จับอดีต ขรก.ยกครัว เผยลูก-แฟนสาว ตระเวนลักทรัพย์ ส่งให้พ่อแม่ปล่อยของ |
|
ประกาศเมื่อ
03 ธันวาคม 2011 เวลา 15:12:16 เปิดอ่าน
1324 ครั้ง |
|
|
ตำรวจตามรวบอดีตข้าราชการยกครอบครัว หลังลูกชาย-แฟนสาว และลูกบุญธรรม เช่าเก๋งออกตระเวนลักทรัพย์ทั่วเมือง ก่อนนำทรัพย์สินที่ขโมยได้ส่งให้พ่อ-แม่ ขายหรือจำนำต่อ
พ.ต.อ.มงคล สัมภวะผล ผกก.สภ.เมืองเชียงราย ,พ.ต.ท.วรพงษ์ มัจพันธุ์ รอง ผกก.สส. ,ร.ต.อ.อนุพันธ์ กันถารัตน์ รอง สว.สส. ,ร.ต.อ.พิบูลย์ ธนิตกุล ร้อยเวรเจ้าของคดี ได้ร่วมกันแถลงข่าวคดีโจรกรรมทรัพย์สินจำนวนมาก โดยมีของกลางประกอบด้วยพระเครื่องรูปแบบต่างๆ จำนวนหลายร้อยองค์ คอมพิวเตอร์ จอแอลซีดี กระเป๋าเงิน กระเป๋าต่างๆ สร้อยคอ สร้อยข้อมือ สร้อยคอ แหวนทองคำ และโลหะมีค่าอื่นๆ นาฬิกา กล้องถ่ายรูป โทรศัพท์ ตั๋วรับจำนำ ตู้เซฟ อุปกรณ์งัดแงะ เช่น ฆ้อน ชะแลง ไขควง มีด คีมตัดเหล็กขนาดใหญ่ สว่านไฟฟ้า หมวกไหมพรม วิกผมปลอม ถุงมือ เป็นต้น ส่วนผู้ต้องหามี 1 คนคือนายภูชิชน์ เรือนคำ อายุ 19 ปี อยู่บ้านเลขที่ 41 ม.15 ต.บ้านดู่ อ.เมือง จ.เชียงราย
โดยการจับกุมมีขึ้นหลังจากก่อนหน้านี้ตำรวจ สภ.เมืองเชียงราย ได้รับแจ้งจากเจ้าทุกข์ว่า มีบ้านพักถูกงัดแงะด้วยวิธีการต่างๆ อยู่เป็นประจำ และมีทรัพย์สินหายจำนวนมาก ผู้เสียหายมีทั้งข้าราชการระดับสูง เช่น ผู้พิพากษา ฯลฯ รวมทั้งประชาชนทั่วไป โดยเฉพาะชาวบ้านที่อยู่ตามหมู่บ้านจัดสรรต่างๆ ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งออกสืบสวนหาข่าว
ต่อมาพบว่ามีผู้นำเอาทรัพย์สินต้องสงสัยไปจำนำหลายครั้ง และมีการขนบางส่วนไปยังบ้านเป้าหมาย จึงตามไปตรวจสอบ ปรากฏว่าพบของกลางจำนวนมาก และพบนายภูชิชน์ ซึ่งเป็นบุตรบุญธรรมของนายทรงภพ กสิวิวัฒน์ อายุ 55 ปี อดีตข้าราชการที่เข้าโครงการเกษียณอายุก่อนกำหนด ซึ่งมีภรรยาคือนางภิชชาภัค กสิวิวัฒน์ อายุ 55 ปี อาชีพรับราชการครู
จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า นายทรงภพ และนางภิชชาภัค ยังมีบุตรชายอีกคนคือนายกัณตภณ กสิวิวัฒน์ อายุ 27 ปี ลูกจ้างหน่วยงานองค์การปกครองท้องถิ่นแห่งหนึ่งใน จ.เชียงราย ซึ่งมี น.ส.อธิฐาน ดาวทอง อายุ 25 ปี อยู่บ้านเลขที่ 339 ม.4 ต.สันทราย อ.เมือง จ.เชียงราย เป็นแฟนสาว ทั้งหมดไม่อยู่บ้านช่วงที่เข้าจับกุมตัวนายภูชิชน์ และมีพฤติกรรมโจรกรรมทรัพย์สินด้วยโดยนายภูชิชน์ และนายกัณตภณ พร้อมแฟนสาว จะนำรถยนต์เก๋งที่เช่ามาตระเวนหาบ้านคนรวยหรือพอที่จะมีโอกาสเข้าโจรกรรม
เมื่อพบบ้านเป้าหมายที่จะก่อเหตุก็จะใช้อุปกรณ์ต่างๆ ลงมือโดยเลือกเวลาที่เจ้าของบ้านไม่อยู่ทั้งกลางวันและกลางคืน เมื่อได้ทรัพย์สินต่างๆ ก็จะนำไปให้กับพ่อและแม่ เพื่อใช้ความเป็นอดีตข้าราชการที่น่าเชื่อถือนำไปจำนำ หรือขาย กับสถานธนานุบาลหรือโรงรับจำนำ ส่วนทรัพย์สินบางส่วนนำไปเก็บไว้ที่บ้าน
เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงแจ้งให้ผู้ที่แจ้งทรัพย์สินหายไปติดต่อและยืนยันคดี ปรากฏว่ามีผู้ไปยืนยันจำนวน 6 ราย แต่ก็ยังมีการเปิดให้ไปชี้ตัวพร้อมดูทรัพย์สินหรือแจ้งยืนยันอยู่ เพราะเชื่อว่ายังเกี่ยวข้องกับทรัพย์สินที่หายไปอีกหลายราย ขณะที่ น.ส.อธิฐาน ได้ติดต่อเข้ามอบตัวกับตำรวจแล้ว |
|
|
|
|
|
|