สรรพสามิตเปิดจุดตรวจป้องกันน้ำมันทะลักผ่านชายแดนแม่สาย เข้าพม่า สกัดแก๊งค้าน้ำมันเถื่อน เล่นเล่ห์ยื่นขอคืนภาษี ก่อนขนน้ำมันขายในตลาดกินกำไรอีกทอด
รายงานข่าวจากจังหวัดเชียงรายแจ้งว่า นางเบญจา หลุยเจริญ อธิบดีกรมสรรพสามิต ได้เดินทางไปเปิดศูนย์ตรวจสอบสินค้าของกรมสรรพสามิต ภายในด่านพรมแดนไทย-พม่า ติดสะพานข้ามลำน้ำสายแห่งที่ 2 ต.แม่สาย อ.แม่สาย จ.เชียงราย โดยมีนายสุรชัย ลิ้นทอง รองผู้ว่าราชการ จ.เชียงราย ,นายจีระเศรษฐ ปราบณศักดิ์ สรรพสามิตพื้นที่เชียงราย นำคณะเจ้าหน้าที่ให้การต้อนรับ
ซึ่งศูนย์ดังกล่าวมีระบบช่างน้ำหนัก กล้องวงจรปิด ฯลฯ เพื่อใช้สำหรับตรวจสอบสินค้าที่เข้าออกชายแดนไทย-พม่า โดยเฉพาะน้ำมันเชื้อเพลิง
นายจีระเศรษฐ์ กล่าวรายงานว่า ศูนย์ดังกล่าวเป็นแห่งที่ 6 ที่มีการจัดตั้งถัดจากจุดชายแดนไทย-สปป.ลาว ที่ จ.หนองคาย 1 จุด ช่องเม็ก 1 จุด จ.อุบลราชธานี 2 จุด ช่องจอม จ.สุรินทร์1 จุด และท่าเทียบเรือแสงทอง จ.ระนอง ชายแดนทางทะเลอีก 1 จุด โดยจะเชื่อมโยงข้อมูลกันทั้งหมดและเชื่อมไปยังกรมสรรพสามิตด้วย ซึ่งเชื่อว่าจะทำให้การตรวจสอบสินค้าที่เกี่ยวข้องกับสรรพสามิตมีประสิทธิภาพมากขึ้น
ด้านนางเบญจา กล่าวว่า ที่ผ่านมายังคงมีความพยายามในการลักลอบกระทำผิดและหลีกเลี่ยงการชำระภาษีที่เกี่ยวข้องกับสรรพสามิตตามแนวชายแดน หรือบางครั้งมีการลักลอบค้าน้ำมันเถื่อน ซึ่งสิ่งเหล่านี้ล้วนส่งผลกระทบต่อประโยชน์ของประเทศและการทำงานของเจ้าหน้าที่ทั้งสิ้น
ดังนั้น กรมสรรพสามิตจึงได้จัดทำโครงการเพิ่มประสิทธิภาพระบบควบคุมและติดตามการขนส่งน้ำมันทางบกขึ้น เพื่อช่วยประสิทธิภาพในการบริหารงานด้านการป้องกันและปราบปรามการกระทำผิด โดยได้จัดตั้งศูนย์ดังกล่าวขึ้นเพื่อให้มีการติดตั้งกล้องวงจรปิด การชั่งน้ำหนักรถบรรทุกน้ำมันเชื้อเพลิงเข้าออกชายแดน เพื่อตรวจสอบว่ามีการลักลอบนำน้ำมันเชื้อเพลิงกลับเข้ามายังประเทศอีกหรือไม่ ก่อนจะมีการอนุมัติคืนภาษีเนื่องจากสินค้าประเภทนี้สามารถได้รับการยกเว้นภาษีกรณีส่งออกได้
ส่วนในอนาคตจะมีการขยายศูนย์ปฏิบัติการให้ครอบคลุมตามช่องทางที่เหลือ เช่น อ.เชียงของ จ.เชียงราย เชื่อมถนนอาร์สามเอไทย-สปป.ลาว-จีนตอนใต้ ด่านแม่สอด จ.ตาก ดานสะเดา จ.สงขลา ด่านนครพนม ด่านท่าลี่ ด่านทุ่งช้าง จ.น่าน ฯลฯ
สำหรับด่านพรมแดน อ.แม่สาย พบมีปริมาณการส่งออกน้ำมันเชื้อเพลิงเป็นปริมาณมากโดยในปี 2554 มีการส่งออกเป็นมูลค่ารวมกันทั้งหมดกว่า 47,934,000 ลิตร แยกเป็นน้ำมันเบนซิน 91 จำนวน 21,291,000 ลิอตร น้ำมันเบนซิน 95 จำนวน 759,000 ลิตร น้ำมันดีเซลจำนวน 7,058,000 ลิตร ดีเซล Free Zone จำนวน 18,826,000 ลิตร
ขณะที่การขอคืนและยกเว้นภาษีส่งออกน้ำมันเชื้อเพลิงในภาพรวมทั้งประเทศ พบว่า มีปริมาณเพิ่มมากขึ้น โดยในปี 2553 มีปริมาณ 15,766,945,110 ลิตร และในปีงบประมาณ 2554 ที่ผ่านมาพบมีปริมาณ 14,457,344,702 ลิตร ซึ่งผู้ประกอบการสามารถขอคืนภาษีได้ลิตรละ 1 บาท และที่ผ่านมาจำนวนมากขอคืนและยกเว้นภาษีอยู่ที่ปีละประมาณ 15,000 ล้านบาท ดังนั้นการติดตั้งระบบตรวจสอบที่มีประสิทธิภาพจึงมีความจำเป็นเพื่อให้เกิดความถูกต้องและโปร่งใสรวมทั้งเป็นธรรมกับผู้ประกอบการที่เสียภาษีโดยสุจริตด้วย
สำหรับผลการจัดเก็บรายได้ภาษีสรรสามิตทั้งน้ำมันเชื้อเพลิงและผลิตภัณฑ์ในรอบ 5 เดือนของปีงบประมาณ 2555 หรือตั้งแต่เดือน ต.ค.2554-ก.พ.2555 พบว่า กรมสรรสามิตจัดเก็บภาษีได้จำนวน 25,187.10 ล้านบาท และผลการปราบปรามผู้กระทำผิดกฎหมายสรรสามิตตั้งแต่เดือน ต.ค.2554-ม.ค.2555 ได้จำนวนทั้งหมด 1,015 ราย คิดเป็นค่าปรับรวมจำนวน 53.88 ล้านบาท โดยเป็นของกลางแบ่งเป็นโซลเว้นท์จำนวน 75,000 ลิตร น้ำมันดีเซล 148,590 ลิตร น้ำมันเบนซิน 1,038,549 ลิตร และน้ำมันเตา 887,300 ลิตร |