สาธารณสุขเชียงรายพบกลุ่มเด็กและเยาวชนอายุต่ำกว่า 20 ปีเป็นกลุ่มที่ได้รับบาดเจ็บรุนแรงสูงสุดจากการเล่นพลุ ประทัด ดอกไม้ไฟ เตือนผู้ปกครองดูแลอย่างใกล้ชิด ไม่ให้เล่นโดยลำพัง ไม่ให้เล่นด้วยความคึกคะนอง เช่น ไม่ควรจุดขณะที่ถือในมือ ไม่ขว้างใส่ฝูงชน เป็นต้น ควรเล่นหรือจุดในสถานที่ที่มีการจัดเตรียมไว้ให้มีการเฉลิมฉลองตามประเพณีลอยกระทงเท่านั้น นอกจากนี้เสียงดังถือเป็นการละเมิดสิทธิส่วนบุคคล อาจทำให้เด็กเล็กและผู้สูงอายุที่เป็นโรคหัวใจ ความดันโลหิตสูงตกใจ หัวใจวายและเสียชีวิตได้
นายแพทย์ชำนาญ หาญสุทธิเวชกุล นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเชียงราย เปิดเผยถึงอุบัติเหตุจากการเล่นพลุ ประทัด ดอกไม้ไฟ ในช่วงเทศกาลลอยกระทงว่า สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 10 เชียงใหม่ ได้วิเคราะห์ข้อมูลสถานการณ์การบาดเจ็บรุนแรงจากการถูกเปลวไฟหรือสะเก็ดดอกไม้ไฟหรือพลุ ของโรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ จ.เชียงราย และโรงพยาบาล จ.ลำปาง ในปี 2555 พบมีผู้บาดเจ็บรุนแรงจากการถูกเปลวไฟหรือสะเก็ดดอกไม้ไฟหรือพลุ 132 ราย ไม่มีผู้เสียชีวิต เป็นชาย 121 ราย หญิง 11 ราย มากสุดในกลุ่มอายุ 15-19 ปี คิดเป็นร้อยละ 25 รองลงมาคืออายุ 5-9 ปีร้อยละ 12 และอายุ 20-24 ปีร้อยละ 11 เป็นผู้ใช้แรงงานร้อยละ 40 รองลงมาคือนักเรียน/นักศึกษาร้อยละ 35 โดยในเดือนพฤศจิกายนเป็นเดือนที่เกิดเหตุสูงสุด พบผู้บาดเจ็บ 66 ราย อวัยวะที่ได้รับบาดเจ็บมากที่สุดคือ นิ้วมือแตกหรือหักร้อยละ 26 รองลงมามีบาดแผลที่ผิวหนัง บริเวณมือและนิ้วร้อยละ 20 และบาดเจ็บในดวงตาร้อยละ 17 สถานที่เกิดเหตุบริเวณบ้านร้อยละ 47
นายแพทย์ชำนาญกล่าวต่อไปว่า ที่สำคัญพบว่ากลุ่มเด็กและเยาวชนอายุต่ำกว่า 20 ปีเป็นกลุ่มที่บาดเจ็บรุนแรงสูงสุด และเกิดเหตุบริเวณบ้าน ดังนั้นช่วงเทศกาลลอยกระทงนี้ ผู้ปกครองควรดูแลอย่างใกล้ชิด ไม่ควรปล่อยให้เล่นโดยลำพัง กำชับไม่ให้เล่นด้วยความคึกคะนอง เช่น ไม่ควรจุดขณะที่ถือในมือ ไม่ขว้างใส่ฝูงชน เป็นต้น ควรเล่นหรือจุดในสถานที่ที่มีการจัดเตรียมไว้ให้มีการเฉลิมฉลองและงานรื่นเริงในประเพณีลอยกระทงเท่านั้น ห้ามเล่นในแหล่งชุมชน ไม่ควรจุดใกล้สายไฟหรืออาคารบ้านเรือน อาจทำให้เกิดไฟไหม้ได้ ซึ่งนอกจากจะเกิดอันตรายแล้วยังมีความผิดตามกฎหมายด้วย เนื่องจากพลุ ประทัดและดอกไม้ไฟ ตามกฎหมายเป็นวัตถุอันตรายในหมวดดอกไม้เพลิง หากนำมาเล่นโดยไม่ระมัดระวังอาจระเบิดจนทำให้นิ้วขาด มีแผลที่มือหรือผิวหนัง ตาบอดหรือเสียชีวิตได้ ตามที่เป็นข่าวทางสื่อมวลชนในขณะนี้
ทั้งนี้การเล่นประทัด จุดพลุและดอกไม้ไฟ เป็นการละเมิดสิทธิส่วนบุคคลที่ส่งเสียงดัง ทำให้เด็กเล็ก ผู้สูงอายุตกใจ โดยเฉพาะผู้สูงอายุบางรายที่มีโรคประจำตัว เช่น โรคหัวใจ โรคความดันโลหิตสูง อาจหัวใจวายและเสียชีวิตได้ ขอเตือนประชาชนให้ช่วยสอดส่องดูแลและตักเตือนให้เล่นด้วยความไม่ประมาท เล่นในสถานที่ที่จัดเตรียมไว้เท่านั้น ส่วนเด็กเล็กอายุต่ำกว่า 5 ปีไม่ควรเล่นเด็ดขาด นายแพทย์ชำนาญกล่าว
งานข้อมูลข่าวสารสาธารณสุข 10/2557 ********************** 5 พฤศจิกายน 2556 |