วันที่ 5 ก.พ.57 เวลา 10.30 น. ที่โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชเชียงของ อ.เชียงของ จ.เชียงราย ศาสตราจารย์ธานินทร์ กรัยวิเชียร องคมนตรี/ประธานมูลนิธิโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช และพลเอกสุรยุทธ จุลานนท์ องคมนตรี/รองประธานมูลนิธิโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช พร้อมคณะลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมการดำเนินการของโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชเชียงของ โดยมีนายพงษ์ศักดิ์ วังเสมอ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย น.พ.ชำนาญ หาญสุทธิเวชกุล นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเชียงราย นายทรงฤทธิ์ แก้วสุทธิ นายอำเภอเชียงของ นายวสุพล จตุรคเชนทร์เดชา ส.จ.อำเภอเชียงของเขต 1 พ.ต.อ.ทรงกริช ออนตะไคร้ ผกก.สภ.เชียงของ น.พ.สมปราชญ์ หมั่นจิตร ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชเชียงของ พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการในพื้นที่ให้การต้อนรับ
สำหรับการเดินทางมาตรวจเยี่ยมในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นการสนองพระราชดำริและพระราโชบาย ของสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร องค์นายกกิตติมศักดิ์ และสร้างเครือข่ายการประสานงานพัฒนาโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชของกระทรวงสาธารณสุข คณะกรรมการมูลนิธิฯและกองงานในพระองค์ฯในการประสานความร่วมมือเพื่อพัฒนาโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชทุกแห่งสู่มาตรฐานสากล อีกทั้งยังเป็นการสร้างขวัญ กำลังใจให้กับเจ้าหน้าที่บุคลากรและผู้ป่วย ซึ่งการตรวจเยี่ยมครั้งนี้นอกจากรับฟังความก้าวหน้าการพัฒนางานที่สำคัญของโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชเชียงของแล้ว พลเอกสุรยุทธ จุลานนท์ องคมนตรี/รองประธานมูลนิธิโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช ได้เป็นตัวแทนมอบถุงของขวัญพระราชทาน แก่ ผู้ป่วยที่รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชเชียงของอีกด้วย
สำหรับ โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชเชียงของเป็นโรงพยาบาลขนาด 90 เตียง สร้างขึ้นในปี2520 ในรัฐบาลสมัย นายธานินทร์ กรัยวิเชียร เป็นนายกรัฐมนตรี เพื่อน้อมเกล้าน้อมกระหม่อมถวาย เป็นของขวัญแด่สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ เนื่องในโอกาสพระราชพิธีอภิเษกสมรส 3 มกราคม 2520 และเสด็จพระราชดำเนินทรงประกอบพิธีเปิดโรงพยาบาลเมื่อวันที่ 30 มีนาคม 2522 จากนั้นโรงพยาบาลได้พัฒนาในด้านต่างๆ เพื่อให้การบริการแก่ประชาชน ให้ดีขึ้นตลอดมา ปัจจุบันโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชเชียงขอมีบุคลากรรวมทั้งหมด 204 คนในจำนวนนี้ มีแพทย์ประจำ 7 คน แพทย์ผู้เชี่ยวชาญ 1 คน พยาบาลวิชาชีพ 64 คน ซึ่งปัจจุบันมีผู้เข้ารับบริการรักษาทั้งชาวไทยและจาก สปป.ลาวและในอนาคตคาดว่าจะมีผู้เข้ารับบริการด้านสาธารณสุขเพิ่มเพิ่มมากยิ่งขึ้นทั้งนักท่องเที่ยวชาวไทย และชาวต่างประเทศรวมทั้ง แรงงานต่างด้าว เนื่องจากอำเภอเชียงของมีโรงพยาบาลประจำชุมชนเพียงแห่งเดียว และมีเส้นทางเชื่อมต่อไปยังประเทศลาวและประเทศจีนตอนใต้ ผ่านสะพานมิตรภาพแห่งที่ 4 เชียงของ — ห้วยทราย ที่ได้เริ่มเปิดใช้ เมื่อวันที่ 11ธันวาคม 2556 ที่ผ่านมา ทำให้เสี่ยงต่อการเกิดโรคติดต่อที่อาจมาจากนักท่องเที่ยว และประชากรจากต่างด้าวที่เพิ่มขึ้นด้วย |