บ้านดอยช้าง ตั้งอยู่หมู่ที่ ๓ ตำบลวาวี อำเภอแม่สรวย จังหวัดเชียงราย 57180 เดิมเป็นที่อยู่ของชาวเขาเผ่าม้ง ปี พ.ศ. ๒๔๕๘ ชนเผ่าลีซอได้อพยพเข้ามาตั้งเป็นหมู่บ้านดอยช้าง ปี พ.ศ.๒๕๒๖ ชนเผ่าอาข่าได้เข้ามาอาศัยอยู่ในหมู่บ้านดอยช้าง ชื่อ "บ้านดอยช้าง" ตั้งขึ้นตามลักษณะของภูเขาที่มีรูปร่างเหมือนช้างแม่ลูกสองเชือก หันหน้าไปทางทิศเหนือ(ตัวจังหวัดเชียงราย) สามารถมองเห็นได้ชัดเจนที่บริเวณโรงเรียนบ้านดอยช้าง มี ผาหัวช้าง สูง 1,800 เมตร จากระดับน้ำทะเล เป็นสถานที่ชมทิวทัศน์ที่สวยงาม อากาศเย็นสบายตลอดปี อุณหภูมิเฉลี่ย 18 องศาเซลเซียส
การเดินทางขึ้นสู่ดอยช้าง
การเดินทาง มีเส้นทางขึ้นได้ ๓ สาย คือ
๑.สายอำเภอแม่สรวย -บ้านตีนดอย-แสนเจริญ-ดอยล้าน-ดอยช้าง {ระยะทาง ๒๘ กิโลเมตร (จากเชียงราย ๗๕ กิโลเมตร) }
๒. สายห้วยส้าน (อ.แม่ลาว) -ห้วยส้านลีซอ - เกษตรฯ- ดอยช้าง {ระยะทาง ๑๕ กิโลเมตร }
๓. สายอำเภอแม่สรวย-บ้านตีนดอย- ริมเขื่อนแม่สรวย - ทุ่งพร้าว - ห้วยไคร้ - ดอยช้าง {ระยะทาง ๓๐ กิโลเมตร}
จากเชียงราย เดินทางมาตามทางหลวงหมายเลข 118 ถึงบ้านตีนดอย ก่อนถึง อ.แม่สรวย ราว 10 กิโลเมตร แยกขวาเข้าที่บ้านตีนดอยไปยังบ้านทุ่งพร้าว ระยะทาง 20 กิโลเมตร แล้วเลี้ยวขวาเข้าสู่บ้านดอยช้าง ระยะทางประมาณ 8 กิโลเมตร เมื่อมาถึง จุดชมวิวดอยช้าง บริเวณโดยรอบถูกประดับด้วยดอกไม้เมืองหนาวออกดอกสีสดใสตลอดเส้นทางเข้าดอยช้างจะบานสะพรั่งไปด้วยดอกซากุระ หรือนางพญาเสือโคร่ง สีขาวอมชมพู และได้ตื่นเต้นกับ ดอกท้อ สีชมพูอ่อนและผลท้อที่กำลังเติบโต ลูกเท่าหัวแม่มือที่หาดูได้ยาก และที่นี่เป็นแห่งเดียวของประเทศไทยที่จะมีโอกาสได้เห็น ดอกซากุระขาวบาน ทั่วดอยด้วยเช่นกัน ในบริเวณจุดชมวิวทัศนียภาพโดยรอบสามารถมองเห็นทิวเขาสลับซับซ้อนกันไปอย่างสวยงาม มองเห็นไปถึงเมืองยองในประเทศพม่า และชัยภูมิที่ตั้งของ อ.เมือง จ.เชียงราย
จากจุดชมวิวดอยช้าง เดินทางต่อมาอีกราว 2 กิโลเมตร ก็จะถึง พุทธอุทยานดอยช้าง ซึ่งมีหลวงพ่ออำนาจ สีลคุโณ ได้มาปฏิบัติธรรมจำพรรษาอยู่ที่นี่ตั้งแต่ปี 2532 เป็นผู้ดูแลรักษาพุทธอุทยาน ดอยช้าง ยังคงสภาพความเป็นธรรมชาติของป่าไม้ไว้ได้อย่างสมบูรณ์มาก มีบึงน้ำขนาดใหญ่อยู่กลางพุทธอุทยาน มีสีเขียวมรกตบ่งบอกถึงความอุดมสมบูรณ์ รายล้อมไปด้วยต้นไม้ใหญ่น้อย มีเสียงกบเขียดร้องอยู่ตลอดเส้นทางเดินไปสู่ ลานพุทธสถานที่มีพระพุทธรูปปางต่างๆไว้ให้ประชาชนได้กราบไหว้สักการะบูชา ถัดจากลานพุทธสถานก็มุ่งตรงสู่ บ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ ที่มีน้ำไหลเข้าไปในบ่ออยู่ตลอดเวลาไม่เคยเหือดแห้ง และน้ำก็ยังใสสะอาดเย็นฉ่ำตลอดทั้งปี น้ำจากบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ที่พุทธอุทยานดอยช้างแห่งนี้ เป็น 1 ใน 9 ของน้ำศักดิ์สิทธิ์ที่นำไปกระทำพิธีถือน้ำพิพัฒน์สัตยาพุทธมังคลาภิเษก เนื่องในวโรกาศที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช มีพระชนมายุครบรอบ 60 พรรษา
นอกจากนั้นสามารถชม ศูนย์บริการวิชาการด้านพืชและปัจจัยการผลิตเชียงราย (สถานีทดลองเกษตรที่สูงวาวี) และ ชมทะเลหมอกบนดอยกาดผี ที่มีความสูงจากระดับน้ำทะเลถึง 1,650 เมตร เล่ากันว่าในช่วงฤดูหนาวสามารถมองเห็นทะเลหมอกได้รอบทิศ 360 องศา ลงจากดอยกาดผี จากนั้นสามารถเดินทางไปชม สวนชาของตำบลวาวี ซึ่งว่า เป็นการปลูกชาครั้งแรกในประเทศไทย เริ่มต้นที่ดอยวาวีแห่งนี้ก่อนเป็นที่แรก และยังมีต้นชาพันปี อยู่ที่กลางป่าในเขตบ้านใหม่พัฒนา ขนาด 3 คน โอบ และชม สวนส้มพันธุ์สายน้ำผึ้งก่อนเดินทางไปบ้านวาวีเพื่อ ชมวิถีชีวิตชนเผ่า ที่มีความเป็นอยู่อย่างสุขสงบอยู่รวมกันอย่างสมานฉันท์ เอื้ออาทรต่อกันทั้งหมด 13 ชนเผ่า และมีโรงเรียนสอนภาษาจีนชื่อ โรงเรียนกวางฟูวิทยาคม ตั้งอยู่ที่นี่ เด็กนักเรียนตำบลวาวี สามารถเรียนภาษาจีนได้ฟรีหรือเสียค่าใช้จ่ายน้อยมาก จึงเป็นแหล่งผลิตผู้ที่มีความรู้ทางด้านภาษาจีนอย่างดีเยี่ยมเพราะมีครูจากไต้หวันมาสอนให้โดยเด็กนักเรียนต้องพูดภาษาจีนกันทุกคนภายในโรงเรียน เมื่อเรียนถึงขั้นสูงยังมีทุนให้ไปเรียนต่อยังประเทศไต้หวันอีกด้วย...
ดอยกาดผี สูงจากระดับน้ำทะเลถึง 1,650 เมตร แหล่งชมทะเลหมอกใหม่ล่าสุด สวยที่สุดและมหัศจรรย์ที่สุดของจังหวัดเชียงราย ซ่อนความงามอยู่ในเทือกเขาดอยวาวี อำเภอแม่สรวย ใช้เวลาเดินทางโดยรถยนต์ จากเชียงรายใช้เวลาราว 3 ชั่วโมง
ช่วงเวลาที่ดีที่สุด : 05.30 - 06.30 น.
ฤดูกาลที่ดีที่สุด : เดือนพฤศจิกายนถึงเดือนธันวาคม
จุดชมวิวที่ดีที่สุด : จุดชมวิวด้านล่างและบริเวณสันเนินขึ้นดอยด้านบน
เส้นทางการเดินทาง
จากตัวจังหวัดเชียงรายใช้ทางหลวงหมายเลข 1 และ 118 ก่อนถึง อ.แม่สรวย มีทางเลี้ยวขวาขึ้นดอยวาวี พอเลยดอยวาวีจะมีทางแยกขวาขึ้นห้วยชมภู เป็นทางเล็กระหว่างหมู่บ้านต่อไปจนถึงดอยกาดผี
ทั้งนี้ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อที่ ททท.สำนักงานเชียงราย โทรศัพท์ 053 717 433, 053 744 674-5
ดอยกาดผีรูปภาพเพิ่มเติมติดตามดูที่กระทู้นี้
http://www.chiangraifocus.com/forums/index.php?topic=41024.0
http://www.chiangraifocus.com/forums/index.php?topic=320694
|