พื้นที่เชียงราย-เชียงใหม่พายุฝนเทกระหน่ำหลายอำเภอ พร้อมลูกเห็บขนาดหัวนิ้วโป้งตกใส่บ้านเรือนประชาชน โดยเฉพาะเชียงรายหลังคาบ้านเรือนปลิวว่อนไฟดับ เสาไฟฟ้าโค่นขวางถนนทางหลวงสายแม่สาย – เชียงแสน รถไม่สามารถสัญจรไปมาได้ ฝ่ายปกครองเร่งสำรวจความเสียหายช่วยผู้ประสบภัย...
เมื่อช่วงเย็นวันที่ 14 มี.ค. 55 ได้เกิดพายุฝนตกหนักรุนแรง ที่อ.แม่สาย อ.เชียงแสน และ อ.เมือง จ.เชียงราย นอกจากนี้ยังมีลูกเห็บขนาดเท่ากับหัวนิ้วโป้งและนิ้วก้อย ตกใส่บ้านเรือนประชาชนเป็นบริเวณกว้าง และหลังคาบ้านปลิวว่อน ต้นไม้หักโค่นทับบ้านเรือนจำนวนมาก ขณะเดียวกันหม้อแปลงไฟฟ้าแรงสูง บ.สันทราย หมู่ 9 เกิดระเบิด ลูกถ้วยไฟแตกกระจัดกระจายแหลกละเอียด เสาไฟฟ้าแรงสูงขนาด 12 เมตรข้างถนนชนบทที่ 1041 เส้นทางระหว่าง บ.เหมืองแดง – เกาะช้าง อ.แม่สาย หลัก กม.ที่ 9 ได้หักล้มขวางถนน 1 ต้น รวมถึงหลักกม.ที่ 10 พื้นที่ บ.ป่าแดง ต.เกาะช้าง มีเสาไฟฟ้าหักล้มขวางถนน 9 ต้น และหน้าอบต.ศรีเมืองชุม ต.ศรีเมืองชุม ได้มีเสาไฟฟ้าแรงสูงจำนวน 10 ต้นล้มหักโค่นขวางถนนทางหลวงสายแม่สาย – เชียงแสน ซึ่งกำลังขยายเป็น 4 เลน ทำให้การการจราจรถูกปิดตาย การสัญจรไปมาไม่ได้
นอกจากนี้ในพื้นที่ต.โป่งผา ต.โป่งงาม ต.เกาะช้าง อ.แม่สาย มีบ้านเรือนชาวบ้านหลังคาปลิวพังเสียหายกว่า 100 หลังคาเรือน และไม่มีไฟฟ้าใช้ตลอดคืนเนื่องจากเสาไฟฟ้าหักโค่นเป็นจำนวนมาก โดยสำนักงานไฟฟ้าส่วนภูมิภาคแม่สาย อยู่ระหว่างการออกสำรวจซ่อมแซม ส่วนที่ อ.เชียงแสน นายชำนาญ สรรพกิจ ปลัดอำเภอเชียงแสน ได้ออกสำรวจความเสียหายที่ ต.ป่าสัก ต.ศรีเมืองชุม ต.เวียง หมู่ 2 และหมู่ 3 บ.สบรวก พบว่า หลังคาบ้านเรือนของชาวบ้านถูกลมพัดพาหลังคาปลิวหายไปหลายหลังเช่นกัน ในขณะนี้ได้มีการสั่งการให้ อบต.เทศบาล ในพื้นที่ประสบพายุฝนอย่างรุนแรงออกสำรวจความเสียหาย
ส่วนที่ อ.เมือง เสาไฟฟ้าแรงสูงริมถนนพหลโยธิน ได้หักโค่นล้มลงหลายต้น ทำให้ไฟฟ้าดับตั้งแต่สะพานแม่น้ำกก ไปหน้ามหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง ต.นางแล เป็นระยะทางกว่า 10 กม. นอกจากนั้นพายุลูกเห็บได้สร้างความเสียหายแก่บ้านเรือนของราษฎร์ ต.บ้านดู่ ต.แม่ข้าวต้ม ต.นางแล โดยนายสุรินทร์ เขื่อนเพชร นายกเทศบาลตำบลนางแล กล่าวว่า ภายหลังพายุลูกเห็บตกในพื้นที่ ได้นำเจ้าหน้าที่ออกสำรวจความเสียหายเพื่อช่วยเหลือต่อไป
เช่นเดียวกับจ.เชียงใหม่ ในเวลาใกล้เคียงเคียงกันพบว่า ในพื้นที่อ.ฝางในต.เวียงและต.แม่งอน ( ดอยอ่างขาง ) ได้เกิดพายุลูกเห็บ และฝนฟ้าคะนองเป็นเวลาประมาณ 40 นาที โดยในพื้นที่ต.เวียง ได้มีต้นไม้และเสาไฟฟ้าล้มหลายจุด ทำให้เกิดไฟฟ้าดับเป็นเวลา 3 - 4 ชั่วโมง ส่วนความเสียหายเบื้องต้นยังไม่สามารถตรวจสอบได้ |