(กรุงเทพฯ, 21 ก.พ. 2556) – สืบเนื่องจากความตั้งใจของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข นายแพทย์ประดิษฐ สินธวณรงค์ ในการเพิ่มขนาดภาพคำเตือนสุขภาพบนซองผลิตภัณฑ์ยาสูบให้มีพื้นที่ครอบคลุมร้อยละ 85 ของซองนั้น สมาคมการค้ายาสูบไทยและผู้เชี่ยวชาญหลายฝ่ายในประเทศไทยได้ชี้ถึงประเด็นท้าทายที่อาจเกินขึ้นจากประกาศกระทรวงดังกล่าว
นางวราภรณ์ นะมาตร์ ผู้อำนวยการสมาคมการค้ายาสูบไทยกล่าวว่า “ด้วยภาพคำเตือนขนาดใหญ่ซึ่งทำให้ซองบุหรี่มีรูปลักษณ์ภายนอกที่เหมือนกันหมด กฎหมายฉบับนี้จะสร้างความยากลำบากให้แก่เจ้าของร้านค้าปลีกขนาดเล็กทั่วประเทศในการบริหารจัดการและจัดเก็บสต็อคสินค้า รวมทั้งการให้บริการลูกค้า กฏหมายนี้เกินความจำเป็นอีกทั้งยังเป็นมาตรการสุดโต่งซึ่งมีแต่จะสร้างภาระที่เพิ่มขึ้นโดยไม่จำเป็นในการประกอบธุรกิจของผู้ค้าปลีกไทยที่ต้องบริหารดูแลร้านค้าของตน”
นอกเหนือไปจากผลกระทบต่อผู้ค้าปลีกแล้ว ผู้เชี่ยวชาญในประเทศไทยหลายฝ่ายยังให้ความเห็นว่ากฎหมายดังกล่าวอาจจะสร้างปัญหาเพิ่มเติมให้แก่ประเทศไทย
ดร.กิตติพงษ์ แจ้งกมลกุลชัย Associate Director และผู้เชี่ยวชาญด้านการค้าระหว่างประเทศ บริษัท ไบรอัน เคฟ อินเตอร์เนชั่นแนล คอนซัลติ้ง จำกัด กล่าวว่า “ในฐานะสมาชิกขององค์การการค้าโลก (WTO) ประเทศไทยมีหน้าที่อันพึงปฏิบัติภายใต้ความตกลง WTO ในการแจ้งให้ประเทศสมาชิกWTO ประเทศอื่น ๆ รับทราบเกี่ยวกับกฎระเบียบของซองบรรจุภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับเทคนิคทางการค้า เนื่องจากเป็นการประกาศใช้บทบัญญัติเทคนิคใหม่ที่ไม่ได้ขึ้นกับรูปแบบมาตรฐานระหว่างประเทศ และเป็นบทบัญญัติที่อาจเป็นการละเมิดทางการค้า โดยการประกาศเพิ่มขนาดภาพคำเตือนนี้จะส่งผลกระทบต่อการใช้ตราสินค้าและเครื่องหมายการค้าของบริษัทต่าง ๆ จึงเป็นเรื่องที่ควรตั้งคำถามว่ากระทรวงสาธารณสุขได้มีการพิจารณาภาระผูกพันด้านการค้าหรือไม่ก่อนที่จะมีการเสนอกฏระเบียบดังกล่าว อีกทั้งรัฐบาลมีเจตนาที่จะแจ้งเรื่องกฎระเบียบนี้ต่อองค์การการค้าโลกหรือไม่ หากไม่ ผมเกรงว่าประเทศไทยอาจจะต้องเผชิญปัญหากับประเทศคู่ค้าต่างๆ ของเราได้”
นางดารานีย์ วัจนะวุฒิวงศ์ หุ้นส่วนร่วมบริหาร กรรมการผู้จัดการแผนกทรัพย์สินทางปัญญา บริษัท ติลลิกีแอนด์กิบบินส์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ซึ่งเป็นหน่วยงานอิสระด้านกฎหมายที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย และได้รับการยกย่องว่าเป็นผู้เชี่ยวชาญระดับโลกในประเด็นทรัพย์สินทางปัญญากล่าวว่า “บทบัญญัติในประกาศฉบับดังกล่าวจะทำให้เจ้าของเครื่องหมายการค้าสูญเสียไปซึ่งทรัพย์สินอันมีค่าของตน ซึ่งเป็นการละเมิดรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ละเมิดกฎหมายเครื่องหมายการค้าแห่งประเทศไทย และขัดต่อหน้าที่ในพันธะการระหว่างประเทศของประเทศไทยนอกจากนั้น นายกรัฐมนตรีได้กำหนดให้ปีพ.ศ. 2556 เป็น “ปีแห่งการต่อต้านการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา” ดังนี้การประกาศใช้ภาพคำเตือนขนาดใหญ่ที่กีดกันความสามารถในการใช้เครื่องหมายทางการค้าที่มีมูลค่า กีดกันการใช้โลโก้ และรูปแบบผลิตภัณฑ์ได้อย่างเต็มที่นั้น ชี้ให้เห็นว่ารัฐบาลกำลังส่งสัญญาณที่สับสนและขัดแย้งต่อความตั้งใจในการต่อต้านการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา”
สมาคมการค้ายาสูบไทยใคร่ขอเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขรับฟังข้อกังวลเหล่านี้และพิจารณาทบทวนมาตรการดังกล่าวก่อนจะมีผลบังคับใช้
เกี่ยวกับสมาคมการค้ายาสูบไทย
สมาคมการค้ายาสูบไทย หรือ Thai Tobacco Trade Association (TTTA) เป็นสมาคมที่ก่อตั้งขึ้นในเดือนมกราคม พ.ศ. 2555 มีจุดประสงค์ในการสะท้อนมุมมองและความคิดเห็นของผู้ค้าปลีก ผู้ค้าส่ง ผู้จัดจำหน่าย และผู้นำเข้าผลิตภัณฑ์ยาสูบ โดยมุ่งเน้นเสนอการแก้ไขปัญหาและข้อกังวลที่เกี่ยวข้องกับภาคธุรกิจค้าปลีกยาสูบ ทั้งในด้านกฎหมายและกฎระเบียบ การจัดเก็บภาษี การต่อต้านการค้าผลิตภัณฑ์ยาสูบผิดกฎหมาย การรณรงค์ในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับยาสูบ เช่น การป้องกันเยาวชนจากการสูบบุหรี่ และกิจกรรมเพื่อสังคมในชุมชนท้องถิ่น รวมทั้งเพื่อเป็นศูนย์กลางในการสื่อสารระหว่างผู้ประกอบธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการค้ายาสูบและภาครัฐกับสื่อมวลชน ข้อมูลเพิ่มเติมสามารถดูได้ที่http://www.ttta.or.th
สมาคมการค้ายาสูบไทย Thai Tobacco Trade Association (TTTA)
31/1208 ซอยคลองหลวง 17 หมู่ 16
ต. คลองหนึ่ง อ. คลองหลวง จ. ปทุมธานี 12120
โทร: 02-516-3958
โทรสาร: 02-516-3946
อีเมล์: info@ttta.or.th
เว็บไซต์: http://www.ttta.or.th