ป่าไม้ชี้เป้าไฟป่าลาม-หมอกฝุ่นวิกฤต เหตุอำนาจเปลี่ยนโอนงานคุมไฟป่าให้ ท้องถิ่น |
|
ประกาศเมื่อ
24 มีนาคม 2012 เวลา 10:14:27 เปิดอ่าน
1322 ครั้ง |
|
|
ฝุ่นละอองในอากาศเขตเมืองพ่อขุนฯ ลดลงชั่วขณะ แต่ “แม่สาย”ยังเกณฑ์มาตรฐาน ชี้วิกฤตหมอกฝุ่นรอบสองเกิดจากฝั่งพม่า ยันป่าเชียงราย 4 ล้านไร่แทบไร้ไฟป่า ด้านอธิบดีป่าไม้ฯ ชี้โครงสร้างอำนาจจัดการไฟป่าเปลี่ยนจากมือป่าไม้ ไปอยู่กับท้องถิ่น แนะยกเป็นวาระแห่งชาติ
ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดเชียงราย ว่า วันนี้(23 มี.ค.55)สภาพอากาศโดยทั่วไปของ จ.เชียงราย ถือว่าปลอดโปร่งขึ้นเล็กน้อย เนื่องจากความหนาแน่นของฝุ่นละอองในอากาศลดลง แต่ยังคงมีความขมุกขมัวให้เห็นอยู่ ซึ่งกรมควบคุมมลพิษรายงานว่า จากการตรวจสอบพบปริมาณฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 10 ไมครอน เฉลี่ย 24 ชั่วโมง ในภาคเหนือ มีค่าระหว่าง 97.4 -234.8 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมต(ลบ.ม.) คุณภาพอากาศโดยรวม อยู่ในระดับปานกลางถึงมีผลกระทบต่อสุขภาพ โดยปริมาณฝุ่นละอองในหลายสถานีแม้ว่าจะมีแนวโน้มลดลงแต่ยังคงสูงเกินเกณฑ์มาตรฐาน ทั้งใน จ.เชียงราย ลำพูน ลำปาง แม่ฮ่องสอน น่าน พะเยา
แต่จุดที่พบปริมาณฝุ่นละอองในระดับที่มีผลกระทบต่อสุขภาพ และมีปริมาณฝุ่นสูงสุด ยังคงเป็นสำนักงานสาธารณสุขแม่สาย อ.แม่สาย จ.เชียงราย ที่วัดได้ 234.8 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ส่วนที่หน้าสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จ.เชียงราย ลดลงเหลือเพียง 114 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ต่ำกว่าเกณฑ์มาตรฐานความปลอดภัย 120 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร
ด้านนายสุวิทย์ รัตนมณี อธิบดีกรมป่าไม้ กล่าวขณะเดินทางไปปฏิบัติราชการที่ จ.เชียงราย ว่า สาเหตุที่ในปีนี้มีปัญหาหมอกควันและฝุ่นละอองมากเกิดจากความแห้งแล้ง เมื่อความแห้งแล้งมีมากป่าก็ผลัดใบลงมามาก และทับถมจนกลายเป็นเชื้อไฟอย่างดี จากนั้นคนที่ลักลอบทำไร่ก็เข้าไปแผ้วถางและเผาไร่ แต่เกิดรุกลามเข้าป่าโดยที่ตัวเองควบคุมไม่ได้ จนส่งผลกระทบไปทั่ว
การบุกรุกนั้น มีทั้งที่เกิดขึ้นจากกลุ่มคนที่อยู่บนภูเขาเป็นชาวบ้านรายเล็กๆ และกลุ่มทุนที่บุกรุกเข้าไปปลูกยางพาราหรือพืชเศรษฐกิจอื่นๆ ซึ่งพวกนี้เมื่อบุกรุกป่าเข้าไปแล้วการจะเข้าไปจับกุมก็กลายเป็นปลายเหตุ เพราะได้ตัดต้นไม้ออกไปแล้ว และเมื่อเจ้าหน้าที่ออกนอกพื้นที่ก็จะลอบเข้าไปเผาเพื่อให้เป็นพื้นที่โล่งเพื่อการเพาะปลูกดังกล่าว
ตนเห็นว่า วิธีการป้องกันปัญหาที่ดีที่สุดคือการประสานกับฝ่ายปกครอง เพราะจากประสบการณ์การทำงานในภูมิภาคพบว่า ฝ่ายปกครองมีศักยภาพที่สุด เพราะชาวบ้านในท้องถิ่นเชื่อฟังผู้นำชุมชน หากมีการตั้งกฎหรือคำสั่งจากผู้นำชุมชน ชาวบ้านก็จะไม่กล้าเข้าไปเผาหรือแผ้วถางป่าอีก
นายสุวิทย์ กล่าวอีกว่า สำหรับการป้องกันไฟป่า หลังจากมีการแยกเป็นกรมป่าไม้และกรมอุทยาน สัตว์ป่าและพันธุ์พืช ไปแล้วก็ได้มีการถ่ายโอนเรื่องการควบคุมไฟป่าให้กับส่วนท้องถิ่นในพื้นที่ต่างๆ แทน ทำให้กรมป่าไม้ไม่มีหน่วยด้านการแก้ไขไฟป่าเลย
ตนเห็นว่ากรณีนี้ควรเป็นวาระแห่งชาติ เพราะไฟป่าได้สร้างปัญหาหนักให้กับประเทศจึงควรให้ทางหน่วยงานส่วนกลางเข้าไปมีส่วนร่วมในการดูแล เพราะบางครั้งส่วนท้องถิ่นก็ไม่ใส่ใจต่อกระบวนการป้องกันและแก้ไขไฟป่ามากนัก แต่หากเป็นเจ้าหน้าที่ป่าไม้ ก็จะเข้าไปดับไฟป่าหรืออยู่กินในป่าจนกว่าสถานการณ์จะยุติ
นายพิชญะ ยั่งยืน ผอ.สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 2 (เชียงราย) กล่าวว่า เชียงราย มีพื้นที่ป่าไม้ประมาณ 4,347,304 ไร่ ที่ผ่านมาเกิดปัญหาเรื่องไฟป่า จนทำให้เกิดปัญหาหมอกควันน้อยมาก แต่หมอกควันได้พัดปลิวมาจากที่อื่น
วิกฤตครั้งแรกพัดปลิวมาจากชายแดนไทย-พม่า ด้านภาคเหนือ แต่หลังจากฝนตกและหยุดไปหลายวันก็กลับมาเกิดวิกฤตรอบ 2 สาเหตุ เพราะกลุ่มควันถูกพัดปลิวมาจากทิศตะวันตกจากลมตะวันตกเฉียงใต้ |
|
|
|
|
|
|