สาธารณสุขเผย 14 พฤศจิกายนเป็นวันเบาหวานโลก ปัจจุบันพบผู้ป่วยเบาหวานทั่วโลก 371 ล้านคน คาดในปีพ.ศ. 2573 จะมีผู้ป่วยโรคเบาหวานถึง 500 ล้านคน สำหรับไทยปี 2555 มีผู้เสียชีวิตจากโรคเบาหวาน 7,749 รายหรือเฉลี่ยวันละ 22 ราย ปีนี้เน้นรณรงค์ “พิทักษ์อนาคตไทย พ้นภัยเบาหวาน” การป้องกันที่ดีที่สุดคือ การลดน้ำหนัก ออกกำลังกายโดยการเดินเร็ว หรือวิ่งสลับกับเดินเร็วอย่างน้อยสัปดาห์ละ 5 ครั้งๆละ 30 นาที ทานอาหารที่มีใยมากๆ เช่น ผัก ผลไม้ ธัญพืช ไม่ทานอาหารที่มีรสหวานหรือน้ำตาล
นายแพทย์ชำนาญ หาญสุทธิเวชกุล นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเชียงรายเปิดเผยว่า องค์การอนามัยโลกและสมาพันธ์เบาหวานนานาชาติได้กำหนดให้วันที่ 14 พฤศจิกายนของทุกปีเป็นวันเบาหวานโลก(World Diabetes Day) โดยกำหนดประเด็นการรณรงค์วันเบาหวานโลกประจำปี 2552-2556 คือ การให้ความรู้และการป้องกันโรคเบาหวาน(Diabetes Education and Prevention) ในปีนี้กระทรวงสาธารณสุขและสมาคมโรคเบาหวาน กำหนดคำขวัญรณรงค์ว่า “พิทักษ์อนาคตไทย พ้นภัยเบาหวาน” เน้นการให้ความรู้ ความเข้าใจและการป้องกัน เนื่องจากทุกคนมีสิทธิเป็นโรคเบาหวาน และพบว่า 1 ใน 2 ของผู้ป่วยเบาหวานไม่รู้ว่าตัวเองเป็นโรคเบาหวาน
โรคเบาหวานเป็นโรคเรื้อรังที่เป็นปัญหาสำคัญในขณะนี้ จากรายงานสถิติสุขภาพทั่วโลกปีพ.ศ. 2555 ขององค์การอนามัยโลกพบว่า 1 ใน 10 ของประชาชนในวัยผู้ใหญ่เป็นโรคเบาหวาน ซึ่งปัจจุบันทั่วโลกพบผู้ป่วยโรคเบาหวาน 371 ล้านคน และเป็นผู้มีความเสี่ยงต่อโรคเบาหวานประมาณ 280 ล้านคน คาดว่าปีพ.ศ. 2573 จะมีผู้ป่วยโรคเบาหวานถึง 500 ล้านคน สำหรับประเทศไทยปี 2555 พบมีผู้เสียชีวิตจากโรคเบาหวาน 7,749 ราย หรือเฉลี่ยวันละ 22 ราย โดยมีผู้ป่วยโรคเบาหวานเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลสังกัดกระทรวงสาธารณสุขจำนวน 674,826 ครั้ง ในปี 2557 เน้นให้สถานบริการสาธารณสุข ตรวจคัดกรองเบาหวานในกลุ่มอายุ 15 ปีขึ้นไปให้ครอบคลุมไม่น้อยกว่าร้อยละ 90 เพื่อค้นหากลุ่มเสี่ยง ให้ได้รับความรู้และคำปรึกษาที่ถูกต้องในการดูแลตัวเอง และปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพไม่ให้ป่วยเป็นโรคเบาหวาน
นายแพทย์ชำนาญกล่าวต่อไปว่า โรคเบาหวานเป็นภาวะที่ร่างกายมีระดับน้ำตาลในเลือดสูงกว่าปกติ ผู้ที่มีโอกาสเสี่ยงเป็นเบาหวานได้แก่ มีญาติสายตรงเป็นเบาหวาน ความอ้วน ทานอาหารรสหวาน ความดันโลหิตสูง ไขมันในเลือดสูง ไม่ออกกำลังกาย เมื่อเป็นเบาหวานระยะหนึ่งแล้ว จะเกิดโรคแทรกซ้อนต่ออวัยวะต่างๆ เช่น ตา ไต เท้า ระบบประสาท หัวใจและหลอดเลือดสมอง ทำให้ป่วย คุณภาพชีวิตแย่ลง และเสียชีวิตก่อนวัยอันควร ดังนั้นการป้องกันไม่ให้เป็นเบาหวานจะลดภาระทั้งตนเอง ครอบครัวและประเทศ ทั้งนี้โรคเบาหวานและภาวะแทรกซ้อนที่เกิดขึ้นเป็นสิ่งที่สามารถป้องกันและควบคุมได้ การป้องกันที่ดีที่สุดคือปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ได้แก่ การลดน้ำหนักลงให้ได้ร้อยละ 5-7 จากน้ำหนักเดิมโดยเฉพาะคนอ้วน ออกกำลังกายโดยการเดินเร็ว หรือวิ่งสลับกับเดินเร็วอย่างน้อยสัปดาห์ละ 5 ครั้งๆละ 30 นาที ทานอาหารที่มีใยมากเช่น ผัก ผลไม้ ธัญพืช ไม่ทานรสหวานจัดหรือน้ำตาล
งานข้อมูลข่าวสารสาธารณสุข 12/2557 ********************** 12 พฤศจิกายน 2556 |