สงกรานต์นี้ที่เชียงรายนำ CCTV mobile ช่วยตำรวจตรวจเข้มวินัยจราจร |
|
ประกาศเมื่อ
13 เมษายน 2012 เวลา 13:22:08 เปิดอ่าน
1325 ครั้ง |
|
|
“โครงการนำร่องการศึกษาจัดการระบบสารสนเทศ MIS กลางอย่างบูรณาการร่วมกับการใช้ข้อมูล CCTV เพื่อแก้ไขปัญหาอุบัติเหตุทางถนน จังหวัดเชียงราย ปี 2554-2555” เป็นโครงการ ที่เล็งเห็นความสำคัญในการแก้ไขปัญหาการเกิดอุบัติเหตุทางถนนในพื้นที่จังหวัดเชียงราย ภายใต้การสนับสนุนจาก สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) โดยมีนายสมิทธิ เรืองจันทร์ อดีตผู้อำนวยการแขวงการทางเชียงรายที่ 1 เป็นหัวหน้าโครงการ, นางสาวสริยา ทวีกุล พยาบาลวิชาชีพ ชำนาญการพิเศษรพ.เชียงรายประชานุเคราะห์ เป็นผู้รับผิดชอบโครงการ นอกจากนั้นยังมี พ.ต.ท.เพชรายุทธ ทวีกุล พงส.(สบ2)ภ.จว.เชียงราย,นางวนิดา มาละแซม และหน่วยงานต่างๆเป็นคณะทำงานร่วมกัน
พ.ต.ท.เพชรายุทธ ทวีกุล พงส.(สบ2)ภ.จว.เชียงรายหนึ่งในคณะทำงาน กล่าวว่า จังหวัดเชียงรายถือเป็นจังหวัดนำร่องในการใช้รถ CCTV mobileที่มีต้นทุนถูกกว่า CCTV ที่ติดตั้งตามสี่แยกถึง 2.5 เท่า และสามารถ เคลื่อนไหวติดตามเป้าหมายที่ต้องการได้ วัตถุประสงค์ของ CCTV mobile คือ นำมาใช้ในการออกตรวจป้องกันและป้องปรามผู้กระทำผิด โดยใช้วิธีบันทึกภาพเหตุการณ์ขณะออกตรวจของสายตรวจรถยนต์ สามารถตรวจสอบข้อมูลยานพาหนะ ค้นหาข้อมูลรถที่ถูกโจรกรรม ช่วยบันทึกภาพขณะตั้งด่าน เฝ้าระวังพื้นที่เป้าหมายงานยาเสพติดบันทึกภาพเพื่อวางแผนตรวจค้น จับกุมโดยไม่ให้เป้าหมายรู้ตัว เฝ้าระวังพฤติกรรมเสี่ยง และติดตามการทำผิดกฎจราจรเพื่อการป้องปรามและบังคับใช้กฎหมายแทนการตั้งด่าน
โดยลักษณะของรถ CCTV mobile เป็นการนำกล้อง CCTV ที่ออกแบบมาติดตั้งกับรถยนต์ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ หลักการทำงานของกล้อง CCTV จะบันทึกภาพขณะออกตรวจตามปกติของสายตรวจรถยนต์ ซึ่งจะได้ภาพวีดีโอ ภาพเหตุการณ์ขณะออกตรวจไว้ได้ โดยมีสถานภาพ วัน เดือน ปี เวลา ปรากฏในวีดีโออย่างต่อเนื่อง หากนำมาใช้ด้านการจราจรจะช่วยสร้างวินัยและลดอุบัติเหตุ โดยการบันทึกภาพเหตุการณ์ ทำให้สามารถพบการกระทำผิดของผู้ใช้รถใช้ถนน เช่น ไม่สวมหมวกนิรภัย ,จอดรถซ้อนคัน, จอดรถในที่ห้ามจอด, ขับรถย้อนศร, ฝ่าฝืนสัญญาณไฟ ฯลฯ ซึ่งจะนำภาพที่บันทึกไว้มาตรวจสอบลักษณะรถและเลขทะเบียนรถคันนั้นๆ ที่กระทำความผิด โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจร สามารถสืบหาข้อมูลร่วมกับทางการขนส่งจังหวัด ในการหาผู้กระทำความผิดจากเลขทะเบียนรถที่นำมาใช้ จากนั้นจะส่งภาพพร้อมใบสั่งปรับหรือใบเตือน ไปทางไปรษณีย์ให้ผู้กระทำผิดได้ทราบและนำมาชำระค่าปรับได้ในภายหลัง
ระบบการทำงานดังกล่าว หากมีการปฏิบัติอย่างจริงจังและต่อเนื่อง จะทำให้ผู้ใช้รถใช้ถนนรู้สึกว่าหากกระทำผิดแล้วมีโอกาสถูกบันทึกภาพและอาจถูกใบสั่งได้ตลอดเวลา จะทำให้ผู้ใช้รถใช้ถนนต้องปฏิบัติให้ถูกต้องตามกฎหมาย และมีวินัยในการใช้รถใช้ถนนมากยิ่งขึ้นด้วยจิตสำนึกของตนเอง
พ.ต.ท.เพชรายุทธ ทวีกุล กล่าวเพิ่มเติมว่า หลังจากที่ได้มีการศึกษาโครงการดังกล่าว เมื่อเดือนกันยายน -ธันวาคม 2554ที่ผ่านมา โดยใช้ถนนสายหลักในเขตเทศบาลนครเชียงราย อ.เมือง จ.เชียงราย ผลที่ได้เป็นที่น่าพอใจ โดยเบื้องหลังความสำเร็จของโครงการดังกล่าว ได้รับการสนับสนุนจาก พล.ต.ต. สุรเชษฐ์ โทปุญญานนท์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเชียงราย นางสาวสริยา ทวีกุล พยาบาลวิชาชีพโรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ (พี่เลี้ยง สอจร. จังหวัดเชียงราย) และได้รับงบสนับสนุนเพิ่มเติมจาก
ท่านอดุลย์ บุษยาสกุล จำนวน 50,000 บาท เพื่อดำเนินการโครงการ 750 ปี CCTV สร้างวินัยจราจร ต่อไปด้วย ทำให้ขณะนี้เราสามารถนำกล้อง CCTV mobile ไปใช้กันแล้วในพื้นที่รับผิดของสถานีตำรวจภูธรประจำอำเภอต่างๆในจังหวัดเชียงราย รวมทั้งหมด 25 ตัว และจะได้มีการเริ่มปฏิบัติงานตามวัตถุประสงค์ทั้งหมดอย่างเข้มงวดในทุกพื้นที่ ตามที่ได้กล่าวมาตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน เป็นต้นไป
*********************************************************************
โดย...ประพันธ์ จีระวัง
วิทยุร่วมด้วยช่วยกันจังหวัดเชียงราย
086-1882844 |
|
|
|
|
|
|