชีผู้ใช้ชื่อ Somchit Chanagm ทางแอปพลิเคชั่น แมสเซนเจอร์ (Messenger) และเมื่อได้บัตรแล้วจะโอนเงินเข้าบัญชีธนาคารไทยพาณิชย์ สาขากาญจนบุรี ระบุชื่อ นายสมจิตร์ เป็นเจ้าของบัญชี เป็นจำนวนเงิน 50,000 บาท
ในส่วนของผู้ต้องหาที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ จว.กาญจนบุรี งานสืบสวนฯ ด่าน ตม.เชียงแสน จะได้ร่วมกันประสานขอหมายค้นและร่วมกันติดตามจับกุมขยายผลต่อไป นอกจากนี้ทางอำเภอเชียงแสนได้ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาร้องทุกข์กล่าวโทษเจ้าของบัตร 2 ราย คือ น.ส.สุภาณี และ น.ส.คำ ด้วย |