“บ้านสิงหไคล” ...บ้านเก่าแก่ของคุณหมอ วิลเลี่ยม เอ.บริกส์ หรือรู้จักกันในชื่อหมอบริกส์ มิชชั่นนารีผู้บุกเบิกการแพทย์ในเชียงราย ผู้ที่สร้างโรงพยาบาลโอเวอร์บรุ๊ค และยังเป็นบุคคที่มีบทบาทอย่างสูงต่อการวางรากฐานทั้งการเมือง สังคม ศาสนาและการแพทย์ ให้กับเชียงรายในสมัยก่อน มาวันนี้บ้านหลังนี้อยู่ในความดูแลของมูลนิธิมดชนะภัย คนเชียงรายขับรถผ่านไปมาก็คงคุ้นเคยกับบ้านหลังนี้เป็นอย่างดี เพราะบ้านหลังนี้ก็อยู่เยื้องๆสำนักงานป่าไม้บริเวณห้าแยกพ่อขุนฯ ใจกลางเมืองเชียงรายนี้เอง

     แต่เดิมคนเชียงรายจะเรียกว่าบ้านหมอฝรั่ง บ้านหลังนี้สร้างเสร็จในปี ค.ศ 1917 ประมาณรัชกาลที่ 6 หรือช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1  เป็นบ้านของหมอบริกส์ ในระหว่างที่ท่านอยู่เชียงราย หลังจากสร้างเสร็จบ้านหลังนี้ก็ยังใช้เป็นที่พักของมิชชันนารี ต่อไปอีกราวๆ 40-50 ปี  ...บนเนื้อที่กว่า 2 ไร่ บริเวณรอบบ้านมีต้นไม้ใหญ่อย่างต้นมะขามเก่าแก่ ที่เป็นเอกลักษณ์กับตัวบ้านมีอายุหลายร้อยปีคู่กับบ้านหลังนี้ ทำให้ดูร่มรื่นเป็นธรรมชาติ

    อาจารย์สุทธิศักดิ์ ศรลัมพ์ อาจารย์ประจำภาควิศวกรรมโยธา คณะวิศวกรรมโยธา ม.เกษตร บางเขน ผู้เชี่ยวชาญด้านธรณีและแผ่นดินไหว ที่อยู่เบื้องหลังทีมช่วยเหลือน้องๆ 13 หมูป่าที่ติดถ้ำหลวงขุนน้ำนางนอนเมื่อปีที่แล้ว อาจารย์เล่าให้เราฟังว่าใช้เวลากว่า 2 ปี กว่าจะหาบ้านหลังนี้เจอ หลังจากนั้นก็ได้ร่วมกับลูกศิษย์ตั้งเป็น “มูลนิธิมดชนะภัย” ขึ้นมา ปัจจุบันอาจารย์สุทธิศักดิ์ ศรลัมพ์ ได้เป็นประธานมูลนิธิ เป็นผู้ดูแลบ้านหลังนี้ และกำลังจะเปิดให้เข้าชมอย่างเป็นทางการเร็วๆนี้

จุดเด่นของบ้านหลังนี้อยู่ที่การก่อสร้างแบบโบราณ ชั้นล่างเป็นปูน ผนังสร้างด้วยอิฐหนา มีโครงสร้างที่แข็งแรง  แม้เชียงรายจะผ่านเหตุการณ์แผ่นดินไหวมาหลายครั้ง แต่บ้านหลังนี้ก็ไม่มีการทรุดโทรม แสดงถึงโครงสร้างตัวบ้านที่ออกแบบมาอย่างดี ชั้นล่างได้เปิดเป็นร้าน“กาแฟบ้านมด ”ให้ผู้สนใจได้เข้ามาศึกษา ซึ่งสามารถแวะเข้าไปชมและชิมกาแฟ หรือนั่งรับประทานอาหารพร้อมกับเรียนรู้เรื่องราวทางด้านศิลปะการก่อสร้าง หรือภาพวาดฝาผนังซึ่งเป็นภาพสะสมของ อาจารย์สุทธิศักดิ์ ที่ได้เก็บรวบรวมมาไว้ให้ชม ซึ่งล้วนมีความหมาย และทรงคุณค่า  

ส่วนชั้นบนของตัวบ้านมีอยู่ประมาณ 3-4 ห้อง มีตู้ไม้โบราณขนาดใหญ่ทียังคงสภาพดี แต่ละห้องแบ่งเป็นห้องจัดแสดงภาพวาดศิลปะจากศิลปินเชียงรายหลายคน ที่จะคอยผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนนำมาแสดง แต่จะเปิดให้เข้าชมเพียงเดือนละครั้งเท่านั้น และเพื่อให้ผู้ที่เข้ามาเยี่ยมชมได้รับข้อมูลที่ถูกต้อง อาจารย์สุทธิศักดิ์ ท่านจะมาเป็นผู้ที่คอยบรรยายให้ความรู้และข้อมูลเกี่ยวกับสถาปัตยกรรมการก่อสร้างบ้านหลังนี้ด้วยตนเอง  

    ในส่วนของห้องใต้หลังคาก็เป็นอีกหนึ่งจุดจุดไฮท์ไลท์ของบ้านหลังนี้ ก็คือชั้นบนสุดของตัวบ้าน ยังมีห้องใต้หลังคา ซึ่งโครงสร้างเป็นไม้เก่าที่เปิดให้เห็นทั้งหมด เป็นการป้องกันความร้อนของบ้านในสมัยโบราณ ไม่ให้ความร้อนลงสู่ชั้นล่าง เป็นอีกจุดหนึ่งในการศึกษาตัวบ้านหลังนี้ 

ในส่วนของโซนร้านกาแฟด้านล่าง ตอนนี้เปิดให้บริการทุกวัน “ร้านกาแฟบ้านมด”ภายในตัวพิพิธภัณฑ์บ้านหลังนี้ อาจจะไม่ยังไม่คุ้นตาเหล่าบรรดานักชิมมากนัก เนื่องจากเพิ่งเปิดให้บริการมาได้ไม่นาน แต่หลังจากนี้ที่นี่จะเป็นอีกร้านกาแฟที่คนกล่าวถึงมาก โดยเฉพาะคนที่ชื่นชอบงานด้านศิลปะ ใครยังติดใจเรื่องดอยนางนอน เบื้องหลังการช่วยเหลือน้องๆติดถ้ำ ถ้าโชคดีเจอท่าน อาจารย์ก็ลองฟังท่านเล่ามุมมองในการวางแผนช่วยเหลือที่ยังไม่เคยเผยแพร่บนสื่ออื่นๆ

บรรยากาศที่นี่ไม่ค่อยร้อนเท่าไหร่ ข้างนอกก็ร่มรื่น ด้านหน้าก็ยังเป็นโซนของร้านกาแฟของมูลนิธิมดชนะภัย ซึ่งเปิดให้บริการมาก่อนหน้านี้แล้ว

   และร้านกาแฟบ้านมดก็ยังเป็นอีกหนึ่งเส้นทางสายกาแฟ ไปลองชิมเมนูเด็ดอย่างอาฟเตอร์ช็อค หรือเมนช็อค อันมีแนวคิดมาจากการที่ประธานมูลนิธิมีความเชี่ยวชาญด้านธรณีวิทยา ผ่านฝีมือการชงกาแฟของน้องบาเรสต้าคิดขึ้นมาเป็นเมนูกาแฟซิกเนเจอร์ของที่นี่ 

สนใจเที่ยวชมบ้านหลังนี้ ในเดือนกรกฏาคมนี้ ปักหมุดวันเวลากันไว้ได้เลย ชั้นบนของตัวบ้าน จะเปิดให้เข้าชมในวันที่ 13 กรกฏาคม 2562 ใครสนใจประวัติเรื่องราวบ้านหลังนี้ก็ไปเที่ยวชมได้

ที่สำคัญไม่ควรพลาด ในเดือนกรกฏาคมนี้ กับโครงการเดือนแห่งชาและกาแฟ 2019 ที่การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยสำนักงานเชียงราย ร่วมกับภาคเอกชน นำร้านกาแฟดังกว่า 60 ร้านมาจัดทำโปรโมชั่น ผลักดันให้เชียงรายเป็นเมืองแช่งชาและกาแฟ

พิกัดร้าน หาไม่ยาก

กาแฟบ้านมด ในพิพิธภัณฑ์มดชนะภัย ถ.สิงหไคล เยื้องๆกับสำนักงานป่าไม้ ห้าแยกพ่อขุนฯ อ.เมือง จ.เชียงราย 

https://www.facebook.com/modchanaphaifoundation/

อาจารย์สุทธิศักดิ์ ศรลัมพ์ ประธานมูลนิธิมดชนะภัย จะพาเราไปรู้จักบ้านหลังนี้ กดรับชมคลิปด้านล่างนี้ได้เลย

https://www.youtube.com/watch?v=rWItwoX-tLc