นายแพทย์ชำนาญ  หาญสุทธิเวชกุล นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเชียงราย เปิดเผยถึงการรณรงค์ตรวจคัดกรองมะเร็งเต้านมว่า ขณะนี้มะเร็งเต้านมในหญิงไทยพบผู้ป่วยมากเป็นอันดับหนึ่งแซงมะเร็งปากมดลูก ข้อมูลจากองค์กรวิจัยมะเร็งนานาชาติคาดการณ์ว่าในปี 2553 ไทยมีผู้ป่วยมะเร็งเต้านม 13,184 คน เสียชีวิต 4,665 คน เฉลี่ยวันละ 12 คน ในขณะที่มะเร็งปากมดลูกมีผู้ป่วย 10,465 คน เสียชีวิต 5517 คน เฉลี่ยวันละ 15 คน การตรวจเต้านมด้วยตนเองอย่างถูกต้องเป็นประจำสม่ำเสมอ จะทำให้ค้นพบความผิดปกติได้ตั้งแต่ระยะเริ่มแรก เป็นการลดความรุนแรงและลดอัตราการเสียชีวิตจากมะเร็งเต้านมได้  ในปีนี้กระทรวงสาธารณสุขได้มอบนโยบายให้ตรวจคัดกรองมะเร็งเต้านม และกำหนดจัดกิจกรรมรณรงค์การตรวจเต้านมโดย อสม. พร้อมกันทุกจังหวัด ระหว่างวันที่ 10-14  มกราคม 2554

นายแพทย์ชำนาญกล่าวว่า จังหวัดเชียงรายได้รณรงค์ตรวจมะเร็งเต้านมมาอย่างต่อเนื่อง   ในปี 2553 มีหญิงอายุ 35 ปีขึ้นไปจำนวน 287,978 คน ได้รับการตรวจคัดกรองจำนวน 228,844 คน คิดเป็นร้อยละ 79 ในจำนวนนี้พบความผิดปกติส่งต่อเพื่อการวินิจฉัยจำนวน 794 ราย ผลการตรวจพบเป็นมะเร็งเต้านม 65 คน โดยพบผู้ป่วยระยะที่ 1 จำนวน 49 คน ระยะที่ 2 จำนวน  9 คน ระยะที่ 3 จำนวน 6 คน และระยะที่ 4 จำนวน 1 คน        

นายแพทย์ชำนาญกล่าวต่อไปว่า สาเหตุของมะเร็งเต้านมที่แท้จริงยังไม่ทราบแน่ชัด แต่จากการศึกษาพบ ปัจจัยสำคัญที่ทำให้เกิดมะเร็งเต้านมคือพันธุกรรมและฮอร์โมนเพศหญิง เช่น มีประวัติคนในครอบครัวเป็นมะเร็งเต้านม ไม่มีบุตร ทำงานดึก เครียด ออกกำลังกายน้อย รับประทานอาหารที่มีไขมันมาก อ้วน ดื่มสุรา มีประจำเดือนครั้งแรกอายุยังน้อยคือเร็วกว่า 12 ปี และหมดประจำเดือนหลังอายุ 55 ปี อย่างไรก็ตามการป้องกันไม่ให้เป็นมะเร็งเต้านม มีวิธีที่ปฏิบัติง่ายๆ ได้แก่ การเลี้ยงลูกด้วยนมแม่อย่างเดียว 6 เดือน ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ เคลื่อนไหวออกแรงเป็นประจำ ไม่สูบบุหรี่ ไม่ดื่มสุรา ทำจิตใจให้ร่าเริงแจ่มใส         

“จึงขอเชิญชวนหญิงที่มีอายุ 20 ปีขึ้นไป ไปรับคำแนะนำการตรวจเต้านมโดยอสม. ซึ่งผ่านการอบรมแล้วเพื่อให้สามารถตรวจเต้านมด้วยตนเองได้ ที่สถานีอนามัยใกล้บ้าน ระหว่างวันที่ 10-14 มกราคม 2554 การตรวจเต้านมด้วยตนเองนับเป็นการตรวจเบื้องต้นที่สำคัญ หากตรวจพบความผิดปกติได้ตั้งแต่แรก เช่น คลำพบก้อน รูปทรงของเต้านมผิดปกติ หรือมีเลือด น้ำหนอง หรือมีน้ำใสๆออกมา ให้รีบปรึกษาแพทย์เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริง ซึ่งจะช่วยให้ได้รับการรักษาอย่างถูกต้องและมีโอกาสหายสูง”   นายแพทย์ชำนาญกล่าว