นายแพทย์ชำนาญ  หาญสุทธิเวชกุล นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเชียงราย เปิดเผยว่า ขณะนี้พบมีพ่อค้าแม่ค้า ผู้ประกอบการอาหาร มักนำน้ำมันเก่ามาใช้ทอดอาหาร เช่น ไก่ทอด หมูทอด ลูกชิ้นทอด ไส้กรอกทอดหรือขนมจำหน่ายให้ผู้บริโภค บางรายนำน้ำมันเก่าที่ใช้แล้วมาทอดซ้ำแล้วซ้ำอีก และมีการเติมน้ำมันใหม่ผสมลงไปด้วย ถือเป็นอันตรายต่อผู้บริโภคมาก เนื่องจากเป็นการเร่งการเสื่อมสภาพของน้ำมันทำให้ปริมาณสารโพลาร์สูงขึ้น จนเป็นอันตรายต่อสุขภาพ ทั้งนี้การบริโภคอาหารทอดเป็นประจำ อาจเป็นการนำ “สารก่อมะเร็ง” เข้าสู่ร่างกาย เนื่องจากน้ำมันที่ใช้ประกอบอาหารโดยเฉพาะน้ำมันที่ผ่านการใช้มาแล้วจะเกิดสารกลุ่มโพลาร์ ซึ่งเป็นสารที่มีผลต่อการเกิดโรคมะเร็ง โรคความดันโลหิตสูง รวมทั้งโรคหลอดเลือดและหัวใจด้วย

นายแพทย์ชำนาญกล่าวต่อไปว่า ลักษณะของน้ำมันที่จัดเป็นน้ำมันทอดซ้ำ จะมีกลิ่นเหม็นหืน เหนียวข้น มีสีดำ เกิดฟองและควันมากขณะทอด ซึ่งประกาศกระทรวงสาธารณสุข ฉบับที่ 283 พ.ศ. 2547 ได้กำหนดให้มีปริมาณสารโพลาร์ในน้ำมันที่ใช้ทอดหรือประกอบอาหารเพื่อจำหน่ายได้ไม่เกินร้อยละ 25 ของน้ำหนัก หากตรวจพบว่าเกินถือว่าฝ่าฝืนตามมาตรา 25(3) พระราชบัญญัติอาหาร พ.ศ.2522 มีโทษปรับไม่เกิน 50,000 บาท จึงขอความร่วมมือพ่อค้าแม่ค้า ผู้ประกอบการอาหารให้ตระหนักถึงผลร้ายของการใช้น้ำมันทอดซ้ำ และมีความรับผิดชอบด้วยการไม่ใช้น้ำมันทอดซ้ำ 

ที่สำคัญนอกจากผู้บริโภคอาหารจากน้ำมันทอดซ้ำจะเสี่ยงเป็นมะเร็งแล้ว พ่อค้าแม่ค้าที่ใช้น้ำมันทอดซ้ำก็มีโอกาสเป็นโรคมะเร็งเช่นกัน เนื่องจากในไอระเหยของน้ำมันที่เสื่อมสภาพ จะมีสารก่อมะเร็ง เมื่อสูดดมเข้าไปทำให้เสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งปอดได้ จึงขอแนะนำพ่อค้าแม่ค้า ผู้ประกอบการอาหาร ให้เปลี่ยนน้ำมันทอดอาหารบ่อยขึ้น เมื่อทอดอาหารประเภทเนื้อสัตว์ที่มีเกลือหรือเครื่องปรุงรสปริมาณมาก สำหรับในครัวเรือนไม่ควรใช้น้ำมันทอดอาหารซ้ำเกิน 2 ครั้ง  

ข้อมูลข่าวสารสาธารณสุข   **********************  2   พฤษภาคม   2556