กลุ่มทุนหลากหลายกลุ่มแห่เข้าชายแดนเชียงของ วางแผนพัฒนาสารพัดรูปแบบ รอรับสะพานข้ามโขงเปิดปลายปีนี้ ทำราคาที่ดินพุ่งขึ้นเป็นไร่ละ 5-6 ล้านบาทแล้ว
วันนี้ (8 ก.ย.) นายธนิสร กระฎุมพร ประธานหอการค้าอำเภอเชียงของ จ.เชียงราย กล่าวว่า หลังกระทรวงคมนาคม กำหนดเปิดใช้สะพานข้ามแม่น้ำโขงไทย-ลาว แห่งที่ 4 ระหว่าง อ.เชียงของ กับเมืองห้วยทราย แขวงบ่อแก้ว สปป.ลาว เพื่อเชื่อมถนน R3a ไทย-สปป.ลาว-จีนตอนใต้ วันที่ 11 ธันวาคมนี้ ทำให้กลุ่มทุนเข้ามาลงทุนในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง จนราคาที่ดินปรับเพิ่มขึ้นเป็นไร่ละ 5-6 ล้านบาทแล้ว และเชื่อว่าหลังสะพานเสร็จเมืองเชียงของจะขยายตัวอีกมาก
เพราะถัดจากตัวสะพาน และตัวเมืองเชียงของ ยังมีทุ่งสามหมอนที่กว้างขวางที่ ต.ศรีดอนชัย และ ต.สถาน ติดถนนเชียงของ-เชียงราย ที่การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) เคยเข้าไปสำรวจ และกำหนดเป็นพื้นที่สีม่วงสำหรับก่อตั้งนิคมอุตสาหกรรมเอาไว้ประมาณ 16,000 ไร่ ซึ่งมีกลุ่มทุนเข้าไปถมดิน และประกอบกิจการแปรรูปทางการเกษตรแล้วหลายแห่ง ล่าสุด กำลังเสนอให้รัฐบาลพิจารณารูปแบบการลงทุนอยู่
ด้านนายกฤษฎาพงศ์ แสงสว่าง ผู้จัดการทั่วไปโครงการเชียงของเมืองใหม่ กลุ่มทุนเกรทเทสท์ โลจิสติก บริษัท อภิพัฒนกิจ จำกัด กล่าวว่า บริษัทได้ลงทุนก่อสร้างอาคารพาณิชย์ 3 เฟส รวม 74 คูหา แล้วเสร็จราวปี 2557 เพื่อเปิดขายในราคา 4-4.5 ล้านบาทต่อยูนิต ซึ่งมีผู้สนใจจองกันอย่างคึกคัก หากได้รับการตอบรับดีก็จะขยายการลงทุนเพิ่มอีก เพื่อพัฒนาให้เป็นตลาดสินค้าชายแดน พืชผัก ผลไม้ อาหารทะเล ห้องแถว โดยมีโซนตลาดที่อยู่ในอาณาบริเวณเดียวกันเปิดให้เช่าเฉลี่ยล็อกละ 3,000 บาทต่อเดือน และจะมีการบริหาร และพัฒนาตลาด และอื่นๆ อย่างต่อเนื่องเพื่อให้ผู้จับจองคุ้มทุนอย่างยั่งยืน
นอกจากนี้ ยังมีความเคลื่อนไหวของกลุ่มทุนต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นห้างสรรพสินค้า โรงพยาบาล อาคารพาณิชย์ ที่อยู่อาศัย โดยเฉพาะอพาร์ตเมนทต์และหอพัก ซึ่งเริ่มก่อสร้างกันแล้วหลายแห่ง
ขณะที่พื้นที่ติดสะพานในฝั่งเมืองห้วยทราย แขวงบ่อแก้ว มีบริษัท เอเอซี กรุ๊ป จำกัด เช่าพื้นที่รัฐบาลลาว 1,200 ไร่ ระยะเวลา 80 ปี ยังคงเดินหน้าก่อสร้างโครงการต่างๆ ทั้งโรงแรม อาคารพาณิชย์ ตลาดชายแดน พื้นที่เกษตร เขตปลอดภาษี หรือดิวตี้ฟรีโซน เอ็นเตอร์เทนเมนต์
รายงานข่าวจากด่านศุลกากรเชียงของ ระบุว่า ปีงบประมาณ 2556 ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2555 ถึงเดือนสิงหาคม 2556 มีมูลค่าการส่งออกสินค้าผ่านด่านศุลกากรเชียงของไปยัง สปป.ลาว และจีนตอนใต้ 3,056,783,986 บาท และนำเข้า 9,437,007,570.69 บาท สินค้าส่งออกส่วนใหญ่เป็นยางพารา เศษยางพารา เนื้อสัตว์แช่แข็ง เครื่องอุปโภคบริโภค น้ำมันดีเซลหมุนเร็ว ผลไม้สด สินค้านำเข้าส่วนใหญ่เป็นผลไม้สด พืชผัก เครื่องจักรกลและอุปกรณ์ ถ่านหิน ดอกไม้ ไม้ประดับ |