'แม่สาย-ท่าขี้เหล็ก คึกคัก หลังพม่าเปิดรับวีซ่าเข้าชายแดน-ผุดสะพานน้ำโขงเชื่อมลาว |
|
ประกาศเมื่อ
02 กันยายน 2013 เวลา 16:02:27 เปิดอ่าน
1320 ครั้ง |
|
|
การท่องเที่ยว-การค้าชายแดนผ่านแม่สาย-ท่าขี้เหล็กคึกคักทันตา หลังทางการพม่าเปิดให้นักท่องเที่ยวถือพาสปอร์ต-วีซ่า เข้าชายแดนได้ พร้อมผุดสะพานข้ามโขงเชื่อมตรงเข้า สปป.ลาว ขณะที่จังหวัดเชียงใหม่เตรียมยกคณะสานสัมพันธ์เข้า “เชียงตุง” นำผู้เฒ่าผู้แก่เล่าเรื่องอดีตร่วมกันกลางเดือนนี้
วันนี้ (1 ก.ย.) รายงานข่าวจาก จ.เชียงรายแจ้งว่า หลังพม่าเปิดให้นักท่องเที่ยวใช้หนังสือเดินทางระหว่างประเทศหรือพาสปอร์ต และวีซ่าที่ด่านพรมแดนชายแดนไทย-พม่าหลายจุด รวมถึงด่านท่าขี้เหล็ก ตรงข้าม อ.แม่สาย จ.เชียงราย ตั้งแต่วันที่ 28 สิงหาคมที่ผ่านมา ล่าสุดมีนักท่องเที่ยวจากประเทศที่ 3 เข้าไปใช้บริการแล้ว ทำให้บรรยากาศการเข้าออกชายแดนไทย-พม่าคึกคักมากขึ้น
น.ส.ผกายมาศ เวียร์รา ประธานหอการค้าอำเภอแม่สาย กล่าวว่า เดิมคนไทยที่จะเดินทางเข้าไปพม่าจะใช้บัตรผ่านแดนชั่วคราว และเข้าไปได้ถึงบ้านท่าเดื่อ หรือหากใช้บัตรประจำตัวประชาชนสามารถเข้าไปถึงเมืองเชียงตุงตามถนน R3b ระยะทางประมาณ 168 กิโลเมตร แต่เมื่อพม่าเปิดให้ใช้พาสปอร์ต-วีซ่า ซึ่งทั้งคนไทยและต่างประเทศสามารถขอวีซ่าได้ที่สถานกงสุลพม่า ประจำประเทศไทย เดินทางเข้าไปในพม่าได้อย่างเสรี รวมทั้งยังสามารถเดินทางเข้า-ออกทางบกได้ตามจุดต่างๆ รวม 4 ด่าน คือ ท่าขี้เหล็ก-แม่สาย, เมืองเมียวดี-อ.แม่สอด จ.ตาก เกาะสอง-จ.ระนอง และเมืองทวาย-ด่านน้ำพุร้อน จ.กาญจนบุรี นอกจากนี้ยังเข้าออกทางอากาศผ่านท่าอากาศยานของไทยไปยังเมืองเนย์ปิดอว์ เมืองย่างกุ้ง และเมืองมัณฑะเลย์ได้ด้วย
“ช่องทางที่เปิดกว้างดังกล่าวจะทำให้การท่องเที่ยวและการค้าชายแดนไทย-พม่าคึกคักขึ้นแน่นอน”
น.ส.ผกายมาศกล่าวว่า แม่สาย-ท่าขี้เหล็กเริ่มเห็นความคึกคักขึ้นแล้ว และในการประชุมการท่องเที่ยวของประเทศพม่าที่ท่าขี้เหล็กเมื่อวันที่ 28 สิืงหาคมที่ผ่านมา ทางการพม่าแจ้งว่าหวังที่จะให้มีนักท่องเที่ยวเดินทางผ่านแม่สาย-ท่าขี้เหล็กมากขึ้น โดยเฉพาะคนไทย คนจีน และคนญี่ปุ่น
โดยที่ผ่านมานักท่องเที่ยวที่เดินทางไปจากฝั่งไทยที่เดินทางเข้าไปลึกกว่าตลาดชายแดน เช่น ไปเชียงตุง มีเฉลี่ยวันละ 300-400 คน และหากเป็นฤดูท่องเที่ยวก็จะมากเป็นหลายพันคน ซึ่งปัจจุบันการเดินทางผ่านชายแดนแม่สาย-ท่าขี้เหล็กเข้าไปในพม่าทางบก นอกจากจะมีถนน R3b แม่สาย-ท่าขี้เหล็ก-เชียงตุง ยังสามารถเดินทางไปถึงเมืองลา ชายแดนพม่า-จีนได้ ส่วนทางอากาศมีสนามบินท่าขี้เหล็กที่มีสายการบินเปิดให้บริการถึง 7 สายการบิน และเที่ยวบินขึ้นลงวันละ 14 เที่ยวบิน หรือสัปดาห์ละกว่า 98 เที่ยวบิน
เส้นทางที่นิยมเดินทางกันคือสายท่าขี้เหล็ก-ตองจี เพื่อชมความงามของทะเลสาบอินเล ปัจจุบันมีนักท่องเที่ยวต่างชาติกว่าร้อยละ 30 ของจำนวนผู้โดยสารทั้งหมด ซึ่งในอนาคตยังจะมีเส้นทางใหม่ที่เชื่อมจากท่าขี้เหล็กไปยังสะพานแม่น้ำโขงพม่า-สปป.ลาว ซึ่งใกล้กับจีนตอนใต้มากที่สุดด้วย โดยใช้เส้นทางสายท่าขี้เหล็ก-ท่าเดื่อ 30 กิโลเมตร แล้วข้ามสะพานน้ำโขงแห่งใหม่-หลวงน้ำทาประมาณ 120 กิโลเมตร เมื่อข้ามสะพานก็จะเข้าเขตเมืองเชียงกก และสามารถเดินทางไปยังเมืองหลวงน้ำทา บนถนน R3a ใน สปป.ลาว เพื่อเดินทางไปยังจีนตอนใต้ได้ด้วยระยะทางที่ใกล้กว่าเดิมร่วม 100 กิโลเมตร
นอกจากนี้ ทาง จ.เชียงใหม่ และเมืองเชียงตุงของพม่ากำลังสานสัมพันธ์เป็นเมืองพี่เมืองน้องต่อกัน โดยคณะจาก จ.เชียงใหม่จะเดินทางไปเชื่อมความสัมพันธ์ทางวิถีชีวิต วัฒนธรรม ประเพณีที่เมืองเชียงตุงวันที่ 22 กันยายนนี้ โดยจะมีการนำผู้เฒ่าผู้แก่ที่เคยอยู่อาศัยในภูมิภาคนี้และมีเชื้อสายเดียวกันไปนั่งพูดคุยกันถึงความเป็นมาในอดีต ซึ่งเมื่อผนวกกับเส้นทางคมนาคมและการอำนวยความสะดวกระหว่างกันที่มีมากขึ้นจะทำให้การท่องเที่ยวคึกคักมากขึ้น
ส่วนภาคการค้าชายแดน คาดว่าจะมีการค้าเพิ่มมากขึ้นกว่าเดิม 10-15%
สำหรับด่านเมืองลา-จีนตอนใต้ที่ยังปิดอยู่นั้นมีแนวโน้มในทางที่ดี เพราะทางการพม่าประกาศพร้อมจะเปิดด่านเชื่อมพม่า-จีนเพื่อให้ถนน R3b เดินทางไป-มาได้สะดวกอีกครั้ง แต่ยังคงรอทางการจีนอยู่ หากมีการเปิดอีกครั้งจะทำให้การท่องเที่ยวในเส้นทางสายนี้เป็นทางเลือกหนึ่ง |
|
|
|
|
|
|