เหนือสุดในสยาม ชายแดนสามแผ่นดิน ถิ่นวัฒนธรรมล้านนา ล้ำค่าพระธาตุดอยตุง
 

  โฟกัสที่เที่ยว : แหล่งท่องเที่ยว จ.เชียงราย
   Chiang Rai Attractions .. [Eco-tourism, Agro-tourism, Conservation tourism, Historical tourism, Cultural tourism, Helath tourism]
คลิปท่องเที่ยวเชียงราย
อัลบั้มภาพท่องเที่ยว
ข้อมูลผ่านแดนไปประเทศเื่พื่อนบ้าน
อ. เมือง    อ. เชียงของ    อ. เชียงแสน    อ. เวียงแก่น    อ. เวียงชัย    อ. เวียงป่าเป้า    อ. เวียงเชียงรุ้ง    อ. เทิง    อ. แม่จัน    อ. แม่ฟ้าหลวง    อ. แม่สาย    อ. แม่สรวย    อ. แม่ลาว    อ. พาน    อ. พญาเม็งราย    อ. ดอยหลวง    อ. ป่าแดด    อ. ขุนตาล   
ค้นหาแหล่งท่องเที่ยว :  
เลือกอำเภอ
 
< ย้อนกลับ | แหล่งท่องเที่ยวอื่นๆในอำเภอ แม่สาย
   ถ้ำปุ่ม-ถ้ำปลา
ข้อมูลติดต่อ
องค์การบริหารส่วนตำบลโป่งงาม ต.โป่งงาม อ.แม่สาย จ.เชียงราย
โทร / แฟ็กซ์ 053-709582ต่อ 11(อบต.โป่งงาม)
โฮมเพจ / เว็บไซต์ : http://www.pong-ngam.go.th/

พิกัด GPRS : 20.330875,99.863947 แผนที่ขนาดใหญ่
++ แสดงพิกัดตำแหน่งที่ตั้ง : 20.330875,99.863947 สามารถคลิกหมุน scall ที่เม้าส์เพื่อซูมแผนที่
ถ้ำปลา ตั้งอยู่ บ้านโป่งงาม ต.โป่งงาม อ.แม่สาย ลักษณะเป็นลำธารเล็กๆไหลออกจากใต้ภูเขาหินปูน ไหลทะลุผ่านภูเขาหลายเส้นทางโดยไหลออกทางหน้าปากถ้ำด้านทิศตะวันออกสายน้ำเหล่านี้มีต้นกำเนิดมาจากน้ำตกห้วยเนี้ย ถ้ำนี้วัดความกว้างได้ประมาณ 2.50 เมตร

 ความสูงวัดจากฝั่งน้ำขึ้นไป สูงประมาณ 1.50 เมตร น้ำลึกประมาณ 0.50 เมตร ซึ่งบริเวณนี้เป็นที่สนใจของนักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก เนื่องจากเป็นที่อยู่ของปลาดั้งเดิม คือ ปลาพวงเงิน ปลาไม้หีบ ตลอดจนปลาที่นักท่องเที่ยวนั้นนำมาปล่อย ได้แก่ ปลาดุก ปลาคร๊าฟ ปลาไหล ปลาทับทิม เต่า ปลาเงินปลาทอง ปลาไน เป็นต้น แต่เนื่องมาจากไม่ได้รับการดูแลเท่าที่ควร อีกทั้งนักท่องเที่ยวให้อาหารปลาจำนวนมาก ปัจจุบันจึงมีน้ำสีคล้ำ ถ้ำปลามีปลาที่มีลักษณะพิเศษ ซึ่งเกี่ยวข้องกับตำนานที่เรียกว่า “ปลาหีบหนีบปิ้ง” ซึ่งไม่มีใครพบเห็นตัวมานานแล้ว ในอดีตถ้ำนี้นักท่องเที่ยวสามารถเดินเข้าไปในถ้ำได้ลึกประมาณ 10 เมตรและมักจะพบเศษกระเบื้องดินเผา(ดินขอ) สมัยโบราณไหลมาตามน้ำด้วยนอกจากนี้บริเวณปากน้ำยังพบก้อนหินขนาดใหญ่ 3 ก้อนและลำธารที่น้ำไหลออกมานี้มีความลึก ประมาณ 3 เมตร ปลาพวงเงินและปลาไม้หีบ สามารถแหวกว่ายไปมา มองเห็นได้ชัดเจน โดยเฉพาะในตอนเช้าตรู่ พระ สามเณร และเด็กวัดมักจะให้ข้าวปู่จา (ข้าวที่เหลือจากการฉันขอพระ)เป็นอาหารต่อมาประมาณปี พ.ศ 2526พระสงฆ์ที่จำพรรษา ชื่อ พระสามซึ่งตาบอดทั้ง 2 ข้างได้ปรับปรุงและบูรณะปฎิสังขรณ์โดยขุดลอกขยายบริเวณปากถ้ำและปรับก้อนหินให้เป็นบันไดทางเข้าถ้ำบริเวณที่ต่อเนื่องกับเปลวปล่องฟ้าซึ่งอยู่ทางด้านทิศใต้




ตำนานปลา
 ตามตำนานโยนกกล่าวว่า เมื่อครั้งพระพุทธเจ้าเสด็จมาโปรดสัตว์และออกบิณฑบาตที่เมืองโยนกนาคะนครไชยบุรีศรีช้างแสน ได้ดำเนินเลียบเชิงเขามายังถ้ำลอดเปลวปล่องฟ้า ปรากฏว่ามีชาวบ้านนำปลาหนีบไม้ปิ้งมาใส่บาตร ได้ทรงอธิฐานให้ปลากลับมีชีวิตแล้วปล่อยลงรูเหวในถ้ำเปลวปล่องฟ้า พระอานนท์ก็เทน้ำออกจากบาตร เกิดเป็นธารน้ำไหลออกมาทางหน้าผาด้านตะวันออก เกิดเป็นถ้ำปลา จากนั้นพระพุทธเจ้าทรงนำก้อนหินปิดรูเหวที่เทน้ำลงไป และนำเส้นพระเกศาไว้ในหินให้เป็นที่สักการะบูชาของคนต่อไป จนกระทั้งราวพุทธศตวรรษที่ 15 เจ้าอุชุตราช ผู้ครองโยนกนคร ได้สถาปนาพระเจดีย์และบรรจุพระบรมสารีริกธาตุไว้ในถ้ำ

- ถ้ำเปลวปล่องฟ้า เป็นถ้ำที่อยู่ถัดจากถ้ำปลาไปทางทิศใต้ ถ้ำนี้ตั้งอยู่บนยอดเขามีลักษณะเป็นถ้ำทะลุสู่ท้องฟ้า แสงอาทิตย์สามารถส่องผ่านพื้นถ้ำได้ การขึ้นไปชมถ้ำนี้นักท่องเที่ยวจะต้องเดินบันไดซึ่งวัดระยะทางจากทางขึ้นบันไดชั้นแรกถึงปากถ้ำ ประมาณ 180 เมตร ที่ระยะความสูง ประมาณ 90 เมตร ทางแยกซ้ายมือ นักท่องเที่ยวสามารถเดินขึ้นบันไดไปชมยังจุดชมวิว ซึ่งมีความสูง ประมาณ 17 เมตร บริเวณนี้ สามารถมองเห็นทิวทัศน์บริเวณใกล้เคียงอย่างสวยงามอาทิเช่นแผงขายของบริเวณโรงเรียนวัดถ้ำปลาวิทยาคม บ้านห้วยปูแกง บ้านถ้ำสันติสุข เป็นต้น เมื่อเดินลงมาจากจุดชมวิวแล้ว จะเป็นทางเดินเรียบ ระยะทางประมาณ 11 เมตรจะถึงบริเวณปากถ้ำช่วงแรก ซึ่งมีช่วงกว้างที่สุดวัดได้ประมาณ 4.40 เมตร ช่วงแคบที่สุดวัดได้ประมาณ 2.50 เมตรความสูงของถ้ำช่วงนี้วัดได้ประมาณ 1.90 เมตร ภายในถ้ำได้รับการบูรณะตกแต่งด้วยการปูพื้นถ้ำด้วย หินอ่อนมีพระพุทธรูปขนาดกว้างตักกว้าง 2 เมตร สูง 2.50 เมตร ประดิษฐาน ไว้ให้บูชา ภายในถ้ำวัดความกว้างได้ประมาณ 21 เมตรลึกประมาณ 32.20 เมตร ด้านบนสุดเป็นช่อง (ปล่อง) ทะลุท้องฟ้า แสงอาทิตย์สามารถลอดผ่านได้ถึง 2 ช่อง ช่องที่ 1 กว้างที่สุดอยู่ทางทิศตะวันออกวัดความกว้างได้ประมาณ 8 เมตร สูงประมาณ 15 เมตรช่องที่ 2 อยู่ทางทิศตะวันตก วัดความกว้างได้ประมาณ 3 เมตรสูงประมาณ 20 เมตร ด้วยเหตุนี้ถ้ำนี้ ชาวบ้านจึงเรียกว่า ถ้ำเปลวปล่องฟ้า

- ถ้ำฆ้องหรือถ้ำก้อง เป็นถ้ำที่ใช้ทางเดินขึ้นร่วมกับถ้ำเปลวปล่องฟ้า คือ เมื่อถึงระยะทางประมาณ 65.40 เมตร ด้านซ้ายมือของทางขึ้นนักท่องเที่ยวสามารถเดินลัดเลาะไปตามโขดหินด้านทิศใต้ ระยะทางประมาณ 30 เมตรจะพบถ้ำก้อง(ฆ้อง) ที่มีลักษณะป็นโพรงลึกทางลงต้องปีนป่ายไปตามโขดหินถึงพื้นถ้ำ วัดความกว้างของถ้ำได้ ประมาณ 4.40 เมตร สูงประมาณ 2.10 เมตร ต่อจากบริเวณนี้เดินลัดเลาะตามโขดหินไปทางทิศตะวันออก จะพบบ่อน้ำที่ชาวบ้านเรียกว่า "น้ำบ่อทิพย์"  ซึ่งอยู่ห่างจากบริเวณแยกประมาณ 35 เมตร และภายในบริเวณนี้วัดความกว้างของถ้ำได้ ประมาณ 6.20 เมตร ยาวประมาณ 30 เมตร หลังจากนั้นจะเป็นโพรงทะลุลงสู่หน้าผาที่ สูงชันมองเห็นทิวทัศน์ของโรงเรียนบ้านถ้ำ ตชด.และบริเวณใกล้เคียงได้อย่างสวยงาม เมื่อมีเสียงดังภายในน้ำนี้ เสียงจะดังก้องทะลุออกทางโพรงด้านนี้ ชาวบ้านจึงขนานนามถ้ำนี้ว่า "ถ้ำก้อง (ฆ้อง) "

- ถ้ำน้อย เป็นถ้ำที่อยู่ห่างจาก จุดทางขึ้นถ้ำเปลวปล่องฟ้าไปทางทิศใต้ ประมาณ 100 เมตร มีลักษณะเป็นโพรงเล็กๆ มีลำธารไหลทะลุผ่าน ซึ่งมี 2 จุด จุดที่ 1 ขนาดของถ้ำกว้างประมาณ 5 เมตร บริเวณที่ลำธารไหลออกจากปากถ้ำ วัดเส้นผ่านศูนย์กลางยาวประมาณ 0.50 เมตรจุดที่ 2 อยู่ห่างจากจุดที่1 ประมาณ 20 เมตร ถ้ำบริเวณนี้มีขนาดใหญ่กว่าจุดแรก วัดความกว้างได้ประมาณ 2.40 เมตร ความสูงประมาณ 3 เมตร ธารน้ำที่ไหลออกจากถ้ำ มีเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 0.60 เมตร บริเวณนี้มีลักษณะเด่น คือ ด้านหน้ามีเถาวัลย์ของสะบ้าใหญ่ (มะบ้าใหญ่) ซึ่งแต่เดิมเคยมีค่างหางยาวใช้เป็นที่อยู่อาศัยและปีนป่ายเล่น

- ถ้ำเงิบ ถ้ำนี้อยู่ห่างจาก ถ้ำน้อยจุดที่ 2 ประมาณ 30เมตร อยู่ในเขตความรับผิดชอบของหมู่ที่ 3 บ้านถ้ำ-ปลา และอยู่ในบริเวณถ้ำเสาหิน มีลักษณะเป็นหน้าผายื่นออกมา วัดความกว้างของปากถ้ำได้ประมาณ 8 เมตร สูงประมาณ 3 เมตร ลึกประมาณ 5 เมตร ส่วนใหญ่ใช้เป็นที่หลบฝนและพักผ่อนหย่อนใจ

- ถ้ำวอก อยู่ถัดจากถ้ำเงิบไปทางทิศใต้อยู่ติดกับอ่างเก็บน้ำถ้ำเสาหิน เป็นถ้ำที่อยู่บนเนินสูง ทางเดินขึ้นค่อนข้างชัน ลักษณะเอียงประมาณ 45 องศา มีระยะทางจากสันอ่างเก็บน้ำ ถึงบริเวณถ้ำยาว ประมาณ 50 เมตร เมื่อนักท่องเที่ยวขึ้นไปถึงที่นี่จะสามารถมองเห็นทิวทัศน์ที่สวยงามของอ่างเก็บน้ำฝูงปลา นก หมู่บ้านที่อาศัยอยู่บริเวณใกล้เคียงตลอดจนทุ่งนาอันกว้างใหญ่ไพศาลของตำบลโป่งงาม

- ถ้ำเสาหินพญานาค เป็นถ้ำที่อยู่ปลายสุดของแหล่งท่องเที่ยวแห่งนี้ อยู่ในความรับผิดชอบของหมู่ที่ 3 บ้านถ้ำปลา การเดินทางไปถ้ำนี้สามารถไปได้ ทั้งทางน้ำและทางบก โดยการเดินลัดเลาะตามขอบอ่างเก็บน้ำทางทิศใต้ปากถ้ำวัดความกว้างได้ประมาณ 4.70 เมตร สูงประมาณ 2.40 เมตร ลักษณะของถ้ำเป็นโพรงสูงขึ้นในแนวดิ่งหินงอก มีลักษณะเป็นแท่ง ๆ ซ้อนกันคล้ายเสาบ้านชาวบ้านจึงเรียกถ้ำนี้ว่า ถ้ำเสาหิน ซึ่งมีลักษณะเป็น 3 ชั้นคือ ชั้นที่ 1ลึกจากปากถ้ำเข้าไปประมาณ 20 เมตรมีลักษณะเป็นแท่งนี้มีทางเดินทะลุเป็นช่อง (ปล่อง)เส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 1.50 เมตร แสงอาทิตย์ สามารถทะลุผ่านได้ทำให้มองเห็นทิวทัศน์ภายในถ้ำแห่งนี้ให้สวยงามตระการตายิ่งนัก ชั้นที่ 2 มีลักษณะเป็นหน้าผาสูงชันต้องปีนป่ายขึ้นบันไดระยะทางประมาณ 10 เมตร เป็นแท่งหินสวยงามและเด่นชัดกว่าชั้นที่ 1 ด้านทิศตะวันออกมีทางเดินสามารถทะลุผ่านเป็นทางออกของถ้ำทางหนึ่งซึ่งมีความกว้างประมาณ 4 เมตร ชั้นที่ 3 สามารถปีนป่ายไปตามแง่หินขึ้นไปประมาณ 15 เมตร เป็นแท่งหินสูงต่อ จากนั้นจะเป็นเหวลึกประมาณ 40 เมตร และทางขึ้นลงชันประมาณ 80 องศา การเดินทางช่วงนี้ควรใช้อุปกรณ์ช่วยจึงจะปลอดภัยถ้ำแห่งนี้เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวที่ชอบผจญภัยและท้าทายให้ไปพิสูจน์ยิ่งนัก

- ถ้ำกู่แก้ว เป็นถ้ำที่มีขนาดใหญ่และลึกที่สุดของบริเวณนี้ ทางขึ้นถ้ำเป็นบันได 29 ชั้น วัดความกว้างของปากถ้ำได้ประมาณ 4.60 เมตร ความสูงประมาณ2.16 เมตร ลึกประมาณ 509 เมตร ภายในถ้ำเป็นทางเดินที่คดเคี้ยวบางแห่งเป็นโพรงขนาดใหญ่บางแห่งเป็นทางเดินแคบๆต้องคลานไประหว่างทางเดินจะพบหินงอก หินย้อยที่สวยงาม ละลานตามีน้ำหยดตลอดทางเดิน ภายในถ้ำจึงชื้นและลื่นประมาณกึ่งกลางถ้ำจะพบหลุมโพรงหินลึก 2 หลุมซึ่งนักท่องเที่ยวควรระมัดระวังขณะเที่ยวชมเป็นอย่างมาก นอกจากนี้จะพบหินงอกที่ก่อตัวขึ้นใหม่ของชาวบ้านที่เรียกว่า "นมสาว" และมีบ่อน้ำเล็กๆ ภายในถ้ำเป็นระยะๆบริเวณจุดลึกที่สุด จะพบห้องพระร้อยองค์ซึ่ง พระครูบาชุ่ม ได้ปั้นไว้เมื่อครั้งที่ท่านเคยปฎิบัติกรรมฐานอยู่เรียงรายอยู่อย่างสวยงามเป็นที่ ประทับใจยิ่ง

- ถ้ำตุ๊ปู่ อยู่ถัดจากถ้ำกู่แก้วทางด้านทิศเหนือประมาณ 500 เมตรซึ่งอยู่ในบริเวณโรงเรียนวัดถ้ำปลาวิทยาคม ซึ่งมีอยู่ 2 จุด คือ จุดที่ 1เป็นถ้ำขนาดกว้างประมาณ 4.5 เมตร สูงประมาณ 2 เมตร ลึกประมาณ 4.80 เมตร ถ้ำแห่งนี้เคยได้รับการบูรณะให้เป็นอาศรมของพระที่ธุดงค์และจำพรรษามาก่อน จุดที่ 2 เป็นถ้ำที่ทะลุผ่านภูเขาทางทิศตะวันออกถึงทิศตะวันตก หน้าถ้ำทางทิศตะวันออกประดิษฐานมีพระพุทธรูปประดิษฐานอยู่ ขนาดถ้ำกว้าง ประมาณ 4.40 เมตร สูงประมาณ 2.60 เมตร ภายในถ้ำเป็นทางเดินเล็กและแคบบางแห่งสูงชัน ประกอบด้วยหินงอกหินย้อยระยิบ ระยับ สวยงามตลอด ทางเดินเมื่อทะลุถ้ำทางทิศตะวันตกจะพบทางเดินสู่ สวนสุขภาพและ สวยงามซึ่งคนในชุมชนใช้เดินทางออกกำลังกายในตอนเช้าและตอนเย็นทุกวัน

- ถ้ำปุ่ม ถ้ำนี้อยู่ในเขตบ้านดง หมู่ที่ 2 ตำบลโป่งงาม อ.แม่สาย จ.เชียงราย  เป็นถ้ำที่มีประเพณีประจำปีในการทำบุญในวันแรม9 ค่ำเดือน 6 ของทุกปี ชาวบ้านเรียกประเพณี ถ้ำปุ่ม - ถ้ำปลา 
          ถ้ำปุ่ม มีลักษณะเป็นถ้ำที่อยู่บนหน้าผาสูงจากพื้นดิน ประมาณ 30 เมตร ทางขึ้นเป็นบันได 73 ขั้น ลึกประมาณ 132 เมตร ถ้ำนี้มีลักษณะเด่น คือ บริเวณเหนือทางเดินก่อนเข้าถ้ำ จะปรากฎรูปปั้นสิงห์ อายุประมาณ 200 ปี ตั้งเด่นตรงหน้าหันหน้าไปทางทิศเหนือสูงขึ้นไป ประมาณ 16 เมตร นอกจากนี้ภายในถ้ำยังมีหินงอกเป็นปุ่ม (ทรงพุ่มข้าวบิณฑ์) เด่นชัดชาวบ้านจึงเรียกถ้ำนี้ว่า ถ้ำปุ่ม ภายใน มีพระพุทธรูปประดิษฐานอยู่ให้นักท่องเที่ยวมาสักการะบูชาด้วยภายในถ้ำ เมื่อเดินเข้าไประยะประมาณ 60 เมตรจะมีทางเดินด้านขวามือจะพบหน้าผาสูงประมาณ 3.80 เมตรกว้างประมาณ 1.50 เมตร มีลักษณะเป็นหินย้อยติดหน้าผาติดต่อกันคล้ายน้ำตกสวยงามมาก เมื่อเดินเข้าไประยะทางประมาณ 88 เมตรจะมีทางเดินแยกทางขวามือสามารถทะลุออกทางเดินเดิมอีกด้านหนึ่งได้ในลักษณะครึ่งวงกลม ระหว่างทางนี้จะมีบ่อน้ำซึ่งชาวบ้านเรียกว่า "บ่อน้ำทิพย์" มีเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 10 เมตร ต่อจากนั้นที่ระยะทางประมาณ 110 เมตร จะพบแนวหินย้อยเป็นริ้วติดต่อกับเกาะติดผนังถ้ำเป็นทางยาวติดต่อกันเป็นสีขาวคล้ายน้ำตกสวยงามมากและบริเวณปลายสุดของถ้ำมีพระพุทธรูปปางสมาธิหน้าตัดกว้าง 32 นิ้ว สูง 46 นิ้ว ตั้งเด่นเป็นสง่าให้พุทธศาสนิกชนได้สักการะบูชา

การเดินทาง รถยนต์ส่วนตัว จากออำเภอแม่จันมุ่งหน้าไปทาง อ.แม่สาย ตามทางหลวงหมายเลข 10 มีทางแยกซ้ายมือที่หลักกม. 877-878 ปากทางเข้าเป็นตลาดบ้านถ้ำ มีป้ายบอกทางไปวัดถ้ำปลาได้อย่างชัดเจน ระยะทาง 1.5 กม. ผ่านบ้านโป่งงาม วัดถ้ำปลาอยู่สุดถนน ถ้ำปลาอยู่ทางด้านซ้ายมือ ห่างจากลานจอดรถประมาณ 100 ม. ส่วนถ้ำเปลวปล่องฟ้า อยู่ถัดจากถ้ำปลาประมาณ 50 เมตร มองเห็นได้ชัดเจน ส่วนถ้ำอื่นๆก็อยู่บริเวณเดียวกันกับวัดถ้ำปลา


รูปภาพเพิ่มเิติมตามลิงค์นี้
http://www.chiangraifocus.com/forums/index.php?topic=18758.0

เปิดดู 7552 ครั้ง
แจ้งแก้ไขข้อมูล หรือเพิ่มเติมข้อมูล ส่งเมล์มาที่ ทีมงานเช็คอีเมล์ทุกวัน
 

เกี่ยวกับเรา
เกี่ยวกับเชียงรายโฟกัส
กิจกรรมของเว็บ
เงื่อนไขการให้บริการ
ติดต่อทีมงาน
ช่วยเหลือ
แจ้งปัญหาการใช้งาน/อัพเดทข้อมูล
คำถามที่พบบ่อย
คำแนะนำการใช้งานเว็บไซต์
รวมทุกหัวข้อบนเว็บไซต์ (Site Map)
ข้อมูลเพิ่มเติม
สถิติ โดยรวมของเว็บ
 
เว็บไซต์ V.2010 , V.2012 , V.2018 , V.2020
ติดต่อโฆษณา


สงวนลิขสิทธิ์ © 2007-2021 https://www.chiangraifocus.com