เจ้าหน้าที่ตำรวจเคลื่อนศพ ตร.แม่ฟ้าหลวง ไปบำเพ็ญกุศล อ.แม่สาย |
|
ประกาศเมื่อ
24 มกราคม 2012 เวลา 14:13:45 เปิดอ่าน
1321 ครั้ง |
|
|
จากเหตุการณ์ชุดเจ้าหน้าที่ตำรวจปะทะกับกลุ่มไม่ทราบฝ่าย มีเจ้าหน้าที่ตำรวจเสียชีวิต 1 นาย ณ จุดตรวจดอยผาช้างมูบ อำเภอแม่ฟ้าหลวง จังหวัดเชียงราย เมื่อวันที่ 22 มกราคม 55
โดยเมื่อบ่ายวันที่ 23 ม.ค. 55 นายธานินทร์ สุภาแสน ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย พล.ต.ต.ชำนาญ รวดเร็ว ผช.ผบช.ภ.5 พ.ต.อ.สุรเชษฐ์ โทปุญญานนท์ รักษาการผู้บังคับการตำรวจภูธรเชียงราย นำกำลังตำรวจกองเกียรติยศ ทำการเคลื่อนย้ายศพ ร.ต.ต.ศิระวิทย์ พูลกำลัง รอง.สวป.สภ.แม่ฟ้าหลวง จากโรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ ไปยังวัดห้วยไคร้ใหม่ ต.ห้วยไคร้ อ.แม่สาย จ.เชียงราย โดยรถบรรทุกของจังหวัดทหารบกเชียงราย อย่างสมเกียรติ เพื่อนำศพไปบำเพ็ญกุศลตามพุทธศาสนา และรอการพระราชทานเพลิงศพ นอกจากนี้ พล.ต.ท.สุเทพ เดชรักษา ผบช.ภ.5 ได้เดินทางมาเยี่ยมให้กำลังใจ ด.ต.โยธิน แก้วคำอ้าย ที่บาดเจ็บรักษาตัวที่ ร.พ.เชียงราย ประชานุเคราะห์ ด้วย นอกจากนี้ยังพบว่า ใกล้ห้องเก็บศพ ได้มีนางสาวนุชรดี ติแส อายุ 34 ปี เลขที่ 418 ต.ท่าสุด อ.เมือง จ.เชียงราย พร้อมกับเพื่อนหญิงอีก 1 คน ที่อุ้มเด็กเล็กสะพายอกมาด้วย ได้อ้างตัวเป็นญาติห่างๆ ของนายยาโจ่ ไม่มีนามสกุล ชาวลาหู่ อายุ 30 ปี ที่เสียชีวิตจากเหตุการณ์ปะกับเจ้าหน้าที่ ตำรวจ สภ.แม่ฟ้าหลวง จนเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ โดยพ.ต.อ.สุรเชษฐ์ โทปุญญานนท์ ได้สอบถามรายละเอียด ทราบว่าเป็นชาวพม่า อาศัยอยู่บ้านผาขาว ตรงข้ามบ้านจะลอ ส่วนรายละเอียกอื่นๆ ยังไม่ทราบ โดยให้นางสาว นุชรดี ไปให้การที่ สภ.แม่ฟ้าหลวง ก่อน ในวันพรุ่งนี้ เพื่อขอทราบลายละเอียดที่แน่ชัดของกลุ่มกองกำลัง ที่เข้ามาก่อเหตุ ดังกล่าว
สำหรับ ร.ต.ต.ศิรวิทย์ พูลกำลัง เสียชีวิตเนื่องจากวันที่ 22 ม.ค. เวลา 16.20 น.ร.ต.ต.ศิระวิทย์ พูลกำลัง นำกำลังเจ้าหน้าที่ ตร. ตั้งด่านตรวจสกัด ถนนเลียบชายแดนไทย-พม่า ที่บริเวณทางเข้าหมู่บ้านจะลอ หมู่ที่ 10 ต.แม่ฟ้าหลวง อ.แม่ฟ้าหลวง เชียงราย พบชายวัยรุ่นลักษณะเป็นชาวเขา อายุประมาณ 20 ปี 2 คน ได้ขับขี่รถ จยย.ฮอนด้าเวฟ สีดำ หมายเลขทะเบียน คธน 86 ขับมาจากบริเวณหมู่บ้าน จะไปทาง อ.แม่ฟ้าหลวง มาถึงบริเวณด่านตรวจ มีลักษณะอาการสลึมสลือ คล้ายคนเสพยาเสพติด เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเรียกตรวจ หลังพบอาการพิรุธ จึงขอนำตัวไปตรวจปัสสาวะ แต่ชายหนึ่งใน 2 คนดังกล่าวไม่ยอม จึงเกิดโต้เถียงกันขึ้น ในระหว่างนั้นชายอีกคนหนึ่ง ได้ยกโทรศัพท์ขึ้นมาพูด หลังจากนั้นได้ยื่นโทรศัพท์ให้ ด.ต.โยธิน แก้วคำอ้าย โดยได้บอกว่าพ่อจะคุยด้วย ซึ่งมีเสียงผู้ชายพูดมาตามสายกับ ดต.โยธิน ว่า‘ให้ปล่อยลูกชายตนไป ถ้าไม่อยากเกิดเรื่อง’จึงไม่ยอมตามคำขู่ และไม่ได้สนใจอะไร สักครู่ได้มีรถยนต์กระบะไมตี้เอ็กซ์ สีบรอนซ์เงิน ไม่ทราบหมายเลขทะเบียน ขับผ่านไป ในเวลาไล่เลี่ยกันได้มีรถยนต์กระบะโตโยต้า วีโก้ สีบรอนซ์ทอง ติดแผ่นป้ายทะเบียนเป็นภาษาพม่า ข้างท้ายรถบรรทุกชายฉกรรจ์ มาเต็มกระบะท้าย ประมาณ 10 คน ทั้งหมดใช้ผ้าคลุมปกปิดใบหน้า พร้อมอาวุธปืนอาก้า ครบมือ ตรงมาที่บริเวณด่านตรวจ จากนั้นได้ใช้อาวุธปืนอาก้า ยิงถล่มใส่เจ้าหน้าที่ประจำด่านตรวจ จึงเกิดปะกันขึ้น หลังจากได้ยิงต่อสู้กันประมาณ 15 นาที กองกำลังดังกล่าวได้ล่าถอยข้ามพรมแดนไปยังฝั่งพม่า พร้อมกับชายวัยรุ่น 2 คนต้นเหตุ ภายหลังเหตุการณ์สงบ ได้เข้าเคลียร์พื้นที่ พบ ร.ต.ต.ศิระวิทย์ พูลกำลัง ถูกยิงด้วยอาวุธปืนอาก้า เข้าที่บริเวณลำคอด้านซ้าย 1 นัด เสียชีวิตหน้ารถยนต์ตราโล่ ในที่เกิดเหตุ สภาพมือกำปืนเอ็ม 16 อยู่แนบอก และ ด.ต.โยธิน แก้วคำอ้าย ถูกยิงด้วยอาวุธปืนอาก้าจำนวน 3 นัดเข้าที่บริเวณต้นขา 1 นัด โคนขา 1 นัด ทางด้านขวา และที่บริเวณสะโพกขวา อีก 1 นัด อาการสาหัส จึงรีบนำตัวส่ง รพ.เชียงรายประชานุเคราะห์ ล่าสุดอาการปลอดภัยแล้ว และห่างออกไปประมาณ 20 เมตร พบศพชายชาวเขา สวมเสื้อลายสีน้ำตาล กางเกงยีนสีดำ อายุประมาณ 30 ปี มีรอยกระสุนปืนเข้าที่คอหอย 1 นัด ที่บริเวณประตูรถยนต์กระบะวีโก้ ที่คนร้ายจอดทิ้งไว้
จากเหตุการณ์ปะทะกับกลุ่มคนร้ายว่าในเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ทำการสืบสวน ทราบว่ากลุ่มคนร้ายเป็นชาวเขาเผ่าลาหู่ ที่ข้ามมาจากหมู่บ้านผาขาว ในเขตประเทศพม่า ซึ่งอยู่ชายแดนฝั่งตรงกันข้ามบ้านจะลอ พล.ต.ท.สุเทพ เดชรักษา ผบช.ภ.5 กล่าวว่า ตร.ที่เสียชีวิต จะได้รับการปูนบำเหน็จ 7 ชั้นยศ ตามระเบียบ และมีเงินช่วยเหลือให้กับครอบครัวอีกจำนวนหนึ่ง พร้อมอธิบายถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อว่าเป็นการต่อสู้อย่างกล้าหาญ โดยผู้เสียชีวิต และผู้บาดเจ็บ ไม่คิดหนีเอาชีวิตรอด จนกระทั่งเสียชีวิตและบาดเจ็บ ในที่เกิดเหตุมีด่านทหารตั้งอยู่ห่างเพียง 400 เมตรก็จริง แต่เวลาเกิดเหตุมาช่วยไม่ทัน เนื่องจากการปะทะเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว ไม่กี่นาที ยืนยันว่าไม่ใช่เป็นการประมาท ส่วนจะมีการปิดเส้นทางดังกล่าวหรือไม่ ต้องปรึกษากับสภาความมั่นคงอีกครั้งหนึ่ง นอกจากนี้จากการที่ พล.ต.ต.ชำนาญ รวดเร็ว เข้าเคลียร์พื้นที่ในที่เกิดเหตุ พบปลอกกระสุนปืนอาก้า ในที่เกิดเหตุ และมีรอยเลือดเป็นทางยาวเข้าไปในฝั่งพม่า ส่วนรถยนต์ของกลางกำลังตรวจสอบว่าได้มาจากการลักขโมยข้ามไปจากฝั่งไทยหรือไม่ และยังทราบเพิ่มเติมอีกว่ามีผู้เสียชีวิตที่เกิดจากการปะทะเมื่อวานนี้ เป็นชาวพม่า เข้ารักษาตัวที่ รพ.ท่าขี้เหล็ก ประเทศพม่า มีรอยถูกระสุนปืนไม่ทราบขนาดเข้าที่บริเวณหน้าอก คาดว่าถูกกระสุนจากเจ้าหน้าที่ ตร.ไทย สรุปมีผู้เสียชีวิต จากการปะทะเมื่อวานนี้ 3 คน เป็น ตร.ไทย 1 คนและชาวพม่าอีก 2 คน ผู้บาดเจ็บจากเรา 1 คน ส่วนคนร้ายที่ยังหลบหนียังไม่ทราบ วันนี้มีกองกำลัง จาก ตำรวจ ภาค 5 และ นปพ.เชียงราย ขึ้นไปประจำการเพิ่มในจุดเสี่ยงอีก 6 ชุด |
|
|
|
|