องค์การอนามัยโลกเผยทั่วโลกพบผู้ป่วยโรคมะเร็งปีละประมาณ 13 ล้านคน เสียชีวิตปีละ 7.6 ล้านคน มากที่สุดคือมะเร็งปอด 1.37 ล้านคน สำหรับชาวเชียงรายพบมะเร็งเป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับ 1 ในปี 2554 และ 2555 พบเสียชีวิต 1,652 คนและ 1,486 คนตามลำดับ มากที่สุดได้แก่ มะเร็งปอด รองลงมาได้แก่ มะเร็งตับ มะเร็งลำไส้ มะเร็งเต้านม มะเร็งระบบทางเดินอาหาร
นายแพทย์ชำนาญ หาญสุทธิเวชกุล นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเชียงราย เปิดเผยว่า 4 กุมภาพันธ์ทุกปี องค์การอนามัยโลกและสมาคมต่อต้านมะเร็งสากลกำหนดให้เป็นวันมะเร็งโลก (World Cancer Day) เพื่อให้ประเทศต่างๆ รณรงค์ให้รู้ความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับมะเร็งและตระหนักถึงความรุนแรงของโรค เนื่องจากขณะนี้โรคมะเร็งกำลังเป็นปัญหาสาธารณสุขที่รุนแรงระดับโลก เป็นภัยเงียบคุกคามชีวิตประชาชนวัยแรงงานและผู้สูงอายุมากสุด องค์การอนามัยโลกรายงานพบผู้ป่วยโรคมะเร็งทั่วโลกปีละประมาณ 13 ล้านคน เสียชีวิตปีละ 7.6 ล้านคน มากที่สุดคือมะเร็งปอด 1.37 ล้านคน แนวโน้มจำนวนผู้ป่วยและเสียชีวิตเพิ่มขึ้นทุกประเทศ คาดว่าในอีก 16 ปีคือในปี 2573 จะมีผู้เสียชีวิตเพิ่มเป็น 13 ล้านกว่าคน
ประเทศไทยพบโรคมะเร็งเป็นสาเหตุการตายสูงอันดับ 1 ของคนไทยต่อเนื่องมานานกว่า 13 ปีตั้งแต่ปี 2543 เป็นต้นมา ล่าสุดในปี 2554 มีคนไทยเสียชีวิตจากโรคมะเร็งทุกชนิด 61,082 คน คิดเป็นร้อยละ 15 ของผู้เสียชีวิตทั้งหมดที่มีปีละ 414,670 คน โดยจำนวนผู้เสียชีวิตจากโรคนี้เพิ่มขึ้นปีละประมาณ 3,000 คน
นายแพทย์ชำนาญกล่าวอีกว่า สำหรับจังหวัดเชียงราย มะเร็งเป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับ 1 ของชาวเชียงรายต่อเนื่องมาหลายปี โดยในปี 2554 พบเสียชีวิต 1,652 คน และปี 2555 พบเสียชีวิต 1,486 คน มะเร็งที่พบมากที่สุดได้แก่มะเร็งปอด รองลงมาได้แก่ มะเร็งตับ มะเร็งลำไส้ มะเร็งเต้านม มะเร็งระบบทางเดินอาหาร ซึ่งมะเร็งแต่ละชนิดมีสาเหตุเกิดจากปัจจัยเสี่ยงหลายประการ ได้แก่ สูบบุหรี่ บริโภคอาหารไม่เหมาะสม ขาดการออกกำลังกาย ความเครียด กรรมพันธุ์ ซึ่งมีรากฐานมาจากวิถีชีวิตที่เปลี่ยนแปลงและสิ่งแวดล้อมที่ไม่เอื้ออำนวย
ในการป้องกันไม่ให้เป็นมะเร็ง ขอแนะนำประชาชนให้ปฏิบัติตัวง่ายๆ 5 ประการได้แก่ 1.ออกกำลังกายอย่างน้อยสัปดาห์ละ 5 ครั้งๆละ 30 นาที 2. ทำจิตใจให้แจ่มใส เช่น ออกกำลังกาย ไปทำบุญ ท่องเที่ยว ร้องเพลงฯ 3.กินผักผลไม้สดให้ได้วันละครึ่งกิโลกรัม ในผักผลไม้มีสารต้านมะเร็ง เช่น วิตามินเอ เบต้าแคโรทีน และมีเส้นใยอาหารทำให้ระบบขับถ่ายดี 4.กินอาหารให้หลากหลาย สด สะอาด ปราศจากเชื้อรา ลดอาหารที่มีไขมันสูง อาหารหมักดอง เค็ม อาหารปิ้งย่าง หรือทอดไหม้เกรียม และ5. ตรวจร่างกายเป็นประจำ ผู้ที่มีอายุ 30 ปีขึ้นไปควรตรวจสุขภาพอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง โดยเฉพาะผู้หญิงอายุ 30 ปีขึ้นไป ควรตรวจหามะเร็งปากมดลูก และตรวจเต้านมด้วยตนเองเป็นประจำทุกเดือน มะเร็งหากตรวจพบเร็ว รู้เร็ว มีโอกาสรักษาได้
งานข้อมูลข่าวสารสาธารณสุข 39/2557 ********************** 4 กุมภาพันธ์ 2557 |