สสจ.พะเยาหวั่นหวัด 09 ระบาดเปิดเทอม-จี้ทุกโรงเรียนคัดกรองเด็กเข้ม

เชียงรายโฟกัส ดอทอคม :: สังคมออนไลน์ของคนเชียงราย, ศูนย์รวมข้อมูลออนไลน์ จ.เชียงราย

เหนือสุดในสยาม ชายแดนสามแผ่นดิน ถิ่นวัฒนธรรมล้านนา ล้ำค่าพระธาตุดอยตุง

ฝากประกาศข่าว | ฝากประกาศงาน ฟรี! | เฟสบุ๊กเพจ:เชียงรายโฟกัส

เกาะติดข่าว จาก เชียงรายโฟกัส ทุกวัน..

สสจ.พะเยาหวั่นหวัด 09 ระบาดเปิดเทอม-จี้ทุกโรงเรียนคัดกรองเด็กเข้ม

ประกาศเมื่อ 01 พฤศจิกายน 2010 เวลา 12:25:13 เปิดอ่าน 1245 ครั้ง

สสจ.พะเยาหวั่น “หวัด09” ระบาดหนักรับเปิดเทอม เตรียมประสานทุกโรงเรียน คัดกรองเด็กสกัดเต็มที่

       แพทย์หญิงอารีย์ ตันบรรจง สสจ.พะเยา กล่าวว่า เนื่องจากเป็นช่วงของอากาศแปรปรวนทำให้เด็กนักเรียนในพื้นที่หลายแห่งไม่สบายเป็นไข้หวัดกันจำนวนมาก ยังโชคดีในระยะนี้เป็นช่วงปิดภาคเรียนทำให้สถิติผู้ป่วยไข้หวัดและการระบาดไม่น่าห่วง แต่ช่วงที่น่าเป็นห่วงมากที่สุดจะกลับมาอีกครั้งในช่วงเปิดภาคเรียนประมาณ 1 เดือนนับจากนี้

       แพทย์หญิงอารีย์กล่าวต่อว่า ทาง สสจ.ต้องเตรียมการประสานงานไปยังโรงเรียนและสถานศึกษารวมทั้งสถานรับดูแลเด็กในทุกพื้นที่ของ จ.พะเยา เพื่อให้ร่วมคัดกรองเด็กนักเรียนไม่ให้คนที่มีอาการเป็นหวัดไม่สบายเข้าไปเรียนหรืออยู่ร่วมกับผู้อื่น ป้องกันไม่ให้มีการแพร่ระบาดของไข้หวัดทั้งหวัดใหญ่และหวัด 2009 ได้

       ในโรงเรียนจะต้องมีทีมครู/อาจารย์ที่ทำหน้าที่คัดกรองเด็กไม่สบายออกจากเด็กปกติ และส่งกลับบ้าน ครูที่ไปกับรถโรงเรียนซึ่งรับ-ส่งนักเรียนทุกวันจะต้องสังเกตอาการของเด็กหากพบเด็กมีอาการเป็นหวัดไม่สบาย ต้องแจ้งผู้ปกครองดูแลไม่ต้องรับมาโรงเรียนเพื่อสกัดการแพร่ระบาดของโรคตั้งแต่ต้นทาง

       แพทย์หญิงอารีย์กล่าวอีกว่า กรณีที่มีผู้ปกครองใน จ.พะเยา นำบุตรหลานที่ไม่สบายเป็นไข้หวัดใหญ่ หรือต้องสงสัยเป็นหวัด 2009 เข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลของรัฐ ต้องการที่จะให้ตรวจวินิจฉัยโรค แต่เนื่องจากโรงพยาบาลของรัฐไม่มีเครื่องมือการตรวจหาเชื้อรองรับได้ โดยจะต้องส่งไปตรวจที่ศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ใน จ.เชียงใหม่ และ จ.เชียงราย ซึ่งตรงนี้ต้องมีค่าใช้จ่าย ส่วนกรณีที่นำส่งโรงพยาบาลเอกชนตรวจวินิจฉัยต้องมีค่าใช้จ่ายครั้งละ 500บาท ซึ่งอาจจะเป็นการเพิ่มภาระแก่ผู้ปกครอง

       ดังนั้น หากผู้ป่วยที่มีอาการต้องสงสัยว่าจะเป็นไข้หวัด 2009 แพทย์จะวินิจฉัยและให้ยาทามิฟลูเพื่อต้านไวรัส และรักษาตามอาการถือเป็นการรักษาโดยใช้ยาต้านเชื้อ ซึ่งหากรอผลการวินิจฉัยจากห้องแล็ปก็ไม่ทันการณ์ ซึ่งเป็นแนวทางที่เหมาะสมที่สุดการตรวจหาเชื้อไม่ได้ช่วยให้ผู้ปกครองได้รับการรักษาที่เพิ่มขึ้นแต่อย่างใด เพราะระบบการรักษาคือการรักษาตามอาการเป็นหลัก

แหล่งข่าว : ผู้จัดการออนไลน์ / นำเสนอโดย : เชียงรายโฟกัสดอทคอม