สาธารณสุข เผยคนไทยเสียชีวิตจากโรคหัวใจและหลอดเลือด 1 คนทุกๆ 15 นาที สาเหตุเกิดจากความดันโลหิตสูง เบาหวาน น้ำหนักเกิน ระดับไขมันในเลือดสูง สูบบุหรี่ ขาดการออกกำลังกาย การป้องกันให้หลีกเลี่ยงอาหารหวาน มัน เค็ม เพิ่มผัก ผลไม้ที่หวานน้อย และธัญพืช ออกกำลังกายให้เพียงพอ ไม่เครียด ไม่สูบบุหรี่ ลดดื่มสุรา หากคนในครอบครัวมีอาการของหัวใจขาดเลือด หรือภาวะหลอดเลือดสมองตีบตัน ต้องส่งโรงพยาบาลทันที
นายแพทย์ชำนาญ หาญสุทธิเวชกุล นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเชียงราย เปิดเผยว่า ในปีนี้สมาพันธ์หัวใจโลก ได้กำหนดให้วันที่ 29 กันยายนเป็นวันหัวใจโลก ประเด็นการรณรงค์คือ “One World, One Home, One Heart” (หนึ่งเดียวคือหัวใจ หนึ่งต่อไปคือบ้านเรา รวมกันเข้าเป็นโลกหนึ่งใบใจเดียวกัน) เพื่อสร้างกระแสการตื่นตัวในการป้องกันโรคให้ประชาชนตระหนักถึงภัยอันตรายจากโรคหัวใจและหลอดเลือด และปรับพฤติกรรมสุขภาพได้อย่างถูกต้อง เหมาะสม ทันการณ์ เพื่อลดภาระโรค ภัยคุกคามและความรุนแรงของโรค พร้อมทั้งร่วมกันดูแลสุขภาพหัวใจของคนในครอบครัว และสามารถให้การช่วยเหลือได้ทันท่วงที เมื่อเกิดภาวะฉุกเฉินของโรคหัวใจและหลอดเลือด
นายแพทย์ชำนาญกล่าวว่า โรคหัวใจและหลอดเลือดเป็นกลุ่มโรคที่เป็นปัญหาสำคัญทางด้านสาธารณสุขของทั่วโลก เนื่องจากเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้คนทั่วโลกเสียชีวิตถึงปีละกว่า 17 ล้านคน และพบร้อยละ 80 เสียชีวิตก่อนวัยอันควร สำหรับประเทศไทยโรคในกลุ่มโรคหัวใจและหลอดเลือดที่เป็นปัญหาสำคัญทางสาธารณสุข ได้แก่ โรคความดันโลหิตสูง โรคหัวใจขาดเลือดและโรคหลอดเลือดสมองใหญ่(อัมพฤกษ์ อัมพาต) พบอัตราการเสียชีวิตจากโรคหัวใจและหลอดเลือดติดอันดับ 1 ใน 3 มาโดยตลอด ในปี 2552 มีผู้เสียชีวิต 35,050 รายหรือเสียชีวิต 1 คน ทุกๆ 15นาที มีผู้ป่วยต้องนอนรักษาตัวในโรงพยาบาล 628,871ราย เพิ่มขึ้น 3 เท่าตัวในรอบ 10 ปี แนวโน้มพบในคนอายุน้อยลง สาเหตุเกิดจากความไม่สมดุลระหว่างการกินกับการออกแรง โดยกินอาหารรสเค็ม หวานและมันสูง แต่กินผักผลไม้น้อย ใช้เครื่องอำนวยความสะดวกมากขึ้น เคลื่อนไหวร่างกายน้อยลง รวมทั้งดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ สูบบุหรี่
นายแพทย์ชำนาญกล่าวต่อไปว่า ปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด ได้แก่ ความดันโลหิตสูง เบาหวาน น้ำหนักเกิน ระดับไขมันในเลือดสูง สูบบุหรี่ ขาดการออกกำลังกาย ดังนั้นในการป้องกันโรคหัวใจและหลอดเลือด ต้องปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเพื่อลดความเสี่ยงจากโรคหัวใจและหลอดเลือดลง ซึ่งทำได้และง่ายกว่าที่จะรอให้ป่วย และไม่สิ้นเปลืองงบประมาณมากเท่ากับเมื่อป่วยแล้วต้องรักษายากมาก ไม่หายขาด ต้องเสียทั้งเงิน เวลา และสุดท้ายต้องเสียชีวิต
การรณรงค์ในปีนี้ One World คือโลกหนึ่งใบ ผู้นำระดับโลกได้จัดลำดับให้การป้องกันและควบคุมโรคหัวใจและหลอดเลือด รวมถึงมะเร็ง โรคทางเดินหายใจเรื้อรัง และเบาหวาน เข้าอยู่ในวาระการประชุมระดับสูงของสหประชาชาติ ซึ่งจะประชุมในเดือนกันยายนนี้ เนื่องจากโรคหัวใจและหลอดเลือดเป็นสาเหตุการเสียชีวิตถึงร้อยละ 29 จากการเสียชีวิตของประชากรทั่วโลก ทำให้โรคนี้ได้ชื่อว่าเป็นนักฆ่าอันดับหนึ่ง ส่วน One Home คือบ้านเรา จะเน้นคนในครอบครัว โดยมีข้อตกลงที่ทุกคนสามารถทำร่วมกันได้ ดังนี้ 1. ทำให้บ้านเป็นบ้านปลอดบุหรี่ หยุดการสูบบุหรี่เพื่อหัวใจแข็งแรง 2. เตรียมอาหารสุขภาพมีพร้อมไว้ในบ้านเสมอ เริ่มจากผลไม้สักชิ้น ทำอาหารกลางวันไปทานที่ทำงานหรือโรงเรียนเอง 3. มีกิจกรรมเคลื่อนไหวร่างกายสม่ำเสมอวันละ 30 นาที สัปดาห์ละ 5 วัน ดูโทรทัศน์ให้น้อยกว่าวันละ 2 ชั่วโมง เน้นการทำกิจกรรมนอกบ้าน เช่น ขี่จักรยาน เล่นในสวน ลดการใช้รถยนต์หันมาใช้รถจักรยานหรือเดินแทน และ4. ต้องตรวจสุขภาพเบื้องต้นอย่างน้อยปีละครั้ง
สำหรับ One Heart หนึ่งเดียวคือหัวใจ ซึ่งโรคหัวใจและหลอดเลือดสามารถป้องกันได้ โดยเลือกรับประทานอาหารที่ดีมีประโยชน์ต่อสุขภาพ หลีกเลี่ยงอาหารหวาน มัน เค็ม เพิ่มผัก ผลไม้ที่หวานน้อย และธัญพืช ออกกำลังกายให้เพียงพอวันละ 30 นาที สัปดาห์ละ 5 วัน ทำอารมณ์ให้ผ่อนคลายไม่เครียด ไม่สูบบุหรี่ ลดดื่มสุรา หากคนในครอบครัวมีอาการของหัวใจขาดเลือด หรือภาวะหลอดเลือดสมองตีบตัน ต้องส่งโรงพยาบาลทันที โดยพบมากกว่าร้อยละ 70 ของภาวะฉุกเฉินของหัวใจหรือทางเดินหัวใจล้มเหลว มักเกิดขึ้นที่บ้านในขณะที่มีสมาชิกในครอบครัวอยู่ด้วย นายแพทย์ชำนาญกล่าว
อาการเตือนของผู้ที่เป็นภาวะหัวใจขาดเลือด จะเจ็บแน่นหรือจุกหน้าอก หรือปวดบริเวณกลางหน้าอกระหว่างการหายใจ ปวดร้าวไปที่แขน หลัง คอ ขากรรไกร หรือที่กระเพาะอาหาร หายใจถี่สั้น แม้ไม่มีอาการเจ็บหน้าอกร่วมด้วย อาจมีอาการอื่นร่วมด้วย เช่น กล้ามเนื้ออ่อนแรง กระวนกระวาย แน่นท้อง เหงื่อออก ตัวเย็น คลื่นไส้ อาเจียน ปวดศีรษะเล็กน้อย
ส่วนอาการเตือนของภาวะหลอดเลือดสมองตีบตัน จะมีอาการดังนี้ กล้ามเนื้อที่หน้า แขน ขาอ่อนแรง ส่วนใหญ่จะเกิดกับส่วนใดส่วนหนึ่งของร่างกายอย่างเฉียบพลัน สับสน มีปัญหาเกี่ยวกับการพูดหรือความเข้าใจอย่างเฉียบพลัน มีปัญหาเกี่ยวกับการมองเห็นที่ตาข้างใดข้างหนึ่ง หรือทั้ง 2 ข้างอย่างเฉียบพลัน มีปัญหาเกี่ยวกับการเดิน เวียนศีรษะ สูญเสียการทรงตัวหรือไม่สมดุลอย่างเฉียบพลัน ปวดศีรษะรุนแรงโดยไม่ทราบสาเหตุ ถ้าพบอาการเตือนเหล่านี้ ให้โทร 1669 เรียกรถพยาบาลฉุกเฉินทันที หรือนำส่งโรงพยาบาลด่วนที่สุดภายใน 3 ชั่วโมง |